สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ผู้ไท,หัตถกรรม,ไม้ไผ่,กาฬสินธุ์
Author ศิริพร บุณยะกาญจน
Title การผลิตหัตถกรรมไม้ไผ่ของชาวผู้ไทบ้านหนองห้าง ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity ผู้ไท ภูไท, Language and Linguistic Affiliations ไท(Tai)
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 240 Year 2542
Source สาขาวิชาไทยคดีศึกษา (เน้นสังคมศาสตร์) ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
Abstract

การผลิตหัตถกรรมไม้ไผ่ของผู้ไท สืบทอดวิธีจากบรรพบุรุษเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายและใช้สอยในครัวเรือน รายได้จากการจำหน่ายขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและแรงงานที่ใช้ในการผลิต ผู้ผลิตกระเป๋าลายขิด จะมีรายได้มากกว่าหัตถกรรมประเภทอื่น เนื่องจากผลิตยากและต้องใช้เวลานาน ผลจากการประกอบอาชีพหัตถกรรมในด้านเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ผลิตมีรายได้เสริมหลังจากการทำนา ลดภาระหนี้สินและไม่มีการอพยพไปต่างถิ่น จากรายได้ที่สูงขึ้นเป็นผลทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษาของบุตรหลานสูงขึ้น ด้านสังคม ชาวบ้านได้รับยกย่องฐานะทางสังคมสูงขึ้น เป็นปัจจัยที่สร้างความสามัคคีและมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้าน มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นและทำให้ความสัมพันธ์ทางครอบครัวและเครือญาติไปในทางที่ดี เพราะคนในครอบครัวทุกคนมีส่วนร่วมช่วยกันในการผลิตหัตถกรรมไม้ไผ่ทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น รักใคร่ปรองดองกัน การผลิตหัตถกรรมไม้ไผ่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นวัสดุในท้องถิ่นและย่อยสลายง่าย แต่จากการผลิตหัตถกรรมมีผลกระทบต่อสุขภาพด้านสายตาและการปวดเมื่อยตามร่างกาย

Focus

ศึกษาระบบเศรษฐกิจของผู้ไท บ้านหนองห้าง ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และเน้นการวิเคราะห์หัตถกรรมไม้ไผ่ซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตผู้ไท

Theoretical Issues

ไม่มี

Ethnic Group in the Focus

ผู้ไท

Language and Linguistic Affiliations

ไม่มีข้อมูล

Study Period (Data Collection)

มีนาคม พ.ศ. 2541 - มีนาคม พ.ศ.2542

History of the Group and Community

บ้านหนองห้าง ก่อตั้งเป็นหลักแหล่งชุมชนที่มั่นคง ในปี พ.ศ. 2389 ชาวบ้านหนองห้างมีบรรพบุรุษเป็นผู้ไท อพยพมาจากเมืองวัง แขวงเมืองเวียงจันทน์ในครั้งที่พระมหาสงคราม ได้รับพระบรมราชโองการจากรัชกาลที่ 3 ให้ไปกวาดต้อนจากทางฝ่ายซ้ายของแม่น้ำโขง เมื่อ พ.ศ.2348 บรรพบุรุษของชาวบ้านหนองห้างอพยพมาจากเทือกเขาภูพานด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งบ้านเรือนบริเวณหุบเขาภูพาน ให้ชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านป่าไผ่" ต่อมาจึงย้ายครอบครัวจากบ้านป่าไผ่ ตั้งใจที่จะมาตั้งบ้านเรือนใกล้บ้านกุดสิมนารายณ์ ซึ่งขณะนั้นราชวงศ์กอได้รับยศเป็นเจ้าเมืองปกครองผู้ไท ระหว่างเดินข้ามเทือกเขาภูพาน ชาวบ้านได้ตัดสินใจตั้งบ้านเรือนขึ้นใหม่ให้ชื่อว่า "บ้านเหล่าเตโช" แต่เนื่องจากที่ตั้งอยู่ที่ลุ่ม ทำให้เกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติ และต่อมาได้กระจัดกระจายย้ายไปยังหมู่บ้านต่างๆ ได้แก่ บ้านนาวี บ้านหนองแสง บ้านโพนสว่าง บ้านดงเหนือ บ้านเหล่าใหญ่ บ้านคำกั้ง บ้านมะนาวและบ้านหนองห้าง การตั้งบ้านหนองห้างมีเรื่องเล่าว่า นายท้าวมีภรรยาชื่อนางเตี้ย ได้ฟังคำบอกเล่าจากเพื่อนบ้านบัวขาว ซึ่งเป็นนายพรานชื่อปากแพรกหรือตาผีม่วง บอกว่าเห็นชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งบ้าน จึงพามาดูเห็นเหมาะจริงเนื่องจากมีหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางป่า มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ นายท้าวจึงพาชาวบ้านอพยพมาสร้างที่อยู่อาศัยด้านทิศตะวันออกของหนองน้ำ เนื่องจาก รอบๆ หนองน้ำมีห้างสำหรับยิงสัตว์ จึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า "หนองห้าง" และตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านหนองห้าง" ปี พ.ศ. 2496 บ้านหนองห้างได้แยกจากตำบลบัวขาวมาขึ้นกับตำบลกุดหว้า จากนั้นปี พ.ศ.2515 ทางราชการประกาศตั้งให้เป็นตำบลหนองห้าง ซึ่งขณะนั้นมีบ้านหนองห้างอยู่ 2 หมู่บ้าน (หน้า 38-40)

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดโพธิ์ชัยมีนักเรียน 45 คน มีครูพี่เลี้ยง 3 คน (หน้า 48)

Economy

ในอดีตช่วงประมาณ 16 ปีแรกของการก่อตั้งชุมชนบ้านหนองห้างยังไม่มีการทำนาปลูกข้าวหรือทำสวน ชาวบ้านจะตระเวนหาของป่ามาแลกข้าวตามบ้านต่างๆ ต่อมามีการถางป่าเพื่อเป็นที่ทำนาทำสวน แม้จะไม่ได้ผลดีเพราะสัตว์ทำลายพืชผลแต่ก็มีข้าวกินตลอดทั้งปี (หน้า 39) ชาวบ้านหนองห้างอยู่ในระบบการผลิตแบบยังชีพ พึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก ในปัจจุบันการประกอบอาชีพหลัก ได้แก่ การทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และการผลิตหัตถกรรมจักสาน ซึ่งสร้างชื่อเสียงแก่หมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีการค้าขายและรับจ้างทั่วไป ส่วนหนุ่มสาวโดยมากทำงานที่กรุงเทพฯ (หน้า 47)

Social Organization

ชาวบ้านหนองห้างโดยมากมีเชื้อสายผู้ไท มีความขยันขันแข็ง มีความสามัคคีและมีความเอื้อเฟื้อพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เคารพนับถือผู้อาวุโสและผู้นำหมู่บ้าน ดำรงชีพแบบเรียบง่ายคล้ายคลึงกับชาวอีสานทั่วไป วิถีชีวิตผูกพันกับการเกษตร (หน้า 47 - 48) ชาวบ้านหนองห้างมีการรวมกลุ่มและองค์กรในหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาของชุมชน โดยเฉพาะปัญหาในด้านการประกอบอาชีพ เช่น กลุ่มเกษตรกรทำนา กลุ่มสตรีทอผ้าและกลุ่มสานตะกร้าลายขิด เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้าน (หน้า 58)

Political Organization

ปัจจุบันตำบลหนองห้าง ได้แบ่งการปกครองออกเป็น 8 หมู่บ้าน เฉพาะบ้านหนองห้างแบ่งเป็น 5 หมู่บ้านคือหมู่ที่ 1,2,6,7 และหมู่ที่ 8 ผู้ใหญ่บ้านปกครองทุกหมู่บ้าน และมีการแบ่งเป็นคุ้มจำนวน 18 คุ้มเพื่อให้การพัฒนาหมู่บ้านในด้านต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหัวหน้าคุ้มเป็นผู้ควบคุมโดยให้สมาชิกแต่ละคุ้มพิจารณาเลือกหัวหน้าคุ้มกันเอง (หน้า 40, 56-57)

Belief System

บ้านหนองห้างเป็นหมู่บ้านที่ยังสืบทอดประเพณีและพิธีกรรมดั้งเดิมของผู้ไท ประชาชนโดยมากนับถือพระพุทธศาสนาควบคู่กับการนับถือผี มีเพียงบางส่วนที่นับถือคริสต์ศาสนา (ร้อยละ1) ปัจจุบันผีที่ชาวบ้านหนองห้างนับถือ ได้แก่ - ผีเรือน ผีเชื้อ เป็นการนับถือผีบรรพบุรุษ แต่ละเชื้อสายจะนับถือแตกต่างกัน - ผีปอบ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นผู้มีเวทย์มนต์คาถาควบคุมผีให้อยู่ในโอวาทได้ - ผีป่าหรือผีดง เป็นผีที่อยู่ตามต้นไม้ในป่า - ผีปู่ตา เป็นผีประจำหมู่บ้าน เชื่อว่าจะคุ้มครองให้ชาวบ้านในหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข - ผีหมอ เป็นผู้ประกอบพิธีเหยา ประเพณี พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ได้แก่ - การบวช ซึ่งมีพิธีกรรมการบวชเช่นเดียวกับชาวอีสานทั่วไป นิยมบวชในเทศกาลบุญเดือน 8 (บุญเข้าพรรษา) มักจะบวชจนครบพรรษาจึงลาสิกขาบท ส่วนการบวชในเทศกาลบุญเดือน 6 (บุญบั้งไฟ) จะบวชชั่วคราว 7-15 วัน - การแต่งงาน (การบัก) มีลักษะเหมือนกับผู้ไทโดยทั่วไปซึ่งมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อนและมีลักษณะเฉพาะ การแต่งงานจะเริ่มต้นด้วยการบัก คือการถามผีของฝ่ายหญิง หลังจากนั้นจะเป็นการแปลงสาวเพื่อเลี้ยงผีฝ่ายหญิง ภายหลังจึงเป็นการโอม (การหมั้น) ต่อมาจะเป็นธรรมเนียมการเฆี่ยนเขย คือการอบรมผู้ที่จะมาเป็นเขย แล้วจึงเข้าสู่พิธี "ปะชู" เมื่อครบ 9 วัน ฝ่ายชายต้องนำสิ่งของไปไหว้ผีของฝ่ายหญิง เมื่อมีบุตรแล้ว 2 คนจะต้องมี "พิธีกินด่าง" คือการจัดเลี้ยง เมื่อมีบุตรแล้ว 4 คนจะต้องกินหมูฮ่มฮ่อยหรือกินควายและหมู - พิธีกรรมเหยา เป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วย โดยมีหมอเหยาเป็นผู้ประกอบพิธีเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของการป่วยนั้นๆ - ประเพณีตามจันทรคติ จะยึดตามฮีตสิบสอง คองสิบสี่ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับประเพณีของชาวอีสาน (หน้า 59-69) หัตถกรรมไม้ไผ่ของชาวบ้านหนองห้างนอกจากผลิตเพื่อจำหน่ายและใช้ในชีวิตประจำวันแล้วยังมีความสัมพันธ์กับความเชื่อ เป็นพื้นฐานที่ทำให้เกิดพิธีกรรม โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือเพื่อความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรและเพื่อให้คุ้มภัยหรือขจัดโรคภัย ดังเช่น ในการเกิด จะใช้กระด้งร่อนเด็กทารกเพื่อมิให้ผีมาเอาตัวเด็กไป ส่วนข้องและซอนจะแขวนภายในบ้านเพื่อเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น (หน้า 197-198)

Education and Socialization

บ้านหนองห้างมีการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เมื่อ พ.ศ. 2464 มีการจัดตั้งโรงเรียนประชาบาลขึ้นครั้งแรกในหมู่บ้านชื่อ โรงเรียนประชาบาลตำบลบัวขาว 2 ปัจจุบันบ้านหนองห้างมีโรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษา 1 โรงเรียน ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดโพธิ์ชัย รับเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี โรงเรียนระดับประถมศึกษา มี 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนหนองห้างอำนวยวิทย์และโรงเรียนหนองห้างฉวีวิทย์ รับนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1-2และรับนักเรียนในเกณฑ์บังคับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ส่วนโรงเรียนระดับมัธยมศึกษามี 1 โรงเรียนคือ โรงเรียนหนองห้างพิทยา นอกจากนี้ ในหมู่บ้านยังมีโครงการต่างๆ ที่ภาครัฐจัดขึ้นเพื่ออบรมความรู้แก่ผู้สนใจและมีที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ตั้งอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (หน้า 40, 48-52)

Health and Medicine

การรักษาโรคภัยไข้เจ็บของชาวบ้านหนองห้าง นิยม 2 ลักษณะคือ การรักษาแบบพื้นบ้านและการรักษาแบบแผนปัจจุบัน การรักษาแบบพื้นบ้าน เช่น การรักษาด้วยวิธีเหยา คือการนำผู้ป่วยไปหาหมอลำเหยาหรือหมอลำส่องมาทำพิธีควบคู่กับการใช้ยาสมุนไพร ส่วนการรักษาแบบแผนปัจจุบัน บ้านหนองห้างมีสถานีอนามัย 1 แห่ง หากผู้ป่วยอาการหนัก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหรือโรงพยาบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป (หน้า 52-53)

Art and Crafts (including Clothing Costume)

หัตถกรรมไม้ไผ่ที่ชาวบ้านผลิตมีหลายชนิดเพื่อจำหน่ายและใช้สอยในครัวเรือนโดยแต่ละชนิดมีประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกัน ได้แก่ - ข้อง เป็นภาชนะสำหรับใส่สัตว์ที่จับได้ เช่น ปู กบ เขียด กุ้ง เป็นต้น นำติดตัวได้โดยการหิ้ว สะพายหรือใช้สายผูกรัดติดกับเอว - กระบุง ใช้สำหรับใส่สิ่งของ เพื่อสะดวกในการเดินทาง ในอดีตใช้ในการชั่ง วัดผลผลิตจากการเกษตร - กระด้ง ผลิตเพื่อจำหน่ายและใช้ในการเลี้ยงไหมหรือใส่สิ่งของเพื่อนำไปตากแดด - มวยนึ่งข้าว ใช้เป็นภาชนะในการนึ่งข้าวเหนียวและนึ่งอาหารประเภทอื่นๆ - ซอน ใช้เป็นเครื่องมือจับปลาในแหล่งน้ำ - กระเป๋าลายขิด เป็นหัตถกรรมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายเพียงอย่างเดียว มิได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ลักษณะของหัตถกรรมไม้ไผ่โดยทั่วไปมีลักษณะที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมามีความงามในตัวเองจากวัสดุ ความงามอันเกิดจากลวดลายและรูปทรง (หน้า196-197)

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ชาวบ้านมีการสั่งซื้อไม้ไผ่จากจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากไม้ไผ่ในหมู่บ้านลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือมีบริษัทตัวแทนรับซื้อจากต่างประเทศ สั่งทำหัตถกรรมจักสานในรูปแบบที่ตามใจลูกค้า ซึ่งอาจทำให้คุณค่าทางด้านงานศิลป์ของหัตถกรรมไม้ไผ่ลดน้อยลง (หน้า 5)

Social Cultural and Identity Change

ปัจจุบันการผลิตหัตถกรรมจักสานลดจำนวนลง เนื่องจากวัสดุการผลิตในธรรมชาติหมดลงอย่างรวดเร็วและแรงงานในการผลิตลดลง เนื่องจากเด็กหนุ่มสาวเดินทางไปประกอบอาชีพต่างถิ่น (หน้า 48)

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

ไม่มี

Map/Illustration

สารบัญตาราง - แสดงรายได้จากการผลิตหัตถกรรมไม้ไผ่ (หน้า 174) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่จำแนกตามการเปลี่ยนแปลงค่าครองชีพ(หน้า176) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่จำแนกตามการใช้จ่ายรายได้จากการขายหัตถกรรมไม้ไผ่(หน้า 177) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามการนำรายได้ไปลงทุนด้านต่างๆ (หน้า 179) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามการเก็บออมรายได้จากการขายหัตกรรมไม้ไผ่ (หน้า 180) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามผลต่อฐานะทางสังคมผู้ผลิต(หน้า 182) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามความสัมพันธ์ทางครอบครัวและเครือญาติ (หน้า 184) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามการมีส่วนร่วมในการพัฒนา หมู่บ้าน (หน้า 185) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามผลต่อการรวมกลุ่ม (หน้า186) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามการดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ผลิต (หน้า 189) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามผลต่อการศึกษาของบุตรธิดา (หน้า 190) - แสดงจำนวนผู้ประกอบอาชีพหัตถกรรมไม้ไผ่ จำแนกตามการพักผ่อนหย่อนใจ (หน้า192) สารบัญภาพ - แผนภาพส่วนประกอบของระบบ (หน้า 7) - แสดงหนองห้างซึ่งปัจจุบันเป็นทุ่งนา (หน้า 40) - แผนที่แสดงการอพยพของผู้ไท (หน้า 41) - แผนที่แสดงที่อยู่ของผู้ไทในจังหวัดกาฬสินธุ์ (หน้า 42) - แผนที่แสดงที่ตั้ง อาณาเขตของบ้านหนองห้าง (หน้า 43) - แสดงถนนทางเข้าบ้านหนองห้าง (หน้า 45) - แสดงสถาบันการศึกษาโรงเรียนหนองห้างอำนวยวิทย์ (หน้า 49) - แสดงสถาบันการศึกษาโรงเรียนหนองห้างฉวีวิทย์ (หน้า 51) - แสดงสถาบันการศึกษาโรงเรียนบัวขาว(สาขาตำบลหนองห้าง) (หน้า 52) - แสดงสถานีอนามัยตำบลหนองห้าง (หน้า 53) - แสดงศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (หน้า 54) - แสดงที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองห้าง (หน้า56) - แสดงที่ทำการกลุ่มเกษตรกรทำนา (หน้า 59) - แสดงสถาบันทางศาสนา วัดแม่พระราชินีแห่งสันติภาพ(วัดทางคริสต์ศาสนา) (หน้า 60) - แสดงสถาบันทางศาสนา วัดโพธิ์ชัยบ้านหนองห้าง (หน้า61) - แสดงเปรียบเทียบรูปทรงระหว่างมีดโต้ชนิดป้องและมีดตอกชนิดกั้น (หน้า 73) - แสดงความแตกต่างระหว่างมีดตอกชนิดป้องและมีดตอกชนิดกั้น (หน้า74) - แสดงลักษณะเหล็กหมาด (หน้า 75) - แสดงลักษณะฆ้อนตอก (หน้า 75) - แสดงไอความร้อนหลังจากบรรจุข้าวเหนียวที่ร้อนและอุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ ข้าวเหนียวยังนุ่มเนื่องจากมีไอน้ำถูกกักไว้บางส่วนโดยผนังขอบกระติบ (หน้า 77) - แสดงกระติบข้าวที่ชาวบ้านหนองห้างผลิต (หน้า 78) - แสดงอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระติบข้าวบางชนิด (หน้า 82) - แสดงลักษณะตอกตะแคง (หน้า83) - แสดงลักษณะตอกปื้นและการจักตอกปื้น (หน้า 83) - แสดงลักษณะการผ่าหวาย (หน้า 84) - แสดงลักษณะตีนกระติบที่ทำจากไม้ยอป่าและก้านตาล (หน้า 85) - แสดงลักษณะการสานลายสองเวียน (หน้า 86) - แสดงการสานแบบลายสองเวียนและลายสองยืน (หน้า 87) - แสดงการม้วนเงื่อนตอกหรือม้วนปีกไก่ (หน้า 87) - แสดงการสานลายคุป (หน้า 88) - แสดงฝาอัตตุที่สานด้วยลายเฉลว (หน้า 89) - แสดงการสานลายเฉลว (หน้า89) - แสดงลักษณะการขัดถักชิด (หน้า 90) - แสดงลักษณะของการแนบผนังด้านนอกและด้านในของกระติบ และเย็บแบบด้นถอยหลัง (หน้า 91) - แสดงลักษณะการมัดตีนและเจาะหูร้อยเชือกกระติบหน้า (หน้า 92) - แสดงอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตของบางชนิด (หน้า 98) - แสดงลักษณะการใช้ตอกสานข้อง (หน้า 99) - แสดงลักษณะตอกกลมแฝก (หน้า 99) - แสดงลักษณะตอกที่ใช้สำหรับสานงาข้อง (หน้า 100) - แสดงลักษณะขอบปาก (หน้า 100) - แสดงลักษณะตีนข้อง (หน้า 101) - แสดงลักษณะลายสอง ไม้คัดก้นและการสานด้วยลายขัดครุ (หน้า 101) - แสดงการขอบปากข้องด้วยลายกวางเหลียวหลัง (หน้า102) - แสดงลักษณะการเสียบตีนข้อง (หน้า103) - แสดงการพันหวายแบบเวียน (หน้า103) - แสดงลักษณะงาข้อง (หน้า104) - แสดงรูปกระบุงที่ชาวบ้านหนองห้างผลิต (หน้า107) - แสดงอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระบุง (หน้า110) - แสดงลักษณะการเหลาตอกตั้งชนิดตอกปื้น (หน้า111) - แสดงลักษณะตอกกลม (หน้า111) - แสดงลักษณะของกระบุง (หน้า112) - แสดงลักษณะจังมังและไม้คัดก้นของกระบุง (หน้า112) - แสดงลายสองขัดบีและลายกาว (หน้า113) - แสดงตำแหน่งเส้นตอกที่เรียกว่าบี กึ่งกลางผนังด้านข้างของกระบุง (หน้า114) - แสดงลักษณะลายกลมห้าและลายกาว (หน้า113) - แสดงลักษณะการขอบด้วยลายมัดสอง (หน้า115) - แสดงตำแหน่งการมัดจังมังที่มุมของกระบุง (หน้า115) - แสดงการผลิตกระด้งของชาวบ้านหนองห้าง (หน้า119) - แสดงลักษณะตอกปื้นที่ใช้ทำกระด้ง (หน้า122) - แสดงลักษณะของกระด้ง (หน้า123) - แสดงการสานลายสองและการสานก้นด้วยลายกาว (หน้า123) - แสดงการมัดหวายด้วยลายมัดสองที่ของกระด้ง (หน้า124) - แสดงรูปมวยที่ชาวบ้านหนองห้างผลิต (หน้า127) - แสดงการผลิตมวยของชาวบ้านหนองห้าง (หน้า130) - แสดงลักษณะการจักตอกปื้น (หน้า131) - แสดงลักษณะการจักตอกตะแคง (หน้า132) - แสดงลักษณะของขอบปากมวย (หน้า133) - แสดงตอกปื้นที่นำมาสานลายสอง (หน้า134) - แสดงการมัดของปากการเสียบตอกและการสานลายขัดตอกชิด (หน้า135) - แสดงการสานลายสองเวียน (หน้า135) - แสดงลักษณะของมวยและชิ้นส่วนต่างๆ (หน้า136) - แสดงวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตซอนบางชนิด (หน้า141) - แสดงการปิดเงื่อนตอกของซอน (หน้า142) - แสดงการเก็บเงื่อนตอกด้วยลายม้วนปีกไก่ (หน้า142) - แสดงกระเป๋าและแจกันลายขิดที่ยังผลิตไม่เสร็จ (หน้า 145) - แสดงรางวัลจากการผลิตกระเป๋าลายขิดส่งเข้าประกวดในงานต่างๆ (หน้า146) - แสดงกระเป๋าลายขิดที่ชาวบ้านหนองห้างผลิต (หน้า147) - แสดงวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าลายขิด (หน้า150) - แสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าลายขิด (หน้า151) - แสดงลักษณะตอกตะแคง(หน้า151) - แสดงลักษณะตอกตะแคงแบบกลมแฝก (หน้า152) - แสดงลักษณะไม้คัดก้น (หน้า153) - แสดงลักษณะขอบนอกและขอบใน (หน้า153) - แสดงลักษณะหูหิ้ว(ฮวง) ( หน้า154) - แสดงลักษณะการสานลายสองตอกชิด (หน้า155) - แสดงลักษณะการสานแบบลายสามขัดครุ (หน้า155) - แสดงลักษณะการนำไม้คัดก้นขัดในแนวทแยงมุม (หน้า156) - แสดงโครงสร้างรูปทรงภาชนะ (หน้า157) - แสดงลักษณะลายขิดต่างๆ (หน้า159) - แสดงลักษณะลายมัดสองและลายจูงนาง (หน้า160) - แสดงลักษณะการมัดหวายด้วยการมัดยกดอก (หน้า161)

Text Analyst สุวิทย์ เลิศวิมลศักดิ์ Date of Report 25 ก.ค. 2559
TAG ผู้ไท, หัตถกรรม, ไม้ไผ่, กาฬสินธุ์, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง