|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ไท-ลาว,หลักเมือง,พัฒนาการ,บทบาท,อำนาจ,เทวดาประจำหลักเมือง,ประเทศลาว,ประเทศไทย,ภาคกลาง,ภาคอีสาน |
Author |
Mori Mikio |
Title |
Taikeisyuzokuno |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
-
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดสยามสมาคม |
Total Pages |
22 |
Year |
2535 |
Source |
Journal of Asian and African Studies, No.43, 1992 หน้า 123-144 |
Abstract |
ความเชื่อเรื่องเสาหลักเมืองและเทวดาเมืองหรือผีเมืองที่เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มชาติพันธ์ไท-ลาว เลยมาถึงชนชาติไทยในภาคกลางของประเทศไทยในปัจจุบัน หลักเมืองนอกจากจะทำหน้าที่ด้านความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีนัยในเรื่องของอำนาจและการควบคุมสังคม เมื่อพุทธศาสนาเข้ามาความเชื่อดังกล่าวในแต่ละแห่งจึงมีการดัดแปลงให้พุทธเหนือผี อย่างไรก็ตามหน้าที่ของหลักเมืองไม่ว่าจะเป็นพุทธหรือผีก็ยังคงแฝงเรื่องอำนาจและความอุดมสมบูรณ์อยู่นั่นเอง |
|
Focus |
ความเป็นมา ความเชื่อและข้อปฏิบัติต่อเสาหลักเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว ในประเทศลาว ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของไทย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Social Organization |
ภายใต้กฎเกณฑ์การควบคุมทางสังคมของชนชาติพันธุ์ไท-ลาว ข้อห้ามเรื่องความสัมพันธ์ชาย-หญิง ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่น การผิดผี หมายถึงการที่หญิงชายมีความสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานซึ่งถือเป็นการไม่ให้ความเคารพกับผีบรรพบุรุษของครอบครัวนั้น ๆ (หน้า 130) |
|
Political Organization |
ในภาพรวมแล้วกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาวมักเป็นรูปแบบอาณาจักรที่ปกครองโดยกษัตริย์หรือเจ้าแผ่นดินซึ่งมีความเชื่อเรื่องอำนาจผีสางและบุญกรรมเป็นตัวส่งเสริมความชอบธรรมในอำนาจเบ็ดเสร็จของกษัตริย์ (หน้า 138-139) |
|
Belief System |
กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาวมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องหลักเมืองและผีหลักเมือง ในภาคอีสานของไทยก็ปรากฏแนวคิดเรื่องหลักเมืองเช่นกัน โดยเห็นได้จากการมีอยู่ของหลักบ้านของชุมชน การดูแลหลักเมืองมีส่วนสำคัญต่อชีวิตของผู้คน ชนชาติเหล่านี้เชื่อว่าในเสาหลักเมืองมีผีอาศัยอยู่ ผีหลักเมืองนั้นมีหน้าที่ส่งเสริมให้ดินฟ้าอากาศอุดมสมบูรณ์ พืชผลเจริญงอกงาม แต่หากเสาเหล่านั้นเอียงหรือชำรุด จะทำให้อำนาจของผีเสื่อมถอยและอาจรวมถึงชะตากรรมของเมืองอีกด้วย ดังนั้น เมื่อเสาหลักเริ่มเอียงหรือชำรุดชาวบ้านจะต้องจัดพิธีกรรมซ่อมเสาหลักเมืองหรือเปลี่ยนเสาใหม่ (หน้า 125-128) ผีหลักเมืองนอกจากจะต้องเป็นผู้ดูแลหลักเมืองแล้ว ยังเป็นผู้รักษากฎเกณฑ์ทางสังคมโดยเฉพาะจารีตประเพณี หรือ ฮีตสิบสอง ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาวอีกด้วย สังเกตได้จากการใช้ภาษาของชาวอีสาน ที่ใช้คำว่า "ผิดผี" และ "ผิดประเพณี" ให้มีความหมายทดแทนกันได้ ผีมีอำนาจและอาจให้คุณหรือโทษกับมนุษย์ได้ หากมนุษย์ทำสิ่งที่ผิดผีผิดประเพณี ผีก็อาจส่งผลให้เกิดภัยพิบัติ โรคภัยไข้เจ็บหรือภัยธรรมชาติได้ ในชีวิตประจำวันของชาติพันธุ์ไท-ลาวจึงมีข้อห้ามซึ่งอาจนำไปสู่การผิดผีมากมายโดยเฉพาะข้อห้ามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ชายหญิง (หน้า 128-130) แม้ในปัจจุบันหลักเมืองก็ยังคงความสำคัญในความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับผู้ปกครองเมือง เช่น หลักเมืองมักจะมีส่วนสัมพันธ์กับกษัตริย์ในสมัยนั้น ๆ เช่น ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางหลักเมืองจะเท่ากับ 5 เท่า 7 เท่าหรือ 9 เท่าของกำมือกษัตริย์ จึงสรุปได้ว่า หลักเมืองคือตัวแทนของกษัตริย์หรือคือตัวกษัตริย์นั่นเอง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของหลักเมืองจึงหมายรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของกษัตริย์ด้วย เดิมหลักเมืองจะเป็นรูปเทพสองหน้า คือ หน้าดีและหน้าร้าย แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเทพผู้มีความเมตตา เช่นเดียวกับผู้ปกครองที่เคยใช้อำนาจเด็ดขาดมาเป็นพุทธราชาที่มีความกรุณา และหน้าที่ของหลักเมืองในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงภารกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงของกษัตริย์ (หน้า 138-139) ความคิดเรื่องแถนหลวงมีมานานแล้วและมักจะสอดคล้องกับตำนานหรือความเชื่อเกี่ยวกับกษัตริย์ เช่น มีตำนานเล่าว่ามีพญาแถนแปลงกายลงมาเป็นเจ้าเมือง หรือเรื่องที่ว่าเชื้อสายกษัตริย์สืบเชื้อสายมาจกแถนหลวง กษัตริย์ของชาติพันธุ์ไทจึงเป็น เทวบัญชาทั้งสิ้น (หน้า 140-144) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาวมีตำนานเกี่ยวกับเสาหลักเมืองว่า มีฤษีตนหนึ่งได้เอาชนะผีแถนพื้นเมืองและตั้งเสาหลักเมืองที่อาณาจักรล้านช้าง ทำให้พื้นโลกที่เคยมีแต่ความซับซ้อนวุ่นวายกลับสงบสุขได้ ฤษีเริ่มจากการสถาปนาเมืองจากนั้นจึงตั้งเสาหลักที่สำคัญของเมือง 3 แห่ง คือ ทางด้านหน้าเมืองตั้งเสาทอง ด้านหลังเมืองตั้งเสาเงินและตั้งเสาไม้ไว้ตรงกลางเมือง นัยของเสาหลักทั้ง 3 เสานี้คือ 1. เป็นเสายึดมั่นเมืองหรือ lak man 2. ทำหน้าที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมือง หรือ lak pathomhaothi และ 3. เป็นเสาที่แสดงถึงศูนย์กลางอำนาจแห่งใหม่ เรียกว่า lak maiphaendin หลังจากตั้งเสาแล้วฤษีก็ได้ขอให้พญานาคดูแลเมืองจนกว่าผู้นำที่มีบารมีซึ่งก็คือขุนบรมจะลงมาปกครอง (หน้า 122-125) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
การนับถือหลักเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาวในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการแทรกตัวเข้ามาของพุทธศาสนาซึ่งมีความซับซ้อนและมีอำนาจในการฟื้นฟูมากกว่า ดังเช่น พลังในการรักษาอำนาจของเสาเปลี่ยนจากอำนาจของผีมาเป็นเทวดา ต่อเนื่องมาถึงสยามเทวดาหลักเมืองได้กลายตัวมาเป็นเจ้าพ่อหลักเมือง พระหลักเมืองและแถนหลวงผู้มีอำนาจในการปกปักรักษาสูงที่สุดในระดับประเทศ นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนตั้งแต่ผีหลักเมืองของชาติพันธุ์ไท-ลาว มาสู่แถนหลวงกรุงเทพ ก็ยังปรากฏความคิดข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ ต่อแถน และแถนหลวงยังมีหน้าที่และนัยเกี่ยวข้องกับเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ (หน้า 131-137) |
|
Text Analyst |
Tatsuo Iida, Sivarin Lertpusit |
Date of Report |
25 ก.ย. 2567 |
TAG |
ไท-ลาว, หลักเมือง, พัฒนาการ, บทบาท, อำนาจ, เทวดาประจำหลักเมือง, ประเทศลาว, ประเทศไทย, ภาคกลาง, ภาคอีสาน, |
Translator |
- |
|