|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),เอกลักษณ์ชาติพันธุ์,สังคมวัฒนธรรม,วิถีการผลิต,การเปลี่ยนแปลง,แม่ฮ่องสอน |
Author |
Shigeru Iijima |
Title |
Ethnic Identity and Sociocultural Change among Sgaw Karen in Northern Thailand |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
20 |
Year |
2522 |
Source |
A Publication of the Institute for the Study of Human Issues Philadelphia. |
Abstract |
ผู้เขียนบรรยายการเปลี่ยนแปลงสังคมวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงสกอร์ มาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีการผลิต จากการทำไร่ข้าวบนที่สูง (swidden cultivation) มาเป็นทำนา (wet-rice) |
|
Focus |
การเปลี่ยนแปลงเอกลักษณ์ชาติพันธุ์ (ethnic Identity) ของกะเหรี่ยงสกอร์ อ.แม่สะเรียง โดยเปรียบเทียบระหว่างชุมชนกะเหรี่ยงที่ตั้งหมู่บ้านบนที่สูงกับชุมชนกะเหรี่ยงที่ตั้งชุมชนในที่ราบ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสังคมวัฒนธรรและเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ นั้นผู้เขียนสนใจที่เกี่ยวเนื่องมาจากการเปลี่ยนแบบวิถีการผลิตจากการเกษตร swidden cultivation มาเป็นการทำนา หรือ wet-rice cultivation |
|
Theoretical Issues |
ไม่ชัดเจนมากนักแต่คาดว่าผู้เขียนใช้แนวคิดแบบวิถีการผลิต (mode of production) และแนวคิดประวัติศาสตร์แบบ วัตถุนิยมประวัติศาสตร์ ของมาร์ก และแนวคิดเรื่องเอกลักษณ์ identity การเปลี่ยนแปลงสังคมวัฒนธรรมและ identity เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนวิธีการผลิตข้าว ผู้เขียนใช้แนวคิด identity ในลักษณะแก่นแกนของความชาติพันธุ์ |
|
Ethnic Group in the Focus |
กลุ่มชาติพันธุ์หลักในบทความ คือ กะเหรี่ยงสะกอ (Sgaw Karen) และเปรียบเทียบกับกลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยงโปร์ (Pow) ในพื้นที่ใกล้เคียง |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
21 เดือนเริ่มจาก ปี ค.ศ.1963-1965 |
|
History of the Group and Community |
การจัดตั้งชุมชนแม่ฮาคี่และแม่โฮ เมื่อไหร่นั้นค่อนข้างคลุมเครือ แต่น่าจะจัดตั้งชุมชนประมาณกลาง คริสต์ศตวรรษที่ 19 ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้กะเหรี่ยงจะอพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือได้มากกว่า 200 ปี แล้วก็ตาม แต่การจัดตั้งเป็นชุมชนแม่ฮาคี่เพิ่งมีอายุได้ 126 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีชุมชนลัวะจัดตั้งชุมชนที่นั่นมาก่อน แต่ผู้เขียนก็ตั้งข้อสังเกตว่า ชุมชนแม่ฮาคี่น่าจะจัดตั้งชุมชนที่อื่นในละแวกใกล้เคียง ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในที่ตั้งปัจจุบัน เมื่อจัดตั้งชุมชนใหม่ ๆ กะเหรี่ยงสกอร์ได้มีโครงสร้างชุมชนที่เป็นลักษณะที่เรียกว่า long house ซึ่งมีชาวต่างประเทศชื่อ J.P. Anderson ได้เดินทางมาพบเมื่อปี 1920s แต่ภายหลังชุมชนก็ได้มีการแยกครอบครัวออกไป ลักษณะที่เรียกว่า long house คือ มีการอาศัยอยู่รวมกันหลายครอบครัว อาจจะมากกว่า 10 ครอบครัว ลักษณะบ้านปลูกด้วยบ้านไม้ไผ่ และมีห้องใหญ่ ๆ อยู่เพียงห้องเดียว ทุกคนอาศัยกินอยู่ในห้องเดียวกัน |
|
Settlement Pattern |
กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงปลูกบ้านด้วยไม้ไผ่ เดิมจะอยู่รวมกันหลายครอบครัวอาจจะถึง 20 ครอบครัว เรียกว่า long house แต่ก็เป็นช่วงระยะไม่กี่ปีแรกหลังตั้งชุมชน ปัจจุบันปลูกบ้านด้วยวัสดุไม้ไผ่ หลังขนาดเล็ก อยู่อาศัยเป็นครอบครัว กลุ่มดั้งเดิมอาศัยอยู่บนภูเขา แต่ภายหลังมีบางส่วนซึ่งเป็นส่วนน้อยได้ย้ายลงมาอยู่พื้นที่ราบ ประมาณได้สองชั่วอายุคน |
|
Economy |
ชุมชนทำการเกษตรแบบ ตัดฟัน-เผา (slash-burn) หรือ swidden cultivation แต่เมื่อเริ่มเข้าคริสต์ศตวรรศที่ 20 ได้เปลี่ยนแปลงมาทำการเกษตรด้วยการทำนาน้ำขังมากขึ้น (wet-rice) |
|
Social Organization |
ผู้เขียนอธิบายโครงสร้างสังคมและการเมืองของกะเหรี่ยงสกอร์ อย่างสัมพันธ์ต่อกันและไม่ได้แยกออกมาอย่างเด่นชัด ผู้นำชุมชนเรียกว่า pomohe แต่เดิมเรียกว่า sappga เป็นผู้นำทางพิธีกรรมและผู้นำในเรื่องทางโลก ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหารและควบคุม (รัฐบาลไทยได้เข้ามาควบคุมหมู่บ้าน คริสต์ศตวรรษที่ 19) ผู้นำจะทำหน้าที่สองอย่างคือผู้นำทางด้านศาสนาและผู้นำทางโลก (p102-p103) วัฒนธรรมของกะเหรี่ยงสกอร์และองค์กรชุมชนค่อนข้างเป็นอิสระจากรัฐฯ พวกเขามีการปกครองตนเอง ซึ่งพื้นฐานองค์กรชุมชนมาจากระบบการผลิตข้าวแบบ swidden cultivation แต่ในระยะหนึ่งของช่วงเริ่มต้นชุมชนที่ผู้เขียนศึกษาจะมีการจัดตั้งองค์กรชุมชนแบบ long house แต่พื้นฐานเป็นสังคมที่รวมกลุ่มแบบครอบครัวและการเกษตร และมีการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนด้วยการจัดพิธีกรรม Oxe ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีต่อบรรพบุรุษ |
|
Belief System |
คนกะเหรี่ยงสกอร์นับถือผีหรือวิญญาณบรรพบุรุษที่เรียกว่า Bgha เป็นหลัก (p.107) และยังนับถือผีหรือเทพผู้คุ้มครองแม่นำและแผ่นดิน (Lord of water and Lnad) หรือคำภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า "hti' k' sa kaw k'sa" ซึ่งการนับถือคล้ายกับที่เรียกว่า คนฉานซึ่งเรียกว่า "phi caothi cho ang cho muang" และคล้ายกับคนไทยภาคเหนือที่เรียกว่า "Deity of the Land" (p.113-115) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
ผู้เขียนไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาดูแลสุขภาพแต่ได้อธิบายว่า คนกะเหรี่ยงสกอร์นิยามความเจ็บป่วยว่ามาจาก วิญญาณของบรรพบุรุษโกรธ ผู้ที่สามารถแก้ไขโรคร้ายได้โดยการประกอบพิธีกรรม Oxe โดยผู้หญิงที่อาวุโสที่สุดในบ้าน ได้แก่ ยายหรือแม่ |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ผู้เขียนอธิบายว่า Identity ของกะเหรี่ยงสกอร์ สืบทอดมาจากความเชื่อกะเหรี่ยงเกี่ยวกับ "Bgha" และการปฏิบัติพิธีกรรม "Oxe" (p.107) Bgha คือวิญญาณของบรรพบุรุษของครอบครัว เรียกว่า "Dupuweh" เป็นการนับถือวิญญาณหรือผีหรือการนับถือสายตระกูลฝ่ายมารดา (matrilineally) เมื่อผู้ชายแต่งงานแล้วก็จะย้ายมาถือผีฝ่ายภรรยา พิธีกรรม Oxe คือพิธีที่จัดขึ้นเพื่อปลอบวิญญาณฝ่ายแม่ของตระกูล วิธีการก็คือการประกอบพิธีเลี้ยงอาหารให้แก่ Bgha ประกอบพิธีเมื่อมีคนในครอบครัวเจ็บป่วย หรือโชคร้าย ผู้ประกอบพิธีกรรมคือผู้หญิงในรุ่นถัดมาภายหลังผู้หญิงที่อาวุโสสูงสุดเสียชีวิต ส่วนใหญ่คือยายหรือแม่ (p.108) ความเจ็บป่วยหรือโชคร้ายถูกอธิบายว่ามาจากความไม่พอใจของวิญญาณบรรพบุรุษ หรือ Bgha ผู้นำในบ้านจึงประกอบพิธีกรรม (Oxe) เพื่อปลอบวิญญาณหรือขอขมาต่อ Bgha หรือ Dupuweh คนกะเหรี่ยงสกอร์ที่อยู่ที่ราบ ตั้งใกล้กับตัวอำเภอ แม่สะเรียง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการผลิต แบบ swidden cultivation มาเป็น wet-rice เขาได้รับพิธีกรรมเกี่ยวกับการทำนาข้าวมาด้วย แต่ กะเหรี่ยงสกอร์บนภูเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะดังกล่าว |
|
Social Cultural and Identity Change |
ผู้เขียนอธิบายการเปลี่ยนแปลง identity ของกะเหรี่ยงสกอร์มาจากประเด็นหลักคือการเปลี่ยนแปลงการผลิต จาก swidden cultivation มาเป็น wet-rice cultivation หรือเปลี่ยนจากชุมชนภูเขาไปเป็นชุมชนชาวนา ซึ่งได้รับการเรียนรู้จากคนเมืองและคนลัวะ แต่เนื่องจาก identity ของกะเหรี่ยงสกอร์ค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับความเป็นสายตระกูล (kinship) และการประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างพิธีกรรม Oxe ถึงแม้กะเหรี่ยงสกอร์บางชุมชนจะมีการตั้งชุมชนในที่ราบแต่ identity ของความเป็นกะเหรี่ยง (Karenness) ยังมั่นคง และถึงแม้จะมีกะเหรี่ยงสกอร์บางส่วน เปลี่ยนศาสนาเป็นพุทธหรือคริสต์ และรับประเพณีของคนไทยไปปฏิบัติค่อนข้างหลากหลาย เช่น สงกรานต์, ลอยกระทง และอื่น ๆ จนถึงการรุกรานทางด้านเศรฐกิจการเงินจากภายนอกเข้าสู่ชุมน (p.115) แต่ไม่กระทบกับ การเปลียนเปลี่ยนแปลง identity เพราะถึงแม้จะยังยึดมั่นใน identity ที่จะต้องเข้าร่วมพิธีกรรม Oxe แต่ก็มีความยืดหยุ่นสูงที่จะสามารถปรับโอกาสการเข้าร่วมได้อย่างเหมาะสม การเปลี่ยนแปลงไม่ได้พัฒนาไปทางด้านเดียวกันทุกกลุ่ม การเปลี่ยนแปลงเข้าหาคนไทยพื้นราบมิได้เกิดในลักษณะการผสมผสานกลมกลืนทางชาติพันธุ์แต่อย่างใด (assimilation) (p.116-117) คนกะเหรี่ยงบนภูเขายังยึดถือเรื่อง เลือดบริสุทธิ หรือ purity of blood แต่พวกพื้นราบไม่ให้ความสำคัญ แต่ยึดถือการดูแลวัฒนธรรมตนเองมากกว่า pure-blood |
|
|