|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง ผู้ลาว โซ่ง ไตดำ,ความหมาย,พิธีกรรมเสาหลักเมือง,เอเชียอาคเนย์ |
Author |
Mori Mikio |
Title |
Taikeisyuzokuno “Kuninihashira” Shisaiwo Megustute-Taikeibunkarikaino-Shikaku |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาญี่ปุ่น |
Ethnic Identity |
ไทดำ ลาวโซ่ง ไทยโซ่ง ไทยทรงดำ ไทดำ ไตดำ โซ่ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดสยามสมาคม |
Total Pages |
18 |
Year |
2532 |
Source |
สถาบันวิจัยวัฒนธรรมเอเชียอาฟริกา เล่มที่ 38 |
Abstract |
พิธีกรรม ความเชื่อและความหมายเกี่ยวกับหลักเมืองของชาติพันธุ์ไทดำ รวมถึงความเชื่อเกี่ยวกับผีที่เชื่อมโยงสอดคล้อง กับโครงสร้างทางการเมืองของไทดำ |
|
Focus |
ความเชื่อและการปกครองของชาติพันธุ์ไทดำ |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
กลุ่มชาติพันธุ์ไทเริ่มมีการก่อตั้งอาณาจักรในศตวรรษที่ 13 (หน้า 91) |
|
Economy |
นิยมปลูกข้าวเป็นหลัก (หน้า 91) |
|
Political Organization |
หน่วยทางการเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ไทคือ เมือง (muang/muong/mong/meng/mung)(หน้า 91) กรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดในเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ไทอยู่ในมือของเจ้าเมือง (chao muong) และเจ้าเมืองก็ใช้ที่ดินเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจเบ็ดเสร็จในการปกครอง โดยมีหลักเมืองเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของเจ้าเมืองและที่ดิน หรือ อำนาจในมือเจ้าเมือง (หน้า 96) รูปแบบการขยายอำนาจในอดีตนั้น หากเจ้าเมืองใดสามารถรบชนะเมืองอื่นได้ และเข้าไปยึดครองที่ดินของเมืองนั้นๆ เจ้าเมืองจะให้ตั้งเสาหลักเมืองเพื่อเป็นการแสดงถึงชัยชนะ นอกจากนี้ ยังแสดงถึงสิทธิในการเป็นเจ้าผู้ปกครองผืนดินบริเวณนั้นด้วย เมื่อเจ้าเมืองยึดดินแดนได้เพิ่มก็จะมีพิธีกรรมตั้งเสาหลักเมืองขึ้น โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ การขอให้เมืองใหม่นี้มีความเจริญรุ่งเรือง สงบสุข และยั่งยืน (หน้า 96-97) โครงสร้างการปกครองของเมือง ประกอบด้วย "เชียง" (chieng) เป็นเขตหลัก รองลงมาคือ บ้าน (ban) หน่วยย่อยที่สุดคือ เรือน (huan) ซึ่งสอดคล้องกันกับโครงสร้างทางศาสนา (หน้า 103) หลักเมืองมีพลังอำนาจสองอย่างคือ อำนาจของเจ้าเมืองซึ่งสืบเชื้อสายมาจากแถนหลวง (มีกล่าวใน folklore) อีกพลังอำนาจคือ สถานที่เนื่องจากเสาหลักเมืองตั้งอยู่ในเมือง จึงมีอำนาจในการปกป้องคุ้มครองเมือง หลักเมืองหรืออีกชื่อหนึ่งว่า หลักเชื้อ จึงมีนัยหมายถึงความสอดคล้องของเชื้อสายของผู้ปกครองของเมืองและสวรรค์ ซึ่งการปรากฏของสัญลักษณ์หลาย ๆ สัญลักษณ์ภายในเสาหลักเมือง จึงทำให้หลักเมืองมีบทบาทในทางการปกครองได้เป็นอย่างดี (หน้า 105-106) |
|
Belief System |
พิธีบูชาเสาหลักเมือง (lak muang/lak muong) เป็นพิธีกรรมที่มีความสัมพันธ์กับสังคมของชาติพันธุ์ไทเป็นอย่างมาก พิธีนี้เกิดขึ้นก่อนที่อิทธิพลของพุทธศาสนาและระบบการเมืองจะเข้ามาในดินแดนของคนไท พิธีกรรมนี้มีความหมายเก่าแก่ ยาวนานและเผยแพร่ไปยังเผ่าพันธุ์ไททุกเผ่า (หน้า 92) เสาหลักเมือง ซึ่งแต่ละเมืองจะมีเพียง 1 เสาเท่านั้น แสดงถึงความเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการปกครองที่สูงที่สุดของเมืองนั้น ๆ ผู้มีสิทธิ์ในการทำพิธีบูชาต้องเป็นชนชาติพันธุ์ไทเท่านั้น ไทดำซึ่งอาศัยอยู่ในเวียดนามถือเป็นกลุ่มที่รักษาพิธีบูชาเสาหลักเมืองนี้ได้ดั้งเดิมที่สุด เนื่องจากไทดำยังนับถือผีอย่างเหนียวแน่น และไม่ได้รับอิทธิพลพุทธศาสนาจากอินเดียเหมือนเช่นกลุ่มไทขาวและไทแดง (หน้า 92-93) ในสังคมของกลุ่มไทดำ หลักเมืองแสดงถึงความสามารถ ศักดิ์ศรีและอำนาจที่สมบูรณ์ของผู้ปกครอง (หน้า 95-96) เสาหลักเมือง เป็นเสมือนสิ่งรูปธรรมของผีเมือง บริเวณรอบหลักเมืองจะมีการแบ่งพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผีและเทวดาไว้ ห้าม ไม่ให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าไปโดยเด็ดขาด เจ้าเมืองสามารถเข้าไปในบริเวณนั้นได้เฉพาะในพิธีกรรมเท่านั้น เนื่องจากเชื่อว่ามีเพียงเจ้าเมืองเท่านั้นที่จะมีความสัมพันธ์กับผีเมืองได้ (หน้า 97) หลักเมืองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "หลักเสื้อ" (lak suo) (คำว่า "เสื้อ" มาจากคำว่า เชื้อ หมายถึง เชื้อสาย) และพิธีกรรมหลักเมืองเป็นพิธีกรรมที่สืบเชื้อสายทางพ่อของเจ้าเมือง (หน้า 97-98) พิธีเลี้ยงผีของกลุ่มไทดำแบ่งได้เป็น 2 ระดับ คือ ระดับทางการและระดับปัจเจก คือในหมู่บ้านที่เจ้าเมืองอาศัยอยู่ (หมู่บ้านที่มีความสำคัญทางการเมือง) จะมีผีอาศัยอยู่ 2 ชนิด คือ ผีหลักเมือง และผีเมือง (phi muang) ผีเมืองมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองเมืองและคนในเมืองทั้งหมด ต่างจากผีหลักเมืองที่ผีหลักเมืองจะเป็นเสมือนผีของเจ้าเมืองเท่านั้น ในการทำพิธีกรรมบูชานั้นเจ้าเมืองเป็นบุคคลสำคัญในพิธีกรรมทั้งหมด แต่พิธีกรรมเลี้ยงผีเมืองซึ่งอนุญาตให้ชาวบ้านมาเข้าร่วม ถือเป็นพิธีกรรมในระดับทางการ ขณะที่พิธีบูชาผีหลักเมืองจะกีดกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าเมืองออกไป (หน้า 98) แสนเมือง (xen muong/sen muong) เป็นพิธีกรรมหนึ่งซึ่งแสดงลักษณะพิเศษของผีเมือง คือ แสนเมืองเป็นเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มการผลิตของปี เจ้าเมืองเป็นผู้จัดงาน เรียกผีเทวดาต่าง ๆ และถวายของแทนชาวบ้านทั้งหมด นอกจากเทวดาต่างๆ ยังเรียกผีบรรพบุรุษของเจ้าเมืองด้วย ซึ่งเจ้าเสื้อ (chau sua) เป็นที่สถิตย์ของพลังชีวิตและวิญญาณของเจ้าเมือง(หน้า 99) พิธีกรรมต่าง ๆ จะสอดคล้องกับชนชั้นในโครงสร้างการปกครอง ชนชั้นในโครงสร้างของผี และชนชั้นในโครงสร้างทางสังคม (หน้า 104) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
นิทานเกี่ยวกับการเกิดของชาติพันธุ์ไทดำเกี่ยวกับแถนหลวง (แถนหลวงถือเป็นเทพสูงสุดที่ดูแลทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ เป็นผู้ควบคุมชะตากรรม และกำหนดพฤติกรรม รวมถึงชีวิตประจำวันของมนุษย์ (หน้า 105) นิทานเน้นถึงความเป็นเชื้อสายเดียวกันของแถนหลวงซึ่งเป็นเทวดาที่มีอำนาจสูงสุด กับตระกูลลอคำซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมือง ในนิทานกล่าวว่าบรรพบุรุษของตระกูลเจ้าที่ดินลอคำนั้น เป็นลูกหลานโดยตรงของแถนหลวง และตระกูลนี้ก็ได้สร้างเมืองของตระกูลขึ้นมา (หน้า 102) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงการสอดแทรกงานรื่นเริงในงานพิธีกรรมแสนเมืองในส่วนของชาวบ้าน ได้แก่ การร้องเพลง ฟ้อนรำ กิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งงานรื่นเริงนี้บางครั้งก็ยาวนานต่อเนื่องไปเป็นสัปดาห์ (หน้า 100) ความแตกต่างของผีเมืองและหลักเมือง คือ หลักเมืองเป็นสิ่งที่ผูกติดกับอำนาจ เป็นสิ่งแทนอำนาจการปกครอง เจ้าเมือง และเจ้าที่ดิน เป็นสัญลักษณ์ของระบบการปกครองแบบเจ้าเมือง ขณะที่ผีเมืองเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตทางการเกษตร เป็นสิ่งแทนของเกษตรกร ที่ดินและการเกษตร และเป็นสัญลักษณ์หมายถึงความเป็นชุมชน เมื่อนำเอาทั้งระบบการปกครองแบบเจ้าเมืองและความเป็นชุมชนมารวมกันแล้ว จะก่อให้เกิดเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของชนชาติพันธุ์ไทดำ (หน้า 100-101) |
|
|