สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู,ข้าราชการระดับอำเภอ,ทัศนคติ,โครงการพัฒนา,เศรษฐกิจสามฝ่าย,อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย,จังหวัดชายแดนภาคใต้
Author สรัญญา โชติรัตน์
Title ทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
Document Type อื่นๆ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม, Language and Linguistic Affiliations ไม่ระบุ
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 74 Year 2539
Source คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Abstract

การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบถึงระดับทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย 2) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย โดยได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างจากหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 367 คน ผลการศึกษาพบว่า

(1) หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอมีทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอยู่ในระดับปานกลาง

(2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอที่มีต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย ได้แก่ กรมที่สังกัด กระทรวงที่สังกัด ของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอและด้านการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย ส่วนตัวแปรด้านอื่นๆ ไม่มีความสัมพันธ์ต่อทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ณ ระดับนัยยะสำคัญทางสถิติที่ 0.05

Focus

การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบถึงระดับทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย 2) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย

Theoretical Issues

ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างจากหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 367 คน การเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ข้อมูลของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ส่วนที่สอง คือทัศนคติต่อโครงการ ส่วนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ความแปรปรวนทางเดียว (F-test) และค่า t-test ขั้นตอนและวิธีการเก็บข้อมูล 1. การวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ซึ่งเป็นการค้นคว้าเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยการใช้แบบสอบถามปลายปิดถามต่อหัวหน้าราชการระดับอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 38) - ไม่มีข้อสรุปเชิงทฤษฎี

Ethnic Group in the Focus

การศึกษาครั้งนี้จะเน้นประชากรที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอของสี่กระทรวงหลักในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งห้าจังหวัด โดยแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ (1) นายอำเภอหรือปลัดอำเภอ (2) หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรหรือกิ่งอำเภอ (3) พัฒนาการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ (4) ศึกษาธิการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ (5) ผู้อำนวยการศึกษาประถมอำเภอหรือกิ่งอำเภอ (6) เกษตรอำเภอหรือกิ่งอำเภอ (7) สาธารณสุขอำเภอหรือกิ่งอำเภอ (หน้า 8)

Language and Linguistic Affiliations

ความสามารถในภาษาถิ่นมลายูของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -ระดับมีความเข้าใจบ้าง จำนวน 218 คน คิดเป็นร้อยละ 59.4 -ระดับไม่มีความเข้าใจเลย จำนวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 21.5 -ระดับมีความเข้าใจดี จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 10.4 -ระดับเข้าใจค่อนข้างดี จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 8.7 (หน้า 49)

Study Period (Data Collection)

ใช้ระยะเวลาในการศึกษาเก็บข้อมูล วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2539 (หน้า 7)

History of the Group and Community

ไม่มีข้อมูล

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

เพศของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -เพศชายมีจำนวน 336 คน คิดเป็นร้อยละ 91.6 -เพศหญิงมีจำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 8.4 (หน้า 44) อายุของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -อายุระหว่าง 41 - 50 ปี จำนวน 166 คน คิดเป็นร้อยละ 45.2 -อายุระหว่าง 51 - 60 ปี จำนวน 101 คน คิดเป็นร้อยละ 27.5 -อายุระหว่าง 31 - 40 ปี จำนวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 25.6 -อายุต่ำกว่า 31 ปี จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 (หน้า 45) ภูมิลำเนาเดิมของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -ภูมิลำเนาเดิมมาจากภาคอื่นๆ จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 9.5 -ภูมิลำเนาเดิมจากภาคใต้ตอนบน จำนวน 110 คน คิดเป็นร้อยละ 30.0 -ภูมิลำเนาอยู่ในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 222 คน คิดเป็นร้อยละ 60.5 (หน้า 46)

Economy

จากการสำรวจข้อมูลความยากจนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อปลายปี 2536 พบว่า คนยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อปี มีทั้งสิ้น 134,531 คน จำนวน 26,995 ครอบครัว โดยแยกตามจังหวัด ดังต่อไปนี้ (1)จังหวัดยะลา 12,609 คน จำนวน 2,674 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 9.91 (2)จังหวัดปัตตานี 41,047 คน จำนวน 9,105 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 33.73 (3)จังหวัดนราธิวาส 15,158 คน จำนวน 4,022 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 14.94 (4)จังหวัดสงขลา 48,158 คน จำนวน 8,161 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 30.23 (5)จังหวัดสตูล 15,547 คน จำนวน 2,993 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 11.19 (หน้า 3)

Social Organization

ไม่มีข้อมูล

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

การนับถือศาสนาของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -ศาสนาพุทธ จำนวน 313 คน คิดเป็นร้อยละ 85.3 -ศาสนาอิสลาม จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 14.7 (หน้า 48)

Education and Socialization

ระดับการศึกษาของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ -ระดับการศึกษาปริญญาตรีจำนวน 231 คน คิดเป็นร้อยละ 62.9 -ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีจำนวน 87 คน คิดเป็นร้อยละ 23.7 -ระดับการศึกษาปริญญาโทจำนวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 13.4 (หน้า 47)

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มีข้อมูล

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

ไม่มีข้อมูล

Social Cultural and Identity Change

ไม่มีข้อมูล

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

นอกจากนี้ยังศึกษาความเป็นมาของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย ขอบเขตของโครงการ วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง เป้าหมายการพัฒนา แนวทางหลักในการดำเนินการ ระยะเวลาของแนวทางการดำเนินงาน รูปแบบการจัดตั้งองค์กร อุปสรรคและความเป็นไปได้ของโครงการ ผลดีผลเสียของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย นอกจากนี้ ยังสรุปแนวความคิดและทฤษฎีขงทัศนคติทั้งความหมายของทัศนคติ, คุณลักษณะของทัศนคติ และองค์ประกอบของทัศนคติ นอกกจากนี้ ยังสรุปผลการวิจัยเรื่องทัศนคติในงานวิจัยชิ้นต่างๆ และสรุปงานวิจัยที่เกี่ยวกับห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้

Map/Illustration

ตาราง 1.แสดงการเปรียบเทียบทัสนคติต่อโครงการสามฝ่ายเศรษฐกิจของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอด้านเพศ (หน้า 63) 2.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านอายุ (หน้า 64) 3.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านภูมิลำเนา (หน้า 64) 4.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านระดับการศึกษา (หน้า 65) 5.แสดงการเปรียบเทียบทัสนคติต่อโครงการสามฝ่ายเศรษฐกิจของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอด้านการนับถือศาสนา (หน้า 65) 6. แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านความสามารถทางภาษาถิ่นมลายู (หน้า 66) 7.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านอายุราชการ (หน้า 66) 8.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านประสบการณ์ในตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ (หน้า 67) 9.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านประสบการณ์ในการทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 67) 10.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านประสบการณ์ในการเข้ารับฟังคำชี้แจง หรือเข้ารับการฝึกอบรม สัมมนา เกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 68) 11.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านกรมที่สังกัด (หน้า 68) 12.แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างของทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายในด้านกรมที่สังกัด (หน้า 69) 13.แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนเพื่อหาความแตกต่างของทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการด้านกระทรวงที่สังกัด (หน้า 70) 14.แสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างของทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายในด้านกระทรวงที่สังกัด (หน้า 70) 15.แสดงการเปรียบเทียบทัศนคติต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอด้านการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย (หน้า 71) แผนภูมิ 1.แสดงเพศของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 44) 2.แสดงอายุของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 45) 3.แสดงภูมิลำเนาเดิมของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 46) 4.แสดงระดับการศึกษาของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 47) 5.แสดงการนับถือศาสนาของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 48) 6.แสดงความสามารถทางภาษาถิ่นมลายูของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 49) 7.แสดงอายุราชการของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 50) 8.แสดงประสบการณ์ในตำแหน่งของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 51) 9.แสดงประสบการณ์ในการทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 52) 10.แสดงประสบการณ์ในการรับฟังคำชี้แจงหรือเข้ารับการฝึกอบรมสัมนาเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 53) 11.แสดงกรมที่สังกัดของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 54) 12.แสดงกระทรวงที่สังกัดของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 55) 13.แสดงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ (หน้า 56) 14.แสดงระดับทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย (หน้า 58) 15.แสดงทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายด้านวัตถุประสงค์และเป้าหมาย (หน้า 59) 16.แสดงระดับทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายด้านแนวทางการดำเนินงาน (หน้า 60) 17.แสดงระดับทัศนคติของหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายด้านผลกระทบ (หน้า 61) แผนที่ 1.แสดงพื้นที่โครงการพัมนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (หน้า 20) 2.แสดงพื้นที่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ (หน้า 39)

Text Analyst สิทธิพร จรดล Date of Report 06 พ.ย. 2555
TAG ออแรนายู มลายูมุสลิม มุสลิมมลายู, ข้าราชการระดับอำเภอ, ทัศนคติ, โครงการพัฒนา, เศรษฐกิจสามฝ่าย, อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย, จังหวัดชายแดนภาคใต้, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง