|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มุสลิม,จีน,ไทย,อัตราการเกิดของประชากร,ประเทศไทย |
Author |
Suchart Prasithrathsint |
Title |
Ethnicity and Fertility in Thailand |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไม่ระบุ |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
270 |
Year |
2528 |
Source |
Research Notes and Discussions Paper No. 51 Institute of Southeast Asian Studies. |
Abstract |
ทั้ง 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีความแตกต่างในเรื่องของอัตราการเกิด การคุมกำเนิด และการวางแผนครอบครัว และในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีความแตกต่างในด้านของสังคมและวัฒนธรรม ค่านิยมซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการเกิด และพฤติกรรมการคุมกำเนิดด้วยเช่นกัน การวางแผนโครงการต่างๆ ควรจะต้องคำนึงและให้ความระมัดระวังต่อปัจจัยทางด้านสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนไทยมีอัตราการเกิดในระดับต่ำที่สุด และในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ยังคงมีอัตราการเกิดสูง ด้วยเหตุนี้จึงควรมีการลดอัตราการเกิดในกลุ่มคนเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนไทยเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจึงยังต้องให้ความสำคัญในการลดอัตราการเกิดของประชากรในกลุ่ มนี้เช่นเดียวกัน แนวทางในการลดอัตราการเกิดโดยการเผยแพร่การวางแผนครอบครัวให้กลุ่มประชากรทุกคน โดยเฉพาะในเรื่องของการคุมกำเนิด ในกลุ่มคนจีนอัตราการเกิดมีอิทธิพลกับการศึกษาของภรรยาและอายุที่เริ่มแต่งงานจึงควรมีแนวทางในการปรับปรุงการศึกษาของผู้หญิงจีนซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดและส่งผลให้อายุที่แต่งงานนานออกไป อีกปัจจัยหนึ่งคือค่านิยมเรื่องเพศ เนื่องจากกลุ่มคนจีนนิยมมีลูกชายมากกว่าลูกสาว จึงควรมีการสนับสนุนการศึกษาเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขนาดครอบครัวคนจีนได้ ในกลุ่มไทยมุสลิมควรมีความสนใจต่อความรู้สึกทางชาติพันธุ์ และการคุมกำเนิดขัดต่อหลักศาสนา ควรมีการให้การศึกษาในกลุ่มผู้นำศาสนาและกลุ่มที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ เพื่อความร่วมมือในการวางแผนครอบครัว กระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลาและความอดทนเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องของการวางแผนครอบครัวในอนาคต (หน้า 236-238) |
|
Focus |
ศึกษาอัตราการเกิด การเจริญเติบโต และการวางแผนครอบครัว รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และศาสนาที่มีผลต่อการเกิดและการวางแผนครอบครัวของ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กล่าวคือ กลุ่มคนไทย กลุ่มคนจีน กลุ่มไทยมุสลิม และกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ เพื่อทำความเข้าใจวิถีชีวิตของ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราการเกิด การเจริญเติบโต และพฤติกรรมการวางแผนครอบครัว (หน้า xiii, หน้า 13-19) |
|
Theoretical Issues |
ทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้รับการพัฒนาจากกลุ่มประเทศสมาชิกทั้ง 5 ของ ASEAN โดยสร้าง 3 รูปแบบจำลอง "Models" เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ รูปแบบที่ 1 ศึกษาการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิด รูปแบบที่ 2 ศึกษา พฤติกรรมการคุมกำเนิดในปัจจุบัน และรูปแบบที่สามเป็นอัตราการเกิดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การใช้ทฤษฎีไม่ได้ยึดติดมากนักเนื่องจากทฤษฎีมีข้อจำกัด และ บางครั้งไม่สามารถใช้ได้ครอบคลุม (หน้า 4-5) |
|
Ethnic Group in the Focus |
4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยคือ คนไทย คนจีน คนไทยมุสลิม และคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
นอกจากคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ ภาษาแม่ของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ คือภาษาไทย สำหรับคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาแม่ อย่างไรก็ตาม 15 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ และน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยใช้ภาษาเขมร พม่า หรือลาวเป็นภาษาแม่ 5 เปอร์เซ็นต์ ของคนไทยมุสลิมใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาแม่ และ 6 เปอร์เซ็นต์ของ คนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ (หน้า 28) ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับเพื่อนและที่ทำงาน ภาษาไทยเป็นภาษาหลักที่ใช้กับเพื่อนและที่ทำงานของทุกคนยกเว้น ในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษามาเลย์ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ในกลุ่มคนจีนใช้ภาษาจีนกับเพื่อนและที่ทำงานน้อยกว่าใช้ที่บ้านเนื่องจากคนจีนมีเพื่อนที่เป็นทั้งคนจีนและคนไทยในสถานการณ์นี้การใช้ภาษาไทยดีกว่าการใช้ภาษาจีน (หน้า 28) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Demography |
อัตราการเกิด - คนไทยมุสลิมและคนไทยมุสลิมทางภาคใต้มีอัตราการเกิดมากกว่าคนไทยและคนจีน ในสังคมเมืองมีอัตราการเกิดน้อยกว่าในสังคมชนบท ความแตกต่างของจำนวนการเกิด เด็กรอดชีวิต และเด็กตายมีลักษณะคล้ายคลึงกันในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ (หน้า 75) การผิดปกติ การคลอดก่อนกำหนดและการแท้ง - การคลอดก่อนกำหนดในคนไทยและคนไทยมุสลิมสูงกว่าคนจีนและคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ และในคนจีนมีรายงานการแท้งมากว่ากลุ่มอื่นๆ (หน้า 71) การตั้งครรภ์ - การตั้งครรภ์ครั้งแรกระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ในไทยมุสลิมภาคใต้นานที่สุดรองลงมาเป็นไทยมุสลิม ไทย และจีน ซึ่งอาจจะเกิดจาการที่มุสลิมแต่งงานขณะที่ยังอายุน้อยก่อนที่ร่างกายจะถึงวัยเจริญพันธุ์ และข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มากที่สุดเป็นไทยมุสลิม รองลงมาเป็นไทย จีน และไทยมุสลิมทางภาคใต้ (หน้า 85) การวางแผนครอบครัว - กลุ่มคนไทยมีการคุมกำเนิดมากกว่าคนอื่นๆ และในกลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความรู้เรื่องการวางแผนครอบครัวมากกว่ากลุ่มประชากรในชนบท และส่วนใหญ่ผู้ชายได้รับข้อมูลด้านการวางแผนครอบครัวมากว่าผู้หญิงยกเว้นในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ภรรยาได้รับข้อมูลมากกว่า และการคุมกำเนิดได้รับความนิยมในกลุ่มคู่แต่งงงานที่มีอายุน้อยมากกว่าคู่แต่งงานที่มีอายุมาก จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าในทุกกลุ่มยังต้องการการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดมากขึ้นโดยเฉพาะในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ (หน้า 86-87) วิธีคุมกำเนิดในทุกกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ยาคุมกำเนิดและรองลงมาเป็นการใช้ถุงยางอนามัย (หน้า 87) ข้อจำกัดในการใช้การคุมกำเนิดเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าเป็นการขาดความรู้ความเข้าใจโดยเฉพาะในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ การเดินทางไปใช้บริการซึ่งในกลุ่มประชากรที่อาศัยในชนบทต้องใช้เวลาในการเดินทางเพื่อไปรับบริการไกลกว่าในกลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่ในเมือง และในคนมุสลิมการคุมกำเนิดเป็นการกระทำที่ผิดต่อหลักศาสนา นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการคุมกำเนิด (หน้า 93) ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเกิด 1. ลักษณะทางกายภาพที่ขนาดของครอบครัวคนไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้มีขนาดใหญ่กว่ากลุ่มอื่นๆ เป็นผลกระทบโดยตรงต่ออัตราการเกิด (หน้า 102) 2. การคาดหวังให้บุตรดูแลเมื่อชรามีสูงในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้และกลุ่มไทยมุสลิม แต่อย่างไรก็ตามในทุกกลุ่มมีความคาดหวังที่จะให้บุตรดูแลและสนับสนุนทางการเงิน แต่โดยเปรียบเทียบกลุ่มประชากรที่อยู่ในสังคมเมืองมีความคาดหวังน้อยกว่าประชากรที่อยู่ในชนบท อาจจะมีผลกระทบต่ออัตราการเกิดด้วยเช่นกัน 3. จากการสำรวจพบว่า มีจำนวนมากกว่าครึ่งของกลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนในชนบทคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากที่มีบุตรเมื่อพวกเขามีหลานแล้ว แตกต่างจากกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ซึ่งมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้นที่คิดว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย และกลุ่มประชากรในสังคมเมืองมีความรู้สึกอับอายน้อยกว่ากลุ่มประชากรในสังคมชนบท และในกลุ่มผู้หญิงบางส่วนก็มีความรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี (หน้า 103) 4. อายุเมื่อแต่งงาน กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้แต่งงานเมื่ออายุน้อยที่สุดประมาณช่วงอายุ 17-18 ปี กลุ่มไทยมุสลิมแต่งงานเมื่ออายุประมาณ 20-21 ปี และในกลุ่มคนไทยและคนจีนแต่งงานเมื่อมีอายุมากกว่า 21 ปี (หน้า 118) 5. การคุมกำเนิดขัดต่อหลักศาสนาอิสลามซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญต่ออัตราการเกิดที่สูงของคนมุสลิม (หน้า 236-237) 6. ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ของครอบครัว มีผลกระทบต่อการใช้บริการการคุมกำเนิดและการวางแผนครอบครัว (หน้า 237) 7. ปัจจัยด้านการศึกษาและความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดยังคงต้องได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่ในทุกคน (หน้า 237) 8. ค่านิยมความต้องการลูกชายมากกว่าลูกสาวของกลุ่มคนจีน มีผลกระทบให้ขนาดของครอบครัวคนจีนใหญ่กว่าคนอื่นๆ (หน้า 236-237) |
|
Economy |
รายได้ - กลุ่มประชากรที่อาศัยในเมืองมีรายได้มากกว่ากลุ่มประชากรที่อาศัยในชนบท และผู้ชายมีรายได้มากกว่าผู้หญิง ค่าเฉลี่ยรายได้คนจีน 5,000 บาท ไทยมุสลิม 3,000 บาท คนไทย 3,500 บาท และ ไทยมุสลิมทางภาคใต้ 2,500 บาท สิ่งที่น่าสนใจคือภรรยาคนไทยได้เงินมากกว่าภรรยาในกลุ่มอื่นๆ ในบริบทของสังคมไทย รายได้จากผู้หญิงมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนครอบครัว ซึ่งความต้องการรายได้ที่มากขึ้นเกี่ยวข้องกับรายได้ของสามี (หน้า 56) การประกอบธุรกิจของตนเอง - คนจีนประกอบธุรกิจของตนเองมากที่สุด ตามมาด้วย ไทยมุสลิม และคนไทย โดยประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนที่อาศัยอยู่ทั้งในเมืองและชนบทประกอบธุรกิจค้าขาย หนึ่งในห้าของคนไทยและ หนึ่งในสองของคนไทยมุสลิมประกอบธุรกิจค้าขาย ในขณะที่กลุ่มมุสลิมทางภาคใต้ไม่นิยมประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ทำการเกษตรกรรมและการประมง และข้อมูลได้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นกลุ่มที่มีที่มีไร่เป็นของตนเองมากที่สุด (หน้า 57) |
|
Social Organization |
การแต่งงานระหว่างคน : กลุ่มคนจีนและไทยมุสลิมมีการแต่งงานระหว่างกลุ่มอื่นๆ มากว่ากลุ่มคนไทยและมุสลิมทางภาคใต้ และการแต่งงานระหว่างกลุ่มจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง (หน้า 37) อายุของคู่สามีและภรรยา : สามีมีอายุมากกว่าภรรยาในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ อายุของสามีคนไทยและไทยมุสลิมประมาณ 36 ปี อายุของสามีไทยมุสลิมภาคใต้ประมาณ 37 ปี และอายุของสามีคนจีนประมาณ 39 ปี (หน้า 50-51) อายุเมื่อแต่งงาน กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้แต่งงานเมื่ออายุน้อยที่สุดประมาณช่วงอายุ 17-18 ปี กลุ่มไทยมุสลิมแต่งงานเมื่ออายุประมาณ 20-21 ปี และกลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนแต่งงานเมื่อมีอายุมากกว่า 21 ปี (หน้า 118) การแต่งงานมากกว่า 1 ครั้งมีจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในไทยมุสลิมทางภาคใต้ รองลงมาเป็น ไทยมุสลิม คนไทย และคนจีน (หน้า 118-119) การเลือกคู่แต่งงาน : ในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มากกว่าครึ่งพ่อแม่เลือกคู่ให้ในขณะที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนไทย 67 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนจีน และ 56 เปอร์เซ็นต์ของไทยมุสลิม เลือกคู่ครองเองหรือร่วมกันกับพ่อแม่ และในสังคมเมืองชายหญิงมีอิสระในการเลือกคู่ด้วยตนเองมากกว่าในสังคมชนบท (หน้า 119) การมีคู่สามีหรือภรรยาหลายคน "Polygamy" : ส่วนใหญ่ในทุกคนไม่ชอบและไม่ยอมรับ ยกเว้นในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ที่อาศัยอยู่ในชนบทซึ่งการมีคู่สามีและภรรยาหลายคนเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและได้รับการยอมรับตามหลักศาสนา (หน้า 126) การหย่าร้างและแต่งงานใหม่ : ในทุกคนยอมรับการหย่าร้างและการแต่งงานใหม่ และส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าการที่ผู้หญิงไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีและไม่สามารถดูแลครอบครัวได้นำไปสู่การหย่าร้าง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือถ้าหากผู้หญิงต้องการแต่งงานกับชายอื่นไม่ใช่เหตุผลที่จะยอมรับในการให้หย่าร้างได้ ยกเว้นในกลุ่มสังคมเมืองที่ผู้ชายยอมรับให้มีการหย่าร้างได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายขอหย่าจากผู้หญิง (หน้า 126) สำหรับการแต่งงานใหม่ทุกกลุ่มยอมรับให้แม่ม่ายแต่งงานใหม่ แต่ยังคงมีความแตกต่าง โดยในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ยอมรับให้แม่ม่ายแต่งงานใหม่สูงที่สุด ในขณะที่กลุ่มคนจีนยอมรับน้อยที่สุด และส่วนใหญ่ต้องการให้แม่ม่ายแต่งงานกับคนที่อายุมากกว่ายกเว้นในคนจีนที่ต้องการให้แม่ม่ายแต่งงานกับคนที่อายุน้อยกว่า (หน้า 126) ขนาดของครอบครัว : นอกจากอัตราการเกิดของกลุ่มไทยมุสลิมและกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มีมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ความคาดหวังที่จะมีครอบครัวขนาดใหญ่ก็มีมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ด้วยเช่นกัน และกลุ่มคนในสังคมชนบทต้องการมีครอบครัวขนาดใหญ่กว่ากลุ่มคนในสังคมเมือง สิ่งที่น่าสนใจ คือฝ่ายภรรยาในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องการมีขนาดครอบครัวเล็กลง และในทุกกลุ่มต้องการมีลูกชายมากกว่าลูกสาว (หน้า 85) โดยปรากฏชัดเจนในคนจีน ต้องการมีลูกชายมากกว่าลูกสาวมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ในขณะที่ในคนไทยมีความต้องการลูกชายมากว่าลูกสาวไม่มากนักและเป็นกลุ่มที่มีขนาดครอบครัวเล็กที่สุด (หน้า 51,86) การเข้าเป็นสมาชิกในสมาคมที่เกี่ยวกับคน : มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมเกี่ยวกับชาติพันธุ์ น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของคนจีนและไทยมุสลิมอยู่ในสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ และประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นสมาชิกในสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ ในกลุ่มคนไทยมีน้อยมาก และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากว่าผู้หญิงที่เข้าร่วมกับสมาคมเหล่านี้ การเข้าร่วมกับสมาคมในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในสังคมชนบทจะเข้าร่วมมากกว่าในสังคมเมือง ยกเว้นในกลุ่มคนไทยการเข้าเป็นสมาชิกในสังคมเมืองมีมากกว่าในสังคมชนบท (หน้า 36) |
|
Belief System |
กลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ กลุ่มไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้นับถือศาสนาอิสลาม (หน้า 29) กลุ่มไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นกลุ่มที่เคร่งศาสนามากกว่ากลุ่มคนไทยและคนจีน ความแตกต่างในการนับถือศาสนาระหว่างผู้หญิงและผู้ชายไม่พบเห็นมากนัก (หน้า 36) |
|
Education and Socialization |
ระดับการศึกษา : สามีมีการศึกษาสูงกว่าภรรยา กลุ่มคู่สามีภรรยาในสังคมเมืองมีการศึกษามากกว่าคู่สามีภรรยาในสังคมชนบท กลุ่มคนไทยมีการศึกษาดีที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มคนจีน แต่ในสังคมชนบทกลุ่มคนจีนมีการศึกษาดีที่สุด (หน้า 51) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ : จากการสำรวจมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ยังคงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ไว้ทั้ง 4 กลุ่มมีเพียง 7.2 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงคนจีน และ 9 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายในกลุ่มคนจีนได้ตัดสินใจที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์อื่น โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทย และในคนไทยมุสลิม 3.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและผู้ชายตัดสินใจที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเช่นกัน (หน้า 21) อัตลักษณ์ระหว่างชาติพันธุ์และสัญชาติ : ผู้หญิงในกลุ่มคนไทย กลุ่มไทยมุสลิม และกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ มีนัยของการให้ชาติพันธุ์อยู่เหนือสัญชาติ ในขณะที่ผู้ชายในทุกกลุ่มชาติพันธุ์และผู้หญิงในกลุ่มชาติพันธุ์จีนให้ความสำคัญของชาติพันธุ์และสัญชาติ ในระดับที่เท่าเทียมกัน (หน้า 21) ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ : กลุ่มคนจีนและกลุ่มไทยมุสลิม มีเพื่อนสนิททั้งจากในชาติพันธุ์เดียวกันและจากต่างชาติพันธุ์ ในขณะที่กลุ่มคนไทยและกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มีเพื่อนสนิทในกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันมากกว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชาติพันธุ์ไทย และการเป็นประชากรกลุ่มน้อย คือ กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ "Majority and Minority" มีผลกระทบต่อการคบหาเพื่อนสนิท (หน้า 36) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
|