สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject มุสลิม,จีน,ไทย,อัตราการเกิดของประชากร,ประเทศไทย
Author Suchart Prasithrathsint
Title Ethnicity and Fertility in Thailand
Document Type รายงานการวิจัย Original Language of Text ภาษาอังกฤษ
Ethnic Identity มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม, Language and Linguistic Affiliations ไม่ระบุ
Location of
Documents
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร Total Pages 270 Year 2528
Source Research Notes and Discussions Paper No. 51 Institute of Southeast Asian Studies.
Abstract

ทั้ง 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีความแตกต่างในเรื่องของอัตราการเกิด การคุมกำเนิด และการวางแผนครอบครัว และในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีความแตกต่างในด้านของสังคมและวัฒนธรรม ค่านิยมซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการเกิด และพฤติกรรมการคุมกำเนิดด้วยเช่นกัน การวางแผนโครงการต่างๆ ควรจะต้องคำนึงและให้ความระมัดระวังต่อปัจจัยทางด้านสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนไทยมีอัตราการเกิดในระดับต่ำที่สุด และในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ยังคงมีอัตราการเกิดสูง ด้วยเหตุนี้จึงควรมีการลดอัตราการเกิดในกลุ่มคนเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนไทยเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจึงยังต้องให้ความสำคัญในการลดอัตราการเกิดของประชากรในกลุ่ มนี้เช่นเดียวกัน แนวทางในการลดอัตราการเกิดโดยการเผยแพร่การวางแผนครอบครัวให้กลุ่มประชากรทุกคน โดยเฉพาะในเรื่องของการคุมกำเนิด ในกลุ่มคนจีนอัตราการเกิดมีอิทธิพลกับการศึกษาของภรรยาและอายุที่เริ่มแต่งงานจึงควรมีแนวทางในการปรับปรุงการศึกษาของผู้หญิงจีนซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดและส่งผลให้อายุที่แต่งงานนานออกไป อีกปัจจัยหนึ่งคือค่านิยมเรื่องเพศ เนื่องจากกลุ่มคนจีนนิยมมีลูกชายมากกว่าลูกสาว จึงควรมีการสนับสนุนการศึกษาเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขนาดครอบครัวคนจีนได้ ในกลุ่มไทยมุสลิมควรมีความสนใจต่อความรู้สึกทางชาติพันธุ์ และการคุมกำเนิดขัดต่อหลักศาสนา ควรมีการให้การศึกษาในกลุ่มผู้นำศาสนาและกลุ่มที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ เพื่อความร่วมมือในการวางแผนครอบครัว กระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลาและความอดทนเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องของการวางแผนครอบครัวในอนาคต (หน้า 236-238)

Focus

ศึกษาอัตราการเกิด การเจริญเติบโต และการวางแผนครอบครัว รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และศาสนาที่มีผลต่อการเกิดและการวางแผนครอบครัวของ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กล่าวคือ กลุ่มคนไทย กลุ่มคนจีน กลุ่มไทยมุสลิม และกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ เพื่อทำความเข้าใจวิถีชีวิตของ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราการเกิด การเจริญเติบโต และพฤติกรรมการวางแผนครอบครัว (หน้า xiii, หน้า 13-19)

Theoretical Issues

ทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้รับการพัฒนาจากกลุ่มประเทศสมาชิกทั้ง 5 ของ ASEAN โดยสร้าง 3 รูปแบบจำลอง "Models" เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ รูปแบบที่ 1 ศึกษาการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิด รูปแบบที่ 2 ศึกษา พฤติกรรมการคุมกำเนิดในปัจจุบัน และรูปแบบที่สามเป็นอัตราการเกิดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การใช้ทฤษฎีไม่ได้ยึดติดมากนักเนื่องจากทฤษฎีมีข้อจำกัด และ บางครั้งไม่สามารถใช้ได้ครอบคลุม (หน้า 4-5)

Ethnic Group in the Focus

4 กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยคือ คนไทย คนจีน คนไทยมุสลิม และคนไทยมุสลิมทางภาคใต้

Language and Linguistic Affiliations

นอกจากคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ ภาษาแม่ของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ คือภาษาไทย สำหรับคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาแม่ อย่างไรก็ตาม 15 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ และน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยใช้ภาษาเขมร พม่า หรือลาวเป็นภาษาแม่ 5 เปอร์เซ็นต์ ของคนไทยมุสลิมใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาแม่ และ 6 เปอร์เซ็นต์ของ คนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ (หน้า 28) ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับเพื่อนและที่ทำงาน ภาษาไทยเป็นภาษาหลักที่ใช้กับเพื่อนและที่ทำงานของทุกคนยกเว้น ในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ใช้ภาษามาเลย์ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ในกลุ่มคนจีนใช้ภาษาจีนกับเพื่อนและที่ทำงานน้อยกว่าใช้ที่บ้านเนื่องจากคนจีนมีเพื่อนที่เป็นทั้งคนจีนและคนไทยในสถานการณ์นี้การใช้ภาษาไทยดีกว่าการใช้ภาษาจีน (หน้า 28)

Study Period (Data Collection)

ค.ศ. 1985

History of the Group and Community

ไม่มีข้อมูล

Settlement Pattern

ไม่มีข้อมูล

Demography

อัตราการเกิด - คนไทยมุสลิมและคนไทยมุสลิมทางภาคใต้มีอัตราการเกิดมากกว่าคนไทยและคนจีน ในสังคมเมืองมีอัตราการเกิดน้อยกว่าในสังคมชนบท ความแตกต่างของจำนวนการเกิด เด็กรอดชีวิต และเด็กตายมีลักษณะคล้ายคลึงกันในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ (หน้า 75) การผิดปกติ การคลอดก่อนกำหนดและการแท้ง - การคลอดก่อนกำหนดในคนไทยและคนไทยมุสลิมสูงกว่าคนจีนและคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ และในคนจีนมีรายงานการแท้งมากว่ากลุ่มอื่นๆ (หน้า 71) การตั้งครรภ์ - การตั้งครรภ์ครั้งแรกระยะเวลาที่ตั้งครรภ์ในไทยมุสลิมภาคใต้นานที่สุดรองลงมาเป็นไทยมุสลิม ไทย และจีน ซึ่งอาจจะเกิดจาการที่มุสลิมแต่งงานขณะที่ยังอายุน้อยก่อนที่ร่างกายจะถึงวัยเจริญพันธุ์ และข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มากที่สุดเป็นไทยมุสลิม รองลงมาเป็นไทย จีน และไทยมุสลิมทางภาคใต้ (หน้า 85) การวางแผนครอบครัว - กลุ่มคนไทยมีการคุมกำเนิดมากกว่าคนอื่นๆ และในกลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความรู้เรื่องการวางแผนครอบครัวมากกว่ากลุ่มประชากรในชนบท และส่วนใหญ่ผู้ชายได้รับข้อมูลด้านการวางแผนครอบครัวมากว่าผู้หญิงยกเว้นในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ภรรยาได้รับข้อมูลมากกว่า และการคุมกำเนิดได้รับความนิยมในกลุ่มคู่แต่งงงานที่มีอายุน้อยมากกว่าคู่แต่งงานที่มีอายุมาก จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าในทุกกลุ่มยังต้องการการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดมากขึ้นโดยเฉพาะในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ (หน้า 86-87) วิธีคุมกำเนิดในทุกกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ยาคุมกำเนิดและรองลงมาเป็นการใช้ถุงยางอนามัย (หน้า 87) ข้อจำกัดในการใช้การคุมกำเนิดเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าเป็นการขาดความรู้ความเข้าใจโดยเฉพาะในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ การเดินทางไปใช้บริการซึ่งในกลุ่มประชากรที่อาศัยในชนบทต้องใช้เวลาในการเดินทางเพื่อไปรับบริการไกลกว่าในกลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่ในเมือง และในคนมุสลิมการคุมกำเนิดเป็นการกระทำที่ผิดต่อหลักศาสนา นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการคุมกำเนิด (หน้า 93) ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเกิด 1. ลักษณะทางกายภาพที่ขนาดของครอบครัวคนไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้มีขนาดใหญ่กว่ากลุ่มอื่นๆ เป็นผลกระทบโดยตรงต่ออัตราการเกิด (หน้า 102) 2. การคาดหวังให้บุตรดูแลเมื่อชรามีสูงในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้และกลุ่มไทยมุสลิม แต่อย่างไรก็ตามในทุกกลุ่มมีความคาดหวังที่จะให้บุตรดูแลและสนับสนุนทางการเงิน แต่โดยเปรียบเทียบกลุ่มประชากรที่อยู่ในสังคมเมืองมีความคาดหวังน้อยกว่าประชากรที่อยู่ในชนบท อาจจะมีผลกระทบต่ออัตราการเกิดด้วยเช่นกัน 3. จากการสำรวจพบว่า มีจำนวนมากกว่าครึ่งของกลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนในชนบทคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากที่มีบุตรเมื่อพวกเขามีหลานแล้ว แตกต่างจากกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ซึ่งมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้นที่คิดว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย และกลุ่มประชากรในสังคมเมืองมีความรู้สึกอับอายน้อยกว่ากลุ่มประชากรในสังคมชนบท และในกลุ่มผู้หญิงบางส่วนก็มีความรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี (หน้า 103) 4. อายุเมื่อแต่งงาน กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้แต่งงานเมื่ออายุน้อยที่สุดประมาณช่วงอายุ 17-18 ปี กลุ่มไทยมุสลิมแต่งงานเมื่ออายุประมาณ 20-21 ปี และในกลุ่มคนไทยและคนจีนแต่งงานเมื่อมีอายุมากกว่า 21 ปี (หน้า 118) 5. การคุมกำเนิดขัดต่อหลักศาสนาอิสลามซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญต่ออัตราการเกิดที่สูงของคนมุสลิม (หน้า 236-237) 6. ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ของครอบครัว มีผลกระทบต่อการใช้บริการการคุมกำเนิดและการวางแผนครอบครัว (หน้า 237) 7. ปัจจัยด้านการศึกษาและความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดยังคงต้องได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่ในทุกคน (หน้า 237) 8. ค่านิยมความต้องการลูกชายมากกว่าลูกสาวของกลุ่มคนจีน มีผลกระทบให้ขนาดของครอบครัวคนจีนใหญ่กว่าคนอื่นๆ (หน้า 236-237)

Economy

รายได้ - กลุ่มประชากรที่อาศัยในเมืองมีรายได้มากกว่ากลุ่มประชากรที่อาศัยในชนบท และผู้ชายมีรายได้มากกว่าผู้หญิง ค่าเฉลี่ยรายได้คนจีน 5,000 บาท ไทยมุสลิม 3,000 บาท คนไทย 3,500 บาท และ ไทยมุสลิมทางภาคใต้ 2,500 บาท สิ่งที่น่าสนใจคือภรรยาคนไทยได้เงินมากกว่าภรรยาในกลุ่มอื่นๆ ในบริบทของสังคมไทย รายได้จากผู้หญิงมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนครอบครัว ซึ่งความต้องการรายได้ที่มากขึ้นเกี่ยวข้องกับรายได้ของสามี (หน้า 56) การประกอบธุรกิจของตนเอง - คนจีนประกอบธุรกิจของตนเองมากที่สุด ตามมาด้วย ไทยมุสลิม และคนไทย โดยประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนที่อาศัยอยู่ทั้งในเมืองและชนบทประกอบธุรกิจค้าขาย หนึ่งในห้าของคนไทยและ หนึ่งในสองของคนไทยมุสลิมประกอบธุรกิจค้าขาย ในขณะที่กลุ่มมุสลิมทางภาคใต้ไม่นิยมประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ทำการเกษตรกรรมและการประมง และข้อมูลได้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นกลุ่มที่มีที่มีไร่เป็นของตนเองมากที่สุด (หน้า 57)

Social Organization

การแต่งงานระหว่างคน : กลุ่มคนจีนและไทยมุสลิมมีการแต่งงานระหว่างกลุ่มอื่นๆ มากว่ากลุ่มคนไทยและมุสลิมทางภาคใต้ และการแต่งงานระหว่างกลุ่มจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง (หน้า 37) อายุของคู่สามีและภรรยา : สามีมีอายุมากกว่าภรรยาในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ อายุของสามีคนไทยและไทยมุสลิมประมาณ 36 ปี อายุของสามีไทยมุสลิมภาคใต้ประมาณ 37 ปี และอายุของสามีคนจีนประมาณ 39 ปี (หน้า 50-51) อายุเมื่อแต่งงาน กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้แต่งงานเมื่ออายุน้อยที่สุดประมาณช่วงอายุ 17-18 ปี กลุ่มไทยมุสลิมแต่งงานเมื่ออายุประมาณ 20-21 ปี และกลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนแต่งงานเมื่อมีอายุมากกว่า 21 ปี (หน้า 118) การแต่งงานมากกว่า 1 ครั้งมีจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในไทยมุสลิมทางภาคใต้ รองลงมาเป็น ไทยมุสลิม คนไทย และคนจีน (หน้า 118-119) การเลือกคู่แต่งงาน : ในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มากกว่าครึ่งพ่อแม่เลือกคู่ให้ในขณะที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนไทย 67 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนจีน และ 56 เปอร์เซ็นต์ของไทยมุสลิม เลือกคู่ครองเองหรือร่วมกันกับพ่อแม่ และในสังคมเมืองชายหญิงมีอิสระในการเลือกคู่ด้วยตนเองมากกว่าในสังคมชนบท (หน้า 119) การมีคู่สามีหรือภรรยาหลายคน "Polygamy" : ส่วนใหญ่ในทุกคนไม่ชอบและไม่ยอมรับ ยกเว้นในกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ที่อาศัยอยู่ในชนบทซึ่งการมีคู่สามีและภรรยาหลายคนเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมและได้รับการยอมรับตามหลักศาสนา (หน้า 126) การหย่าร้างและแต่งงานใหม่ : ในทุกคนยอมรับการหย่าร้างและการแต่งงานใหม่ และส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าการที่ผู้หญิงไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีและไม่สามารถดูแลครอบครัวได้นำไปสู่การหย่าร้าง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือถ้าหากผู้หญิงต้องการแต่งงานกับชายอื่นไม่ใช่เหตุผลที่จะยอมรับในการให้หย่าร้างได้ ยกเว้นในกลุ่มสังคมเมืองที่ผู้ชายยอมรับให้มีการหย่าร้างได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายขอหย่าจากผู้หญิง (หน้า 126) สำหรับการแต่งงานใหม่ทุกกลุ่มยอมรับให้แม่ม่ายแต่งงานใหม่ แต่ยังคงมีความแตกต่าง โดยในคนไทยมุสลิมทางภาคใต้ยอมรับให้แม่ม่ายแต่งงานใหม่สูงที่สุด ในขณะที่กลุ่มคนจีนยอมรับน้อยที่สุด และส่วนใหญ่ต้องการให้แม่ม่ายแต่งงานกับคนที่อายุมากกว่ายกเว้นในคนจีนที่ต้องการให้แม่ม่ายแต่งงานกับคนที่อายุน้อยกว่า (หน้า 126) ขนาดของครอบครัว : นอกจากอัตราการเกิดของกลุ่มไทยมุสลิมและกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มีมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ความคาดหวังที่จะมีครอบครัวขนาดใหญ่ก็มีมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ด้วยเช่นกัน และกลุ่มคนในสังคมชนบทต้องการมีครอบครัวขนาดใหญ่กว่ากลุ่มคนในสังคมเมือง สิ่งที่น่าสนใจ คือฝ่ายภรรยาในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องการมีขนาดครอบครัวเล็กลง และในทุกกลุ่มต้องการมีลูกชายมากกว่าลูกสาว (หน้า 85) โดยปรากฏชัดเจนในคนจีน ต้องการมีลูกชายมากกว่าลูกสาวมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ในขณะที่ในคนไทยมีความต้องการลูกชายมากว่าลูกสาวไม่มากนักและเป็นกลุ่มที่มีขนาดครอบครัวเล็กที่สุด (หน้า 51,86) การเข้าเป็นสมาชิกในสมาคมที่เกี่ยวกับคน : มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมเกี่ยวกับชาติพันธุ์ น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของคนจีนและไทยมุสลิมอยู่ในสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ และประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นสมาชิกในสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ ในกลุ่มคนไทยมีน้อยมาก และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากว่าผู้หญิงที่เข้าร่วมกับสมาคมเหล่านี้ การเข้าร่วมกับสมาคมในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในสังคมชนบทจะเข้าร่วมมากกว่าในสังคมเมือง ยกเว้นในกลุ่มคนไทยการเข้าเป็นสมาชิกในสังคมเมืองมีมากกว่าในสังคมชนบท (หน้า 36)

Political Organization

ไม่มีข้อมูล

Belief System

กลุ่มคนไทยและกลุ่มคนจีนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ กลุ่มไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้นับถือศาสนาอิสลาม (หน้า 29) กลุ่มไทยมุสลิมและไทยมุสลิมทางภาคใต้เป็นกลุ่มที่เคร่งศาสนามากกว่ากลุ่มคนไทยและคนจีน ความแตกต่างในการนับถือศาสนาระหว่างผู้หญิงและผู้ชายไม่พบเห็นมากนัก (หน้า 36)

Education and Socialization

ระดับการศึกษา : สามีมีการศึกษาสูงกว่าภรรยา กลุ่มคู่สามีภรรยาในสังคมเมืองมีการศึกษามากกว่าคู่สามีภรรยาในสังคมชนบท กลุ่มคนไทยมีการศึกษาดีที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มคนจีน แต่ในสังคมชนบทกลุ่มคนจีนมีการศึกษาดีที่สุด (หน้า 51)

Health and Medicine

ไม่มีข้อมูล

Art and Crafts (including Clothing Costume)

ไม่มีข้อมูล

Folklore

ไม่มีข้อมูล

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ : จากการสำรวจมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ยังคงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ไว้ทั้ง 4 กลุ่มมีเพียง 7.2 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงคนจีน และ 9 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายในกลุ่มคนจีนได้ตัดสินใจที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์อื่น โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทย และในคนไทยมุสลิม 3.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและผู้ชายตัดสินใจที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเช่นกัน (หน้า 21) อัตลักษณ์ระหว่างชาติพันธุ์และสัญชาติ : ผู้หญิงในกลุ่มคนไทย กลุ่มไทยมุสลิม และกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ มีนัยของการให้ชาติพันธุ์อยู่เหนือสัญชาติ ในขณะที่ผู้ชายในทุกกลุ่มชาติพันธุ์และผู้หญิงในกลุ่มชาติพันธุ์จีนให้ความสำคัญของชาติพันธุ์และสัญชาติ ในระดับที่เท่าเทียมกัน (หน้า 21) ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ : กลุ่มคนจีนและกลุ่มไทยมุสลิม มีเพื่อนสนิททั้งจากในชาติพันธุ์เดียวกันและจากต่างชาติพันธุ์ ในขณะที่กลุ่มคนไทยและกลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้มีเพื่อนสนิทในกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันมากกว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชาติพันธุ์ไทย และการเป็นประชากรกลุ่มน้อย คือ กลุ่มไทยมุสลิมทางภาคใต้ "Majority and Minority" มีผลกระทบต่อการคบหาเพื่อนสนิท (หน้า 36)

Social Cultural and Identity Change

ไม่มีข้อมูล

Critic Issues

ไม่มีข้อมูล

Other Issues

ไม่มี

Map/Illustration

ไม่มี

Text Analyst ชัชฎาวรรณ แก้วทะพยา Date of Report 25 ก.ย. 2567
TAG มุสลิม, จีน, ไทย, อัตราการเกิดของประชากร, ประเทศไทย, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง