|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
พวน ไทยพวน ไทพวน,มอญ,ลาวแง้ว, ไทเบิ้ง,กลุ่มชาติพันธุ์,ประวัติศาสตร์,ประเพณี,ความเชื่อ,ลพบุรี |
Author |
จารุวรรณ พุ่มพฤกษ์ |
Title |
กลุ่มชาติพันธุ์ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ลาวแง้ว, มอญ รมัน รามัญ, ไทยพวน ไทพวน คนพวน, ไทเบิ้ง ไทเดิ้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
93 |
Year |
2536 |
Source |
คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาลัยครูเทพสตรี |
Abstract |
กลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดลพบุรี หากแบ่งแยกตามถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมสามารถจำแนกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่ประเทศลาวและกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่รามัญประเทศซึ่งอยู่ตอนใต้ของประเทศพม่า อาชีพของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ การทำนา ทำสวนและเลี้ยงสัตว์ ทำเครื่องจักสานและทอผ้า (แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์จะมีรูปแบบ กรรมวิธีที่ต่างกัน) ส่วนการทำอิฐมีเฉพาะคนมอญเท่านั้น ในส่วนของประเพณี แต่ละชาติพันธุ์จะมีเอกลักษณ์ของตน โดยมากจะเป็นประเพณีตามความเชื่อทางศาสนาและความเชื่อของแต่ละกลุ่มชน |
|
Focus |
ประวัติศาสตร์ ประเพณี และกลุ่มชาติพันธุ์ในลพบุรี |
|
Ethnic Group in the Focus |
ไทยพวน, แง้ว, ไทยเบิ้ง และมอญ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
แง้วจะมีภาษาที่แตกต่างจากพวนมักลงท้ายประโยคว่า "ตี้" จึงมีบางคนเรียกแง้วว่า "ลาวตี้" (หน้า 3) มอญบางขันหมากที่เป็นคนรุ่นเก่าจะพูดได้ 2 ภาษาได้แก่ ภาษาไทยและภาษามอญ (หน้า 6) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
"พวน" หรือ "ไทยพวน" มีถิ่นฐานเดิมที่เมืองพวน ตอนเหนือของเมืองเชียงขวาง ถูกต้อนเข้าสู่ประเทศไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นเจ้าอนุวงศ์เป็นกบฏ ไทยจึงส่งกองทัพขึ้นไปปราบ เมื่อชนะ ขากลับได้กวาดต้อนครอบครัวลาวลงมาโดยจัดให้อยู่แถวเมืองลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีและนครไชยศรี ครั้งแรกที่เข้าเมืองลพบุรี ตั้งหลักปักฐานที่ตำบลบ้านเซ่า "อำเภอสนามแจง" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น "อำเภอบ้านหมี่" (หน้า 1) "แง้ว" หรือ "ลาวแง้ว" มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่ประเทศลาวแถบเมืองเวียงจันท์ อพยพมาจังหวัดลพบุรีพร้อมกับพวน แง้วตั้งรกรากอยู่ที่หนองน้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีป่าล้อมรอบเรียกว่า บ้านหนองเรา ต่อมาเปลี่ยนเป็น "บ้านหนองเมือง" อำเภอบ้านหมี่ (หน้า 3) "เบิ้ง" หรือ "ไทยเบิ้ง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพมาจากเมืองเวียงจันท์ ประเทศลาว ปัจจุบันตั้งรกรากเป็นกลุ่มใหญ่ที่ตำบลดีลังและตำบลพัฒนานิคน (หนองนา) เดิมตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บริเวณหนองปลาซิว ซึ่งห่างจากที่ตั้งปัจจุบัน 20 กิโลเมตร เกิดโรคห่าระบาดจึงได้ย้ายมาที่ตำบลดีลัง (เดิมชื่อบ้านอีลัง) (หน้า 4) "มอญ" "รามัญ" หรือ "ตะเลง" เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพมาจากรามัญประเทศ เข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรก ปี พ.ศ.2127 มอญที่อยู่ในจังหวัดลพบุรี เป็นมอญที่อพยพจาก จังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยาและสิงห์บุรี เดิมตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณบ้านท่าดินเหนียว ซึ่งอยู่ในตำบลโพธิ์เก้าต้น ต่อมาย้ายมาบริเวณบ้านบางคู่ หรือตำบลบางขันหมากในปัจจุบัน (หน้า 5) |
|
Settlement Pattern |
การตั้งบ้านเรือนของมอญมีลักษณะต่างจากไทย คือ มอญปลูกเรือนขวางแม่น้ำนิยมหันหน้าเรือนไปทางทิศเหนือ เป็นเรือนยกพื้นสูงหลังคาทรงจั่ว ตัวเรือนประกอบด้วย นอกชาน ระเบียง ครัวจะอยู่ด้านข้าง ภายในบ้านต้องมีเสาเรือนที่เป็นเสาเอก เป็นที่อยู่ของผีเรือน ใต้ถุนบ้านจะโล่งสำหรับเก็บของ (หน้า 6) |
|
Economy |
- พวนเมื่อว่างจากการทำนาทำไร่ก็หันมาทำงานเกี่ยวกับหัตกรรม ผู้หญิงจะทอผ้าที่รู้จักกันในนามของผ้ามัดหมี่ ส่วนผู้ชาย จักสานกระบุง ตะกร้าและเครื่องมือหาปลา (หน้า 2) - อาชีพส่วนใหญ่ของลาวแง้วโดยมากทำนา ทำไร่ ยามว่างผู้หญิงจะทอผ้าแต่ผ้าที่ทอมิใช่ผ้าซิ่นหมี่แบบพวนแต่เป็นผ้าฝ้ายธรรมดา ผู้ชายมักจะจักสานเครื่องมือหาปลาหรือตะกร้า (หน้า 3) - ไทยเบิ้งจะประกอบอาชีพทำนาเป็นส่วนใหญ่และมีการเลี้ยงสัตว์เพื่อไว้เป็นอาหารยามว่างผู้หญิงจะทอผ้า ส่วนผู้ชายจะทำ เครื่องจักสานเช่น กระบุงและตะกร้า เป็นต้น(หน้า 4) - มอญมีอาชีพหลักคือการทำนาและการทำอิฐ(หน้า 6) |
|
Social Organization |
พวนมีนิสัยรักสงบ รักสามัคคี ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ (หน้า 2) ลาวแง้วมีนิสัยรักความสงบ รักความเป็นอิสรภาพ ใจคอเยือกเย็น มีความโอบอ้อมอารีเป็นมิตรกับทุกคนและทำมาหากินด้วยความขยันหมั่นเพียร (หน้า 3) |
|
Belief System |
พวนมีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์และคงรักษาถึงปัจจุบันคือ "ประเพณีกำฟ้า" เพื่อให้ผีฟ้าหรือเทวดาพอใจจะได้ไม่บันดาลให้ เกิดภัยพิบัติต่างๆ ถือเอาวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 เป็นวันกำฟ้า ประเพณีที่สำคัญของลาวแง้ว คือ "ประเพณีเพาะกระจาด" หรือ "ประเพณีใส่กระจาด" เป็นประเพณีการทำบุญเริ่มเมื่อมีการประกาศงานบุญมหาชาติโดยแต่ละหมู่บ้านจะกำหนดไม่ตรงกัน (หน้า 2-3) ไทยเบิ้งนับถือศาสนาพุทธแต่มีประเพณีเกี่ยวกับศาสนาบางประการที่ต่างจากคนกลุ่มอื่น เช่น ประเพณีการบวชพระ ชายไทย เบิ้งจะบวชในเดือน 4 จะเป็นการบวชหมู่ทั้งหมู่บ้าน โดยจะจัดงานในวันเดียวกัน ประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ การทำขวัญข้าว ทำ เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วเพราะเป็นการเชิญแม่โพสพจากท้องนามายังยุ้งฉางในบ้าน (หน้า 5) มอญนับถือศาสนาพุทธควบคู่กับการนับถือผี ผีที่นับถือได้แก่ ผีประจำตระกูล (ผีโรง) ผีเรือนและผีศาลเจ้า โดยเชื่อกันว่า หากตระกูลใดไม่ทำพิธีเลี้ยงผีโรงจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือประสบโชคร้ายต่าง ๆ ได้ ประเพณีอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของมอญคือ ประเพณีการไว้ผมโก๊ะของเด็กชายและหญิง เป็นการไว้ผมกลางกระหม่อมโดยโกนบริเวณอื่นทิ้ง เด็กมอญบางขันหมากจะไว้ผมโก๊ะตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 2-3 ขวบหรือบางคนไว้จนกระทั่งจบการศึกษาในระดับประถมศึกษา (หน้า 6) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
"ไทยเบิ้ง" จะทอผ้าเป็นตารางหมากรุกทั้งตาใหญ่และตาเล็กสีสันสวยงามสะดุดตา (หน้า 4) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
|