|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ,อพยพ,ด่านเจดีย์สามองค์,ประวัติศาสตร์,กาญจนบุรี |
Author |
จำลอง ทองดี |
Title |
ด่านเจดีย์สามองค์ |
Document Type |
หนังสือ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
116 |
Year |
2540 |
Source |
บริษัทเคล็ดไทย, กรุงเทพฯ,2540 |
Abstract |
โอกาสที่จะได้สัมผัสกับคนมอญและแผ่นดินมอญแทบจะไม่มีเพราะสหภาพพม่าได้กำหนดให้เมืองมอญเป็นเมืองปิดแต่จะรับรู้เพียงข่าวคราวจากพระสงฆ์มอญ แนวคิดที่จะแยกมอญออกมาจากการปกครองของพม่ามีโอกาสน้อยมาก เพราะมอญขาดผู้นำขาดการพัฒนาและฟื้นฟูชนชาติ แต่ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ภาษามอญจนทุกวันนี้ได้เพราะพระสงฆ์มอญและวัดมอญยังพึ่งพิงได้ ปัญหาที่เกิดจากการกดขี่ข่มเหงและการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ผ่านมานั้นเป็นผลของระบอบการปกครองของพม่าที่มีมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน (หน้า 14) ดร.นาย ปัน ละ เสนอข้อคิดเห็นว่า น่าจะมีการรื้อฟื้นเส้นทางรถไฟระหว่างกรุงเทพฯ กับย่างกุ้งได้โดยอาศัยเส้นทางรถไฟสายมรณะโดยขอความร่วมมือจากญี่ปุ่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศและด้านเศรษฐกิจ การยึดเมืองมอญคืนจากพม่า น่าจะเป็นการยึดพื้นที่ทางเศรษฐกิจในแผ่นดินมอญมากกว่า คนมอญคงจะได้เมืองคืนโดยเหตุผลทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและการศึกษามากกว่าที่จะจับอาวุธขึ้นมาทำสงครามในยุคของการแข่งขันทางเศรษฐกิจการค้าและเทคโนโลยี มอญคงไม่สูญชาติและเผ่าพันธุ์ ตราบเท่าที่ยังมีความเชื่อในพระพุทธศาสนา (หน้า 42) |
|
Focus |
ประวัติศาสตร์มอญที่มีความสัมพันธ์กับด่านเจดีย์สามองค์ |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
ดินแดนลุ่มเจ้าพระยาเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของมอญ-เขมรมาก่อนอย่างน้อยที่สุด อาณาจักรทวารวดีก็เคยมีมอญเป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา (หน้า 5) การอพยพของคนมอญเข้าสู่เมืองไทยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ยุคมีทั้งหมด 9 ครั้งได้แก่ สมัยอยุธยา 6 ครั้ง สมัยกรุงธนบุรี 1 ครั้งและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ 2 ครั้ง (หน้า 17) การอพยพครั้งใหญ่ที่สุดคือในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มอญอพยพเข้าทางด่านพระเจดีย์สามองค์มากถึง 30,000 คน หัวหน้ามอญครั้งนั้นคือสมิงสอดเบา (หน้า 22) ได้อพยพมาตามเส้นทางที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สร้างทางรถไฟสายมรณะ (หน้า 27) |
|
Demography |
จากสถิติประชากรที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติมอญ (MNU) รวบรวมเมื่อปี ค.ศ. 1983 พบว่า ในตอนเหนือ มีประชากรมอญเป็น ชาย 1,888,105 คน หญิง 1,912,135 คน ในตอนกลาง ชาย 832,980 คน หญิง 849,061 คน ในตอนใต้ ชาย 461,062 คน หญิง 456,566 คน รวมทั้งสิ้น 6,399,909 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในประเทศเมียนมาร์ (หน้า 8) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมอญที่ด่านเจดีย์สามองค์ |
|
Economy |
มอญตอนบนมีอาชีพหลัก คือ ทำไร่ ทำนา ทำไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งปัจจุบันมีถึง 72 โรงมอญภาคกลางโดยมากมีอาชีพทางการเกษตร มีข้าวเป็นพืชหลัก สวนยางพารา ขุดแร่และจับปลาทะเล ขุดแร่ อุตสาหกรรมป่าไม้และมีโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 29 แห่ง มอญตอนล่างมีอาชีพคล้ายคลึงกับภาคอื่นๆ และเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล (หน้า 10-13) |
|
Social Organization |
ไม่ระบุชัดเจน กล่าวเพียงว่ามอญเป็นชาติที่รักสงบ (หน้า23) สหภาพพม่ากำหนดให้เมืองมอญเป็นเมืองปิด (หน้า 14) |
|
Political Organization |
พื้นที่ที่พรรคมอญกำหนดเป็นแผ่นดินมอญประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ เมาะละแหม่ง สะเทิม พะโค มะริดและทะวาย มอญภาคเหนือมี 28 อำเภอ ภาคกลางมี 10 อำเภอและภาคใต้มี 10 อำเภอ (หน้า 8) แต่ในบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ก็มีมอญใหม่ เข้ามาอยู่จำนวนมากเพราะหลบหนีอำนาจพม่า แต่ก็ยังมีการสู้รบกับพม่าหรือกับกระเหรี่ยงคริสต์ เช่น ในวันที่ 24 มิถุนายน 2541 และรบกับทหารพม่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2533 เป็นต้น (หน้า 63-70) |
|
Belief System |
มอญเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด (หน้า 5) วันชาติมอญตรงกับวันแรม 1 ค่ำเดือน 3 ราวเดือนกุมภาพันธ์ (หน้า 47) กลุ่ม KNU ถือว่า กระเหรี่ยงอยู่ที่ไหนก็ตาม ตรงนั้นคือแผ่นดินของกระเหรี่ยง บรรดาแกนนำของกลุ่ม เค-เอ็น-ยูเป็นกระเหรี่ยงนับถือศาสนาคริสต์ทั้งหมด ส่วนกระเหรี่ยงที่นับถือพุทธถือว่าเป็นพวกมีปมด้อย เพราะไม่เชื่อในพระเจ้า (หน้า 51) |
|
Education and Socialization |
มอญจะฝากลูกฝากหลานให้เรียนหนังสือกับพระสงฆ์ (หน้า 5) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
พระเจดีย์กลางน้ำเมืองเจตกามิ ตามตำนานเล่าว่า โลกนี้มีพระพุทธรูปลอยน้ำ 3 องค์ องค์แรก คือ องค์ที่เจตกามิ ปัจจุบันไม่สามารถอัญเชิญขึ้นฝั่งได้ พุทธบริษัทจึงสร้างเจดีย์ไว้กลางน้ำ พระพุทธรูปองค์ที่ 2 ลอยไปขึ้นฝั่งที่เมืองทะวาย ส่วนองค์ที่ 3 คือ "พระพุทธโสธร" ที่ลอยเข้ามาในแม่น้ำบางปะกง (หน้า 58) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
กลุ่มคนที่กู้แผ่นดินไทยได้สำเร็จ มิใช่มีแต่คนไทยแท้ๆ เท่านั้น หากแต่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เชื้อสายมอญและเชื้อสายอื่นๆ(หน้า 75) สมัยโบราณ กองทัพไทยเคยใช้มอญเป็นกองสอดแนมตามแนวชายแดน อาจเรียกได้ว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับของไทยก็ว่าได้ (หน้า 45) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
- พ.ต.ปะโกมาน(กลาง)กับกองกำลังทหารมอญ MNDAที่ตะนาวศรี(12)
- ผู้หญิงและเด็กมอญอพยพ ณ ลำห้วยที่ฮะรอกนี(15)
- แผนที่แผ่นดินเมืองมอญในอดีต(16)
- ค่ายทหารมอญ(M.N.L.A.)ที่น้ำเกิ๊ก,ใกล้ด่านเจดีย์สามองค์(17)
- อนุสาวรีย์นักรบพม่า นักรบชายลับมีดดาบฯ(21)
- พลเอกเกรียงศักดิ์ ชะมะนันท์ อดีตนายกรัฐมนตรีเชื้อสายมอญ(23)
- หัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามญี่ปุ่นอนุรักษ์ไว้เตือนใจลูกหลาน ส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานเมืองสบปุ๊ ภาคใต้ของสหภาพพม่า(28) - ดร.นาย ปัน ละ(36)
- ชาวบ้านมอญ ณ จุดสุดสายทางรถไฟ103กิโลเมตรจากด่านเจดีย์สามองค์(43)
- หนุ่มสาวชาวมอญ ที่น้ำตกเกริงทอ(หลังวันชาติมอญ แรม 1 ค่ำเดือน 3)(46)
- แผนที่สหภาพพม่าหรือเมียนมาร์แสดงส่วนที่เป็นแผ่นดินมอญในอดีตและปัจจุบัน(49)
- แผนที่อัปยศของสาธารณรัฐกอธูเลย์(50)
- พระเจดีย์กดลางน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ที่เจตกามิ หรือ Amherst(56)
- การลงนามในสัญญาพัฒนารัฐมอญ ระหว่างบริษัท รามัญญะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดโดยท่านประธาน ส่วยเจ้น กับประธานกรรมการของบริษัท พาวเวอร์-พี จำกัดที่กรุงย่างกุ้ง(กันยายน 2539)(62)
- ผู้เขียนกับสหายเก่า พล ท.ทอม่อน(กลางปี 2539)(67)
- พิธีศพนายโนนลาได้ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ์ของชายชาติรักรบฯ(70) - รีสอร์ท เจดีย์สามองค์(84)
- พระครูสาครกิจโกศล(พระอาจารย์จ้อน)(85) นายสเวจินถวายของหลวงพ่ออุตตมะ ณ เจดีย์สามองค์(89) |
|
|