|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
มอญ,อัตลักษณ์,การปรับเปลี่ยน,การรักษา,สมุทรปราการ |
Author |
เกศสิรินทร์ แพทอง |
Title |
การปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์และวิธีการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญของชาวมอญอำเภอพระประแดง |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
มอญ รมัน รามัญ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ออสโตรเอเชียติก(Austroasiatic) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
315 |
Year |
2546 |
Source |
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต(พัฒนาสังคม) คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract |
สิ่งบ่งชี้ความเป็นมอญคือประเพณีต่าง ๆ รวมทั้งภาษาและการแต่งกาย ลักษณะนิสัยเด่นคือยึดหลักของพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต มอญโดยมากจะอยู่กันแบบพึ่งพากัน ความสัมพันธ์ของครอบครัวจะเป็นแบบครอบครัวขยายโดยยึดผู้ใหญ่เป็นแกนหลัก มีการปกครองแบบประชาธิปไตย อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ปัจจุบัน มอญพระประแดงพูดภาษามอญได้น้อยลง การแต่งกายเป็นแบบปัจจุบัน จะแต่งกายแบบมอญเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ลักษณะของอาหารที่ต่างจากคนไทย คือ ลักษณะอาหารจะเป็นเมือก ๆ และมีรสเปรี้ยว สภาพบ้านเรือนปัจจุบันโดยมากจะเป็นแบบทรงไทยแต่เริ่มมีน้อยลง ด้านการละเล่น ดนตรี นาฏศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมอญเริ่มหาชมได้ยาก ด้านภูมิปัญญาชาวบ้านเรื่องการรักษาโรคปัจจุบันไม่ปรากฏให้เห็นแล้ว ส่วนการนับถือผีเริ่มน้อยลงโดยมากนับถือพระพุทธศาสนา อัตลักษณ์ด้านประเพณีถือได้ว่าเข้มแข็งมากที่สุดโดยเฉพาะประเพณีทางศาสนาซึ่งเป็นอัตลักษณ์เดียวที่ไม่มีการปรับเปลี่ยน |
|
Focus |
ให้ความสำคัญกับการนำเสนอประวัติความเป็นมา บริบทชุมชน การปรับเปลี่ยนและการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญของมอญพระประแดง |
|
Ethnic Group in the Focus |
มอญ ตำบลตลาดและตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ภาษามอญเป็นภาษาหนึ่งในตระกูลภาษามอญ-เขมร (Mon - Khmer) เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลออสโตรเอเซียติค (Austro - Asiatic) ลักษณะของภาษาจะมีลักษณะเป็นคำโดดคล้ายภาษาไทย มีไวยากรณ์ของตนเอง (หน้า 138) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
พระประแดง เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลที่สำคัญมากในแคว้นสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บริเวณตำบลราษฎร์บูรณะในปัจจุบัน รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ก่อสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์สำเร็จ โดยแบ่งเอาพื้นที่เมืองธนบุรีและเมืองสมุทรปราการมารวมกัน โปรดฯ ให้ย้ายครอบครัวมอญจากเมืองสามโคก ปทุมธานีซึ่งหนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรีพร้อมชายฉกรรจ์จำนวน 300 คนมาอยู่ที่เมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นกลุ่มแรก สมัยรัชกาลที่ 6 เมืองนครเขื่อนขันธ์เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองพระประแดงและตั้งเป็นจังหวัดในปีเดียวกันในสมัยรัชกาลที่ 7 เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เพื่อลดรายจ่ายของประเทศจึงโปรดฯ ให้ยุบจังหวัดพระประแดงเป็นอำเภอพระประแดงขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2475 (หน้า 93- 94) |
|
Settlement Pattern |
การตั้งถิ่นฐานของมอญพระประแดง แยกย้ายกันอยู่เป็นหมู่ๆ เรียกชื่อหมู่บ้านเช่นเดียวกับครั้งเมื่ออยู่ทางพม่าตอนใต้และมีอยู่บ้างที่เรียกชื่อตามสิ่งแวดล้อม (หน้า 98) เรือนที่อยู่อาศัย เรือนของมอญสมัยก่อนจะมีลักษณะคล้ายกระต๊อบหลังคามุงจาก ฝาขัดแตะตั้งถิ่นฐานริมแม่น้ำนิยมสร้างเรือนไปทางทิศเหนือต่อมาเรือนจะมีลักษณะคล้ายแบบบ้านทรงไทย ใช้ไม้ ใต้ถุนสูง มีชานเรือน ระเบียง (หน้า 141) |
|
Demography |
ครอบครัวมอญจากเมืองสามโคก ปทุมธานีซึ่งหนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรีพร้อมชายฉกรรจ์จำนวน 300 คนมาอยู่ที่เมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นกลุ่มแรก (หน้า94) อำเภอพระประแดงมีประชากรทั้งสิ้น 203,370 คนจำแนกเป็น องค์การบริหารส่วนตำบล 6 ตำบล 67 หมู่บ้านมีประชากร 39,340 คน เทศบาลเมืองพระประแดง 1 ตำบล มี 10,936 คน เทศบาลเมืองลัดหลวง 3 ตำบล มี 74,483 คนและเทศบาลตำบลสำโรงใต้ 5 ตำบล มีประชากร 78,611 คน (กรกฎาคมพ.ศ.2546) (หน้า 98) |
|
Economy |
ในอดีตประชาชนจะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ปลูกผักและผลไม้มีวิถีชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจประชาชนส่วนหนึ่งที่อาศัยทางด้านตะวันออกได้ทำการค้าขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอื่นๆ ต่อมามีการขยายตัวทางอุตสาหกรรมมีโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้แม่น้ำเกิดมลภาวะไม่เหมาะต่อการทำเกษตรกรรม อาชีพปัจจุบันเป็นอาชีพที่หลากหลายเหมือนสังคมเมืองทั่วไป เช่น ค้าขาย รับราชการ รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น (หน้า 102) |
|
Social Organization |
อำเภอพระประแดง เป็นชุมชนเมือง บางพื้นที่เป็นชุมชนอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม แต่เดิมชาวพระประแดงโดยมากสืบเชื้อสายมาจากมอญแต่ปัจจุบันเป็นคนไทย เชื้อชาติไทยและสัญชาติไทย คนภายนอกเข้ามาตั้งถิ่นฐานมาก เกิดการผสมผสาน จนทำให้มอญดั้งเดิมมีสภาพไม่ต่างจากคนไทย (หน้า 100) ส่วนสังคมมอญตำบลทรงคนองเป็นสังคมค่อนข้างปิด มีความเข้มแข็งสูงเนื่องจากไกลออกมาจากชุมชนอื่นๆ (หน้า 104) |
|
Political Organization |
เขตการปกครองของอำเภอพระประแดงแบ่งออกเป็น 4 เขตคือ - องค์การบริหารส่วนตำบล 6 ตำบล 67 หมู่บ้าน - เทศบาลเมืองพระประแดง 1 ตำบล - เทศบาลเมืองลัดหลวง 3 ตำบล - เทศบาลตำบลสำโรงใต้ 5 ตำบล (หน้า 98) |
|
Belief System |
มอญเป็นชนชาติที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและเคร่งครัดในการประกอบพิธีกรรมมาก (หน้า 102) นอกจากการนับถือศาสนาพุทธ มอญยังนับถือผี หากได้รับการกระทำที่ไม่พึงพอใจ ลบหลู่หรือดูหมิ่นหรือผิดผีจะต้องมีการเซ่นไหว้ การนับถือผีบรรพบุรุษมีความสัมพันธ์กับสายตระกูลหรือระบบเครือญาติ สัญลักษณ์ของผีแต่ละอย่างเป็นตัวบ่งบอกได้ว่ามอญแต่ละกลุ่มนั้นอพยพมาจากที่ใด นอกจากความเชื่อในเรื่องการนับถือผีแล้วมอญยังมีการนับถือเจ้าพ่อ (เป๊ะจุ๊) ที่เชิญมาจากหมู่บ้านเดิมในพม่าอีกด้วย (หน้า143-144) |
|
Education and Socialization |
โรงเรียนในชุมชนมีทั้งสถานศึกษาของรัฐบาลและเอกชน สามารถจำแนกได้ดังนี้ - โรงเรียนสังกัดประถมศึกษา จำนวน 30 โรงเรียน - โรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา จำนวน 4 โรงเรียน - โรงเรียนสังกัดเทศบาล จำนวน 4 โรงเรียน - โรงเรียนสังกัดการศึกษาเอกชน จำนวน 21 โรงเรียน - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดกรมการศาสนาและกรมพัฒนาชุมชน จำนวน 11 ศูนย์ - ศูนย์บริการการศึกษา จำนวน 4 ศูนย์ - ศูนย์การเรียน จำนวน 4 แห่ง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มและองค์กรและสถานบริการการศึกษาที่จัดตั้งขึ้นอีกมากมาย (หน้า 100-101) |
|
Health and Medicine |
ในอดีต การรักษาโรคจะเน้นความเชื่อไสยศาสตร์ การใช่มนต์คาถาเป่าพ่น เช่น การเป่าพ่นชันหมากแก้โรคตาแดง โรคงูสวัด เป็นต้น นอกจากนี้จะมีพิธีทิ้งข้าว ในกรณีที่เป็นไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากมนต์คาถาแล้วจะมีสมุนไพรต่างๆ ในการรักษาโรค เช่นเดียวกับคนไทย ปัจจุบันวิธีอย่างอดีตไม่เป็นที่นิยมมีคนใช้เพียงแค่ยาหม้อ ส่วนอื่นก็มีน้อยเนื่องจากไปรักษาที่โรงพยาบาลหาหมอแผนปัจจุบัน (หน้า141-142) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การแต่งกาย ผู้หญิงจะนุ่งผ้าถุง มีลักษณะเป็นผ้าป่าน ใส่เสื้อแขนกระบอกเข้ารูป นิยมไว้ผมยาวเกล้าผมมวยมีผ้าคล้องคอ ผู้ชายจะใส่เสื้อคอกลม นุ่งผ้าลอยชายมีผ้าพาดไหล่ มีผ้าคาด การแต่งกายลักษณะดังกล่าวจะเห็นได้ในช่วงวันสงกรานต์ของมอญ ส่วนในชีวิตประจำวันจะแต่งตามสมัยนิยม สมัยก่อนผู้ชายเข้าวัดจะนุ่งโจงกระเบน เมื่อออกจากวัดไปพบปะสังสรรค์ก็จะปล่อยชายโจงกระเบนลงกลายเป็นผ้าลอยชายในปัจจุบัน ส่วนผ้าคล้องคอของผู้หญิง สมัยก่อน ก่อนออกจากบ้านจะนำมาคล้องคอเมื่อเข้าวัดจะทำเป็นสไบและเป็นผ้าที่ใช้กราบพระ (หน้า 139) การรำมอญ เครื่องแต่งกายของนางรำ จะนุ่งซิ่นยาวกรอมเท้า สวมเสื้อแขนสามส่วนหรือแขนกระบอกยาวถึงข้อมือ ชายเสื้อเข้ารูปรัดเอว มีผ้าสไบพาดไหล่ซ้ายหรือผูกแบบสายสะพายหรืออาจจะคล้องคอ ปล่อยชายทั้งสองห้อยมาข้างหน้าก็ได้ ผมเกล้ามวยประทับด้วยดอกไม้ (หน้า148) ประเพณีการแห่หงส์-ธงตะขาบ หนุ่ม ๆ จะนุ่งลอยชาย มีผ้าสไบ หรือผ้าขาวม้าไหมพาดไหล่ ส่วนผู้หญิงจะนุ่งผ้าถุงหรือโจงกระเบน เสื้อแขนกระบอก มีผ้าสไบพาดไหล่ (หน้า 152) การทำโลงมอญ (อะลาบ๊อก) เป็นการทำโลงมอญด้วยกระดาษและไม้ มีการแกะสลักลวดลายที่สวยงามตามแบบฉบับของมอญ(หน้า 142) |
|
Folklore |
การเล่นสะบ้า ของมอญมี 2 ชนิดได้แก่สะบ้าบ่อนและสะบ้าทอย สะบ้าบ่อน เป็นกีฬาที่เล่นระหว่างหนุ่มสาว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางการเชื่อมสัมพันธไมตรีมากกว่าเอาแพ้ชนะ นิยมเล่นบริเวณใต้ถุนบ้านหรือลานหน้าบ้าน ในการเล่นจะมีการเล่นเครื่องดนตรีประกอบหรือบรรเลงเพลงคลอเสียงร้องทะแย สะบ้าทอย เล่นกันเฉพาะในหมู่ผู้ชาย ใช้กำลังและฝีมือในการเล่น สถานที่เล่นจะเป็นลานดินอัดแน่นและเรียบกว้างประมาณ 3 X 30 เมตร (หน้า 145) ทะแยมอญ เป็นการละเล่นที่ใช้เป็นมหรสพได้ทั้งงานมงคลแงะงานอวมงคล คล้ายลำตัดของคนไทย เนื้อหาของคำร้องจะแตกต่างกันตามลักษณะของงาน เช่น งานแต่งก็จะร้องพรรณนาประวัติของเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นต้น ปี่พาทย์มอญ รำมอญ มอญร้องไห้ เดิมผู้หญิงสูงอายุที่เป็นญาติผู้ตายเป็นคนร้องไห้ เป็นการร้องที่ไม่มีน้ำตาแต่พรรณนาคุณงามความดีของผู้ตายพรางสะอึกสะอื้นเป็นระยะ ส่วนประเพณีทางศาสนาและประเพณีทางพิธีกรรมที่สำคัญ เช่น ประเพณีทางศาสนา ประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นปีใหม่ของมอญ ประเพณีส่งข้าวสงกรานต์ ประเพณีแห่นก-แห่ปลา ประเพณีแห่หงส์-ธงตะขาบ ประเพณีค้ำต้นโพธิ์ ประเพณีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ประเพณีสรงน้ำพระพุทธรูป ประเพณีสลากภัตต์ ประเพณีสรงน้ำพระ ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้ง ประเพณีหยดน้ำมันเรือสำเภาและประเพณีแข่งเรือ เป็นต้น ประเพณีโดยมากจะจัดในเดือนเมษายนช่วงวันสงกรานต์ ประเพณีเกี่ยวกับชีวิต ประเพณีการเกิด เด็กคลอดใหม่จะให้นอนในกระด้งใช้ผ้าผูกเป็นกระโจมต่างมุ้ง ถ้าเป็นเด็กชายจะวางสมุดดินสอลงไปด้วยเพื่อเป็นเคล็ดให้เรียนเก่ง ถ้าเป็นหญิงจะวางเข็มและด้ายเป็นเคล็ดให้เก่งการบ้านการเรือน ประเพณีโกนจุก ประเพณีการบวช การแต่งงาน และประเพณีการเสียชีวิต (หน้า 145-157) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
อัตลักษณ์ทั่วไป สามารถแบ่งได้เป็นอัตลักษณ์ทางสังคมและทางวัฒนธรรมโดยสิ่งบ่งชี้ความเป็นมอญคือ ประเพณี ภาษา การแต่งกาย ลักษณะนิสัยเด่นของมอญคือชอบการทำบุญ ยึดหลักศาสนา รักสงบและมีน้ำใจ อัตลักษณ์สำคัญของมอญพระประแดงคือ อัตลักษณ์ทางประเพณี อัตลักษณ์ด้านนิสัยการทำบุญ นิยมการเข้าวัดและอัตลักษณ์ทางภาษา - การปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ พบว่า อัตลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนคือ การแต่งกาย อาหาร ที่อยู่อาศัย พิธีกรรมต่างๆ ความเชื่อ ค่านิยม การละเล่น ดนตรี ศิลปะ อัตลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนเกือบหมดคือภาษา ภูมิปัญญาการรักษาโรคและภูมิปัญญาด้าน อาชีพและการนับถือผี - วิธีการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญ มีทั้งวิธีการในลักษณะรูปธรรมและนามธรรม ดังนี้ การจัดทำหนังสือ การจัดนิทรรศการ การสร้างแหล่งรวบรวมข้อมูล การบรรจุในหลักสูตร การรณรงค์ผ่านสื่อต่าง ๆ ใช้ความเชื่อทางพิธีกรรมที่ต้องปฏิบัติสืบทอด ส่งเสริมผลักดันให้มีส่วนร่วมในการจัดงาน เป็นต้น บุคคลที่มีส่วนสำคัญคือ กลุ่มชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่และพระในชุมชน โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุน แนวโน้มการดำรงรักษา ภาษาคงหมดไป ประเพณีคงสืบทอดต่อไป อัตลักษณ์ทางสังคมยังเหนียวแน่นอยู่ ความเชื่อต่าง ๆ คงจะต้องเปลี่ยนแปลง การแต่งกายคงเห็นตามช่วงประเพณี ด้านอาหารคงมีต่อไป - ส่วนแนวโน้มในสถาบันที่ดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญพบว่า สถาบันครอบครัวมีบทบาทลดลง โรงเรียนจะมีบทบาทมากขึ้น หน่วยงานรัฐ องค์กรการปกครองท้องถิ่นมีบทบาทน้อยลงถ้าชาวบ้านต่อต้าน เอกชนเข้ามาให้การสนับสนุนมากขึ้น |
|
Social Cultural and Identity Change |
อดีตประชาชนจะประกอบอาชีพเกษตรกร ทำนา ปลูกผักและผลไม้มีวิถีชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต่อมามีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อาชีพปัจจุบันจึงเป็นอาชีพที่หลากหลายเหมือนสังคมเมืองทั่วไป เช่น ค้าขาย รับราชการ รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น (หน้า 102) ปัจจุบันมอญในพระประแดงมีผู้ใช้ภาษามอญน้อยลงกว่าในอดีต เหตุผลหนึ่งเพราะความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม เป็นสังคมเปิดมีการติดต่อกับภายนอกมากขึ้น ทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (หน้า139) อดีตจะคลอดบุตรที่เรือนของตนโดยมีหมอตำแยเป็นผู้ทำคลอดแต่ปัจจุบันการคลอดบุตรนิยมคลอดที่สถานพยาบาล ในอดีตการรักษาโรคจะเน้นความเชื่อไสยศาสตร์ การใช่มนต์คาถาเป่าพ่นควบคู่กับการใช้สมุนไพรต่าง ๆ ในการรักษาโรค ปัจจุบัน วิธีอย่างอดีตไม่เป็นที่นิยมมีคนใช้เพียงแค่ยาหม้อ ส่วนอื่นก็มีน้อยเนื่องจากไปรักษาที่โรงพยาบาลหาหมอแผนปัจจุบัน(หน้า141-142) ภูมิปัญญาด้านศิลปะเริ่มปรับเปลี่ยน เช่น เริ่มจะมีการประดิษฐ์ธงตะขาบ และการทำหงส์ออกมาในรูปแบบของเข็มกลัด สิ่งบูชา ในรถ และมีการทำขนาดย่อส่วนเป็นของที่ระลึกแก่ผู้สนใจ เป็นต้น |
|
Map/Illustration |
ตาราง - ข้อมูลสรุปความหมายของเอกลักษณ์และอัตลักษณ์(30) - ข้อมูลวิธีการดำรงรักษาเอกลักษณ์จากงานวิจัยต่างๆ(34) - ข้อมูลสาเหตุและปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม(50) - แสดงข้อมูลเขตการปกครององค์การบริหารส่วนตำบล(อ.บ.ต.)(97) - ข้อมูลเขตการปกครองเทศบาลเมืองพระประแดง(97) - ข้อมูลเขตการปกครองเทศบาลเมืองลัดหลวง(97) - ข้อมูลเขตการปกครองเทศบาลตำบลสำโรงใต้(98) - ข้อมูลพื้นฐานของผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ(106) - ข้อมูลสิ่งบ่งชี้ความเป็นมอญและลักษณะนิสัยเด่นมอญ(132) - ข้อมูลการรวมกลุ่มต่างๆจำแนกตามหน่วยงานที่จัดตั้ง(135) - ข้อมูลวิธีการอบรมสั่งสอนทางสังคมและหลักในการสอน(138) - ข้อมูลอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ(162) - ข้อมูลการปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของมอญพระประแดง(168) - ข้อมูลอัตลักษณ์สำคัญของกลุ่มผู้ให้ข้อมูล 3 อันดับแรก(170) - ข้อมูลอัตลักษณ์ที่ต้องรื้อฟื้น อนุรักษ์ สืบทอด(171) - ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่มีส่วนในการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญ(179) - ข้อมูลแสดงการสนับสนุนการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญ (182) - ข้อมูลปัญหาอุปสรรคในการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญ (185) แผนภูมิ - โครงสร้างสังคมก่อให้เกิดตำแหน่งของสถานภาพ บทบาทและเอกลักษณ์(26) - งานประเพณีของชาวไทยเชื้อสายรามัญ(155) - วิธีการในการดำรงรักษาอัตลักษณ์สำคัญของมอญพระประแดง(175) - เครือข่ายในการจัดงานสงกรานต์ของเทศบาลเมืองพระประแดง(177) - แสดงเครือข่ายในการจัดงานแห่หงส์-ธงตะขาบของชาวรามัญ พระประแดง(178) |
|
|