|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
พวน ไทยพวน ไทพวน,ลาวเวียง,ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น,ฉะเชิงเทรา |
Author |
เพ็ญศรี ดุ๊ก, นารี สาริกะภูติ |
Title |
ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของชาวลาวเวียงและลาวพวนในอำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ลาวเวียง ลาวกลาง, ไทยพวน ไทพวน คนพวน,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
187 |
Year |
2529 |
Source |
โครงการไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract |
พวนและชาวเวียงจันทน์ อพยพเข้ามาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีหลักฐานว่าคนอพยพรุ่นแรกเป็นลาวพวนที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเป็นผู้นำเข้ามาในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมัยพระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการกวาดต้อนลาวและเขมรเข้ามาเป็นเชลยศึกและกำหนดพื้นที่เป็นหลักแหล่ง ในเขตอำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต ซึ่งมีสถานะเป็นไพร่ ทาสและเลกลาว อยู่ภายใต้การปกครองระดับต้นของลาวด้วยกัน ผู้ปกครองเหล่านี้ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และเบี้ยหวัดเช่นเดียวกับขุนนางไทย เลกลาวมีโอกาสเลื่อนจากไพร่เป็นนาย เปลี่ยนมูลนายหรือย้ายที่อยู่ได้ตามความเห็นชอบของทางการ ชุมชนลาวได้รับการยกฐานะเป็นเมืองพนมสารคามและเมืองสนามชัยเขต มีเจ้าเมืองเป็นคนลาวและปกครองแบบแผนดาญาสี่ เช่นเดียวกับหัวเมืองลาวตะวันออก ต้องทำส่วยและเลี้ยงโคหลวงโดยแยกทำส่วยต่างหากจากเลกเมืองฉะเชิงเทรา ส่วยที่สำคัญได้แก่ ส่วยทองคำ ส่วยเร่ว ส่วยหมากพอกและไม้รางปืนและส่วยโค |
|
Focus |
ศึกษาสาเหตุการอพยพ การตั้งถิ่นฐาน การปกครอง การเสียภาษีและขนบประเพณีของลาวพวนและลาวเวียงในอำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา |
|
Ethnic Group in the Focus |
ลาวพวนและลาวเวียง ตามพงศาวดารเรียกชาวพวนว่า "ลาวพวน" แต่ชาวพวนเรียกตัวเองว่า "ไทยพวน" (เชิงอรรถ 1 หน้า 2) ส่วนลาวเวียงน่าจะหมายถึงลาวเวียงจันทร์ (หน้า 13) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ลาวเวียงและลาวพวนยังใช้ภาษาดั้งเดิมของตนเองในหมู่บ้าน (หน้า 2) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
เมืองพนมสารคามและเมืองสนามชัยเขตเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองฉะเชิงเทราในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เชื่อกันว่าเป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยขอม เป็นชุมชนดั้งเดิมของคนไทยมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาก่อนที่จะมีชาวลาวเข้ามาตั้งรกรากอยู่ สมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการกวาดต้อนลาวและเขมรเข้ามาเป็นเชลยศึกและกำหนดพื้นที่เป็นหลักแหล่ง พื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันอยู่ในเขต อำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต สมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราโชบายยกหมู่บ้านที่เป็นชุมชนหนาแน่นขึ้นเป็นเมือง ได้ยก "บ้านท่าช่านเป็นเมืองพนมสารคาม" ปัจจุบันเรียกว่า ตำบลเมืองเก่า ส่วนบ้านพระงามได้ยกเป็นเมืองขึ้นเมืองฉะเชิงเทรา เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในป่าติดต่อภายนอกไม่สะดวก พ.ศ. 2441 จึงยุบเป็นอำเภอ ชาวพวนและชาวเวียงจันทน์อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (หน้า 13-17) การกวาดต้อนครอบครัวลาวเข้ามาในราชอาณาจักรสยามยังคงดำเนินต่อไปอีก ดังเช่น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นแม่ทัพหลวงยกไปปราบ กวาดต้อนครอบครัวลาวเป็นเชลยและโปรดเกล้าให้ไปอยู่ที่เมืองต่างๆ เช่น เมืองลพบุรี เมืองสระบุรี แขวงเมืองชลบุรี เมืองสุพรรณบุรี เป็นต้น ลาวพวนที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองพนมสารคามเป็นกลุ่มแรกได้แก่ลาวพวนซึ่งถูกกวาดต้อนเข้ามาในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี(หน้า 33 - 34) เอกสารทางราชการระบุว่า เดือน 5 แรม 13 ค่ำ ท้าวเพียชาเนตหนองคาย เป็นผู้ควบคุมชาวลาวหมวดเพียศรีวงศา จำนวน 358 คน และเพียวงศ์ชมพูแก้วกัลยาจำนวน 419 คน ในเดือน 6 ขึ้น 6 ค่ำ กรมการเมืองปราจีนบุรีคุมครัวลาวลงมาอีก 2 หมวดคือ หมวดกองนาเหล่า 389 คนและหมวดเพียจันฤาชา 305 คนมาที่บ้านท่าทร่านแขวงเมืองฉะเชิงเทรา (หน้า 62) โดยผ่านมาทางหนองหาร นครราชสีมาและกบินทร์บุรี สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านพระงามขึ้นเป็นเมืองสนามชัยเขต ให้เลกลาวบ้านท่าทร่านและเลกลาวเมืองพลานคลองท่าไข่ มีฐานะสำคัญในการผลิต ทำส่วยและเลี้ยงโคหลวงโดยแยกทำส่วยต่างหากจากเลกเมืองฉะเชิงเทรา (หน้า 121,123) ส่วยที่สำคัญได้แก่ ส่วยทองคำ ส่วยเร่ว ส่วยหมากพอกและไม้รางปืนและส่วยโค ส่วนลาวเวียงอพยพจากเวียงจันทร์ซึ่งถูกตีแตกในปี พ.ศ. 2300 กว่าๆ คนที่นำมาเป็นลาวพวน จำนวนคนที่มามีเป็นร้อย มาตั้งรกรากที่บ้านเก่าซึ่งเป็นที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ พวกพวนมากขึ้นจึงขยายหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ลาวที่อพยพเข้ามามีทั้งพระสงฆ์ สามเณร คนชรา คนธรรมดา เช่น ชาย หญิง เด็ก และ มีเจ้านาย ท้าว เพีย (พระยา) แสน และ หมื่น (หน้า 85-86) |
|
Settlement Pattern |
ในอำเภอพนมสารคามกลุ่มประชากร ปลูกเรือนใกล้แม่น้ำเพื่อความสะดวกในการทำมาหากิน เมื่อมีการตัดถนนผ่านในปี พ.ศ. 2506 จึงพากันตั้งบ้านเรือนตามสองฟากของทางหลวงและถนนลูกรังที่ตัดเข้าหมู่บ้าน (หน้า 12) ลาวพวนและลาวเวียงในสองอำเภอตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่มไม่ปะปนกับคนเขมรซึ่งเป็นคนอพยพด้วยกันและไม่ปะปนกับคนไทยซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ก่อนแล้ว(หน้า 17) |
|
Demography |
ลาวพวนทั้ง 4 หมวด (เพียศรีวงศา เพียวงศ์ชมพูแก้วกัลยา กองนาเหล่า และ หมวดเพียจันฤาชา) ที่ถูกควบคุมเข้ามาในประเทศไทย ระหว่างที่อพยพได้หนีเจ็บป่วยฝากไว้ตามเมืองที่เดินผ่านและล้มตายบ้าง คงเหลือมาถึงบ้านท่าทร่านจำนวน 1,488 คน(หน้า 62) พ.ศ. 2383 เจ้าพระยาบดินทร์เดชานุชิต (สิงห์ สิงหเสนี) เกณฑ์เลกลาวบ้านท่าทร่าน 848 คน ไปทัพพนมเปญ พ.ศ. 2386 ทางการได้เกณฑ์กองลาว 8 กอง เป็นนายไพร่ 876 คนไปทัพเมืองนครพนม กองลาวบ้านท่าทร่านถูกเกณฑ์ไปทัพ พ.ศ. 2383 จำนวน 848 คน ลาวในเมืองต่าง ๆ ถูกเกณฑ์มา 3,883 คน (หน้า 98-99) ลาวที่อพยพเข้ามามีทั้ง พระสงฆ์ สามเณร คนธรรมดา เช่น คนชรา ชาย หญิง เด็ก และมี เจ้านาย ท้าว เพีย (พระยา) แสน และหมื่น (หน้า 85-86) |
|
Economy |
พวกที่อพยพเข้ามาทั้งลาวเวียงและลาวพวน ทำนา ทำไร่ ตัดไม้และเผาถ่านและปลูกฝ้าย (หน้า 77) พวกลาวเวียงมีเงินลาวเข้ามาด้วย คือเงินเสี้ยนและเงินฮาง นอกจากมีอาชีพดังกล่าวแล้ว ยังต้องเป็นแรงงานให้เจ้าหรือนายอีกในลักษณะต่างๆ |
|
Social Organization |
ทางราชการไทยได้กำหนดสถานภาพของลาวในแขวงเมืองฉะเชิงเทราไว้ต่าง ๆ ดังนี้ 1. เชลย เป็นทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ที่อาจจะพระราชทานให้แก่ขุนนาง (หน้า 95 ) 2. เลกทาส เป็นแรงงานในการขุดทอง 3. เลกคงเมือง เป็นแรงงานที่กำหนดให้เป็นแรงงานของเจ้าเมือง 4. เลกกองนอก ทำหน้าที่เลี้ยงโคหลวง 5. ไพร่สม ทำหน้าที่ทำส่วยทองถวายพระมหากษัตริย์ 6. ไพร่หลวง ทำหน้าที่รับราชการหรือทำส่วยเร่ว ส่วยทองคำถวายพระมหากษัตริย์ แต่สามารถมีการเลื่อนชั้นกันได้ เช่น จากไพร่เป็นนายได้ (หน้า 99) |
|
Political Organization |
ในปัจจุบันจังหวัดฉะเชิงเทราแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 8 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ อำเภอพนมสารคามแบ่งพื้นที่การปกครองเป็น 8 ตำบล อำเภอสนามชัยเขตแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 5 ตำบล (หน้า 10,12) เมื่อ 200 ปีก่อนฉะเชิงเทรามีฐานะเป็นแขวงเมือง ลาวพวนและลาวเวียงบ้านท่าทร่าน และลาวเมืองพลานบ้านท่าไข่มีฐานะเป็นไพร่เชลยศึกหรือทาสเชลย(เลก) ทางการควบคุมโดยการกำหนดพื้นที่ให้ตั้งหมู่บ้าน มีผู้ควบคุมซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าเมืองฉะเชิงเทรา ตามลักษณะการควบคุมกำลังคนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (หน้า 94) เลกลาวบ้านท่าทร่าน ได้แก่ เชลย เลกทาส เลกคงเมือง เลกกองนอก ไพร่สมและไพร่หลวง |
|
Belief System |
คนลาวที่อพยพเข้ามาในจังหวัดฉะเชิงเทรานับถือผีบรรพบุรุษและพระพุทธศานา มีการนำความเชื่อมาผสมผสานกับพระพุทธศาสนาอย่างเหมาะสม เป็นต้นว่า การทำบุญข้าวห่อ ประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ ประเพณีสงกรานต์ บุญข้าวหลามและงานบุญพระเวส |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
พระอุโบสถลาวในอำเภอพนมสารคามโดยมากมีขนาดเล็ก รูปทรงเตี้ยแจ้มีหลังคาซ้อนลดหลั่นลงมา 2 หรือ 3 ชั้น ผนังก่ออิฐโบกปูนตลอด เจาะช่องแสงสว่างน้อย มีหน้าต่างต้นละ 2 ช่อง ด้านหลังพระอุโบสถไม่มีประตู สถาปัตยกรรมลาวที่เด่นชัดอีกแห่งได้แก่ พระอุโบสถเมืองแมดมีใบเสมาอยู่ภายในพระอุโบสถ มีฐานใบเสมาตั้งที่พัทธเสมา 8 ใบตามแนวเสาคู่ใน ซึ่งเป็นคตินิยมของเสมาพระอุโบสถลาวหรือในภาคอีสานซึ่งได้พบในวัดแห่งหนึ่งที่เมืองเวียงคุก จังหวัดหนองคาย (หน้า 142) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Map/Illustration |
ตาราง - แสดงถิ่นที่อยู่คนอพยพในจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีและนครนายก(26-27) - แสดงเบี้ยหวัดนายกองลาวเป็นรายบุคคลเป็นรายปี(102) - เปรียบเทียบเบี้ยหวัด พ.ศ. 2483 กับพ.ศ. 2392(103) - แสดงกองลาวและจำนวนเบี้ยหวัดในการไปราชการเมืองพนมเปญ(105) - แสดงตำแหน่งและบรรดาศักดิ์ผู้ปกครองในกองลาว(107) - จำนวนผู้ปกครองกองลาวแต่ละกอง(109) - แสดงนายไพร่ไปทัพเมืองนครพนม(113) - แสดงกองลาวและประเภทของส่วย(124) - แสดงส่วยทองที่นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายและไพร่ทาสส่วยทอง(127) แผนที่ - แสดงอาณาเขตหัวเมืองลาว(3) - แผนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา(11) - การคมนาคมก่อนรัชกาลที่ 5(20) - แสดงเส้นทางการค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(23) - ชาวลาวภาคตะวันออก(28) - แสดงหมู่บ้านลาวพวน อำเภอพนมสารคาม(39) - แสดงหมู่บ้านลาว อำเภอพนัสนิคม(53) - แสดงหมู่บ้านชาวโซ่(57) - แสดงเมืองพนัสนิคม(58) - แสดงลำคลองท่าลาดและบ้านตะเข้ปูน(64) - แสดงบ้านาเหล่าน้ำและบ้านเมืองแมด(65) - แสดงบ้านปากห้วยและบ้านซำข่า(72) - แสดงบ้านชำป่าหวาย หนองแหนและหนองอีบู่(73) - แสดงบ้านบางมะเฟือง(75) - เมืองพลาน(78) - ลาวเมืองพลานบ้านท่าไข่(82) - แผนที่หมู่บ้านลาวพวนและลาวเวียง(97) - เมืองฉะเชิงเทรา เมืองพนมสารคาม(137) ภาพ - ภาพเงินเสี้ยนและเงินฮาง(38) - ดาบคร่ำเงิน(38) - เต้าปูนลาวบรรจุในเจดีย์วัดมหาเจดีย์(42) - พระเจดีย์ใหญ่วัดมหาเจดีย์(43) - หลวงพ่อติ้ว(55) - ชาวเมืองแมด(68) - ต้นเร่ว(130) - พระอุโบสถวัดหนองเค็ด(140) - พระอุโบสถวัดเตาเหล็ก(140) - เสมาวัดเมืองแมด(141) - พระอุโบสถวัดเมืองแมค(141) - จิตรกรรมฝาผนังวัดบ้านเล้อ (144) - จิตรกรรมฝาผนังวัดเมืองกาย(144) - พระพุทธรูปสำริด(147) - ให้อาหารผีไม่มีญาติ(149) - กรวดน้ำ(149) - เครื่องไหว้ครูคาถาพัน(151) - บุญพระเวส(151) - บุญข้าวหลาม(153) - ปิดทองพระบาท(153) |
|
|