ภาพแผนที่แสดงการกระจายของกูยในอำเภอท่าตูม(25), การเตรียมการและภาพในงานแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์(93-95), รอนแรมร่อนเร่วิถีของกูยอาจึง(96), เมื่อมีนักท่อง เที่ยวเข้ามาในหมู่บ้านผู้หญิงจะออกมาขายอาหารช้าง(97), หลวงพี่หาญ ภิกษุวัดป่าที่ศรัทธาของกูยอาจึง(99), รูปทรงบ้านของชาวอาจึงสมัยก่อนที่ยังอาศัยอยู่จนทุกวันนี้ (100), วิถีชีวิตเกี่ยวกับการทอผ้า(101-103), บริเวณหมู่บ้านตากลางตรงพื้นที่ทำนาท้ายหมู่บ้าน(104), กิจกรรมเกี่ยวกับช้างและงานบวชนาคประจำปี(105-109), วังทะลุบริเวณที่แม่น้ำมูลและลำชีบรรจบกัน(110), ศาลปู่ตาหรือยะจัวะฮเพรียมที่เคารพของคนทั้งหมู่บ้าน(111), ทุกครั้งที่มีการอุปสมบทชายกูยจะมาเซ่นสรวงยะจัวะฮเพรียมเสมอ (112), การตระเตรียมเครื่องเซ่นไหว้(113-114), หลังจากพานาคขี่หลังมาจนถึงดอนปู่ตาบริเวณวังทะลุควาญช้างจะพาช้างของตัวลงเล่นน้ำ(115), แม่หวล เสาวรส หญิงกูยที่มีความคิดก้าวหน้ายอมให้ลูกสาวของเธอออกไปทำงานนอกหมู่บ้าน(116), กล้วยช้ำที่นำมาเป็นอาหารช้าง(117), มูลนิธิเพื่อนช้างเข้าไปตรวจโรคและฝังไมโครชิพให้ช้านในหมู่บ้าน(118), นำเลือดช้างไปตรวจและหาโรค(119), งานบวชนาคบ้านตากลาง(120-121), เอี่ยม ศาลางาม ปัจจุบันทำงานร่วมกับมูลนิธิโครงการพัฒนาประชากรและชนบทโดยนำช้างของตนไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ ให้เด็กรักสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า(122), ช้างของเอี่ยม ศาลางาม (124-125), ยามเย็นบริเวณวังทะลุ หากช้างอยู่ในหมู่บ้านเจ้าของจะต้องพามาอาบที่นี่(126), สัตว์เลี้ยงของเด็กชายบ้านตากลางคือช้างที่เติบโตมาพร้อมๆ กัน(127), บางครั้งลูกช้างที่ไม่ค่อยดื้อจะได้รับการปล่อยโซ่และเดินป้วนเปี้ยนอยู่กับคน(128), ศาลประกำจะถูกสร้างไว้หน้าบ้านของกูยอาจึงโดยไม่มีการรื้อสร้างใหม่(129), ผู้ใหญ่ดา จงใจงามอดีตผู้ใหญ่บ้านตากลางที่นับถือของกูยอาจึง(130), พลายทองใบ ช้างที่สวยที่สุดของบ้านตากลางของผู้ใหญ่ดา จงใจงาม(131), พลายทองใบกับควาญช้างที่รู้ใจก่อนเดินทางออกนอกหมู่บ้าน(132), ศาลปะกำรวมของบ้านตากลางตั้งอยู่ที่ศูนย์คชศาสตร์(133), ลักษณะศาลปะกำของกูยอาจึงตามบ้านจะเป็นที่เก็บเครื่องมือคล้องช้างด้วย(134), ศาลปะกำเป็นสถานที่ต้องห้ามของผู้หญิงทุกคน(135), ทามที่รัดคอช้าง(136), กูบสำหรับนั่งช้างของนักท่องเที่ยวปัจจุบัน(138), ก่อนจะใส่กูบจะต้องปูเยื่อไม้รองหละงช้างหลายๆ ชั้นเพื่อกันช้างเจ็บ, ขอสับของควาญเพื่อบังคับเวลาช้างดื้อ(138), กระดูกคางไก่ใช้เสี่ยงทายทุกครั้งที่กูยอาจึงจะเดินทางออกจากบ้าน(139), เชือกปะกำสมัยก่อนจะทำจากเถาวัลย์และหนังควายตากแห้ง(140) |