|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาหู่,มูเซอ,การศึกษา,ตาก |
Author |
ศุภชัย สถีรศิลปิน |
Title |
ปัญหาการศึกษาของชาวเขาเผ่ามูเซอในบริเวณดอยมูเซอ จังหวัดตาก |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
45 |
Year |
2527 |
Source |
สถาบันวิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย |
Abstract |
มูเซอหมู่บ้านอุมยอมให้ความสนใจและมองเห็นประโยชน์ของการศึกษาอยู่บ้าง แต่อ้างว่า เหตุที่ไม่ส่งบุตรหลานไปเรียนนอก หมู่บ้าน เป็นเพราะโรงเรียนอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน ถ้าส่งบุตรหลานไปเรียนนอกหมู่บ้านทำให้ขาดผู้ดูแลบ้านพักในระหว่างที่ผู้ปกครองออกไปทำงานในไร่ เป็นต้น มูเซอให้ความสนใจที่จะเรียนหนังสืออยู่ในหมู่บ้านมากกว่าที่จะไปเรียนนอกหมู่บ้าน จึงมีการสร้างโรงเรียนในหมู่บ้าน แต่เหตุที่โรงเรียนในหมู่บ้านต้องทิ้งร้าง เป็นเพราะขาดแคลนครูที่มีความสามารถ และครูมิได้มาสอนเป็นประจำในหมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านอยู่ในเขตอันตรายจากภัยผู้ก่อการร้าย เจ้าหน้าที่พยายามที่จะชักจูงให้เด็กนักเรียนมาเรียนที่โรงเรียนบ้านมูเซอที่ตั้งอยู่นอกหมู่บ้านโดยผ่านทางผู้นำหมู่บ้านแต่ก็ยังไม่เป็นผล ผู้วิจัยจึงได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการศึกษา โดยเจ้าหน้าที่ควรสร้างความศรัทธาให้เกิดกับมูเซอโดยใช้เวลาคลุกคลีในหมู่บ้านให้มากขึ้นและปฏิบัติงานร่วมกันตามโครงการต่าง ๆ และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการสอนหนังสือ นอกจากนั้น การศึกษาชุมชนโดยเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและความเชื่อ เพื่อหาลู่ทางการส่งเสริมให้สอดคล้องกับความเชื่อและสร้างความศรัทธาต่อกัน ควรเห็นความสำคัญของการศึกษาภาษามูเซอบ้างเพื่อประโยชน์ในแง่การเข้าถึงและการยอมรับต่อกัน ที่สำคัญคือปัญหาในเรื่องการเป็นหนี้สิน ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะอาจเป็นให้ความเชื่อถือในตัวบุคคลหมดไปได้ (หน้า 39-41) |
|
Focus |
การแก้ไขปัญหาการศึกษาของชาวเขาเผ่ามูเซอในบริเวณดอยมูเซอ จังหวัดตาก ที่ไม่ยอมรับการศึกษาและไม่สนับสนุนให้บุตรหลานของตนไปเรียนหนังสือในโรงเรียนที่ตั้งอยู่นอกหมู่บ้าน |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
มูเซอเป็นชนเผ่ามองโกลอยด์พวกหนึ่งจัดอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ธิเบต สาขาพม่า-ธิเบต คำว่ามูเซอเป็นคำในภาษาไทยใหญ่ ภาษาพูดของมูเซอ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือภาษามูเซอดำและมูเซอกุ้ย แต่ละกลุ่มภาษายังแบ่งได้เป็นหลายภาษาถิ่นย่อย โดยกลุ่มภาษามูเซอดำเป็นภาษาถิ่น มูเซอดำ มูเซอแดงและมูเซอเฌเล ส่วนกลุ่มภาษามูเซอกุ้ย แบ่งออกเป็นภาษาถิ่นมูเซอ บาหลาและมูเซอเกียว (หน้าที่ 11-12) |
|
Study Period (Data Collection) |
ระยะเวลาการศึกษา 150 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2525 เป็นต้นไปแต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องเลื่อนระยะเวลา เนื่องจากต้องรอการอนุมัติโครงการ ซึ่งการดำเนินการที่แท้จริงได้เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 เป็นต้นไป (หน้า 3-4) |
|
History of the Group and Community |
หมู่บ้านอุมยอม เริ่มตั้งหมู่บ้านประมาณปี พ.ศ. 2490 เดิมมูเซอเรียกว่า "กะปี่" หรือมูเซอบ้านเก่า เปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านอุมยอมตามการแต่งตั้งของทางราชการเมื่อปี พ.ศ. 2502 ประชากรโดยมากอพยพมาจากดอยช้าง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีนายยะป่า เป็นผู้นำการอพยพ ซึ่งอ้างกันว่าหมู่บ้านเดิมเกิดโรคระบาดและไม่มีที่ดินทำกิน (หน้า 8-9) |
|
Settlement Pattern |
ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ามีลักษณะรูปแบบการตั้งถิ่นฐานและลักษณะการตั้งบ้านเรือนอย่างไร เพียงแต่กล่าวในภาพรวมว่า สภาพหมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ราบไหล่เขา (หน้า 8) และระบุว่าธิเบตคือถิ่นฐานดั้งเดิมของมูเซอ และอพยพเคลื่อนย้ายลงมาทางใต้ของจีนจนถึงมณฑลยูนนานพร้อมกับชาวเขาเชื้อชาติโลโลเผ่าอื่น คาดว่าการอพยพของมูเซอยังคงดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบันและได้อพยพจากตะวันออกของรัฐฉานของพม่าเข้าสู่ทางตอนเหนือของประเทศไทยในราวสงครามโลกครั้งที่ 2 การเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยประมาณว่าเริ่มขึ้นราว พ.ศ. 2418 (หน้า 11) |
|
Demography |
หมู่บ้านอุมยอม ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก มีจำนวน 42 หลังคาเรือน จำนวน 53 ครอบครัว มีประชากรรวม 204 คน แบ่งเป็นเพศชาย 103 คน เพศหญิง 101 คน (หน้า 9) ในประเทศไทยมีมูเซออยู่หนาแน่นบริเวณต้นเขาต้นน้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน บางส่วนอาศัยอยู่ในจังหวัดตาก มูเซอที่สำรวจพบในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทยในปี พ.ศ.2523 มีจำนวนประชากรรวมประมาณ 35,509 คน โดยอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 15,396 คน จังหวัดเชียงราย 15,748 คน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2,808 คน จังหวัดกำแพงเพชร 266 คนและจังหวัดตาก 1,291 คน จำนวนมูเซอเฌเลเท่าที่สำรวจในประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 26 หมู่บ้าน ประชากรรวม 4,335 คน อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 9 หมู่บ้าน จำนวน 1,673 คน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 6 หมู่บ้าน จำนวน 769 คน จังหวัดเชียงราย 4 หมู่บ้าน จำนวน 1,047 คน จังหวัดตาก 6 หมู่บ้าน จำนวน 780 คนและจังหวัดกำแพงเพชร 1 หมู่บ้าน 66 คน(หน้า 12-13) |
|
Political Organization |
มีการจัดตั้งผู้นำหมู่บ้านซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับสูงสุดสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดทางศาสนา "ปู่จาร" โดยทางประเพณี สังคมมูเซอเฌเลมักยกย่องบุคคล 3 คนคือ "คะแชผ่า" (หัวหน้าหมู่บ้าน) "ปู่จาร" (ผู้นำทางศาสนา) และแปตูป่า (ผู้จุดเทียนบูชาเทพเจ้ากือซา) ซึ่งผู้นำหมู่บ้านจะทำหน้าที่ทั้ง 3 อย่างพร้อมกันได้ (หน้า 9, 28 -29) |
|
Belief System |
โดยมากยังนับถือผี เทพเจ้าสูงสุดคือเทพเจ้ากือซา สังเกตได้จากการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ |
|
Education and Socialization |
การนำระบบการศึกษาไปสู่สังคมมูเซอกับสภาพปัญหาทางการศึกษาที่เกิดขึ้นและวิธีการค้นหาสาเหตุรวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการศึกษาของหมู่บ้านอุมยอม หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก |
|
Health and Medicine |
มีการประกอบพิธี "ซึต่าหนี่ตีเลอ" เพื่อรักษาอาการเจ็บปวดกระดูกตามข้อและหลัง อันเนื่องมาจากถูกผีต้นไม้ลงโทษเพราะ ไปตัดฟันถูกต้นไม้ใหญ่ที่มีภูตผีอาศัยอยู่ พิธีนี้ได้ตั้งเครื่องบูชาหน้าต้นไม้นั้น โดยมีกระดาษ เทียน ขี้ผึ้ง ข้าวสารและไข่ไก่ เป็นเครื่องเซ่นและกล่าวคำบูชา (หน้า 26) มีการประกอบพิธีเลี้ยงผีบ้าน "กื่อซา กูเลอ" เพื่อใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยตาม จารีตประเพณีของมูเซอ (หน้า 32) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
มูเซอเฌเลแบ่งตัวเองออกเป็น 3 กลุ่มย่อยและเรียกชื่อต่างกันไปคือ มูเซอหมะลอ มูเซอพะคอและมูเซอนะมื่อ ทั้ง 3 กลุ่มนี้มีลักษณะการแต่งกายแบบอย่างเดียวกันคือทั้งหญิงและชายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดดำ จึงอาจเป็นเหตุให้คนไทยเรียกชนเผ่านี้ว่ามูเซอดำก็ได้ ที่เห็นได้ชัดคือ ชุดประจำเผ่าของผู้หญิงจะมีแถบผ้าสีขาวกว้างประมาณ 1 นิ้วที่สาบ ขอบแขนและชายเสื้อทั้งตัว (หน้า 12) |
|
Folklore |
ความเชื่อในเรื่องการเรียนรู้หนังสือ ตามตำนานเล่ากันว่า กาลครั้งหนึ่งเทวราชกือซาเรียกบรรพบุรุษของเผ่าชนทั้งหลายขึ้นไปเฝ้า เพื่อจะให้ศีลให้พรเกี่ยวกับตัวอักษรและวิทยาการ โดยเขียนลงบนกระดาษสาแต่บรรพบุรุษของมูเซอขึ้นไปเฝ้าเป็นคนสุดท้าย กระดาษที่เขียนนั้นหมดลงพอดี พระองค์จึงคว้าเอาข้าวปุก (ข้าวเหนียวตำใส่งา) แล้วเขียนตัวอักษรและศิลปวิทยาการลงบนข้าวปุก แล้วมอบให้มูเซอ ในระหว่างทางที่มูเซอเดินกลับมายังหมู่บ้าน เขาเกิดความหิวและเผลอหยิบข้าวปุกนั้นขึ้นมากินจนหมด จึงเป็นเหตุให้มูเซอมักจะกล่าวอ้างว่า ตัวอักษรและวิทยาการทั้งหลายนั้นไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ก็อยู่ได้ เพราะความรู้ต่างๆนั้นมีอยู่ในท้องแล้ว (หน้า 13) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
หน่วยงานทางราชการเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชุมชน อาทิ ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา การจัดระบบการปกครองโดยมีการจัดตั้งผู้ใหญ่บ้าน และการจัดตั้งสถานศึกษา เป็นผลทำให้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมบางประการต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้เข้ากับบริบททางสังคมที่ผันแปร |
|
Map/Illustration |
แผนที่หมู่บ้านที่ทำการวิจัย(5) แผนผังหมู่บ้านอุมยอม(6) ภาพที่ 1 ที่ทำการศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดตาก(42) ภาพที่ 2 สภาพหมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอเฌเล หมู่บ้านอุมยอม ตำบลแม่ท้อ อำเภอ เมือง จังหวัดตาก(42) ภาพที่ 3 อาคารโรงเรียนหลังเก่าที่ชำรุดจนหมดสภาพ(43) ภาพที่ 4 การประชุมกลุ่มผู้นำชุมชนเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการศึกษา(43) ภาพที่ 5 การร่วมมือของชาวมูเซอเฌเลในการปลูกสร้างอาคารโรงเรียนหลังใหม่(44) ภาพที่ 6 หัวหน้าศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดตาก ครูใหญ่โรงเรียนบ้านมูเซอและเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายรวมทั้งผู้นำมูเซอร่วมกันกระทำพิธีเปิดอาคารโรงเรียนหลังใหม่(44) |
|
Text Analyst |
สุวิทย์ เลิศวิมลศักดิ์ |
Date of Report |
08 ต.ค. 2555 |
TAG |
ลาหู่, มูเซอ, การศึกษา, ตาก, |
Translator |
- |
|