|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง),กิจกรรม,ศูนย์การศึกษา,ชุมชน,การมีส่วนร่วม,ลำพูน |
Author |
คำรน ศรีคำไทย |
Title |
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของชาวกะเหรี่ยงในกิจกรรมของศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา จังหวัดลำพูน |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ปกาเกอะญอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
จีน-ทิเบต(Sino-Tibetan) |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
84 |
Year |
2534 |
Source |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (การศึกษาผู้ใหญ่) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
Abstract |
ตามข้อสมมติฐาน เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของกะเหรี่ยงในกิจกรรมของศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา ปรากฎว่า 1. กะเหรี่ยงเพศชายจะมีระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมมากกว่าเพศหญิงในระดับสูงมาก 2. กะเหรี่ยงที่มีอายุมากจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมไม่ต่างไปจากกะเหรี่ยงที่มีอายุน้อย 3. กะเหรี่ยงที่มีบ้านอยู่ไม่ไกลจาก ศูนย์ฯ มากนัก จะมีส่วนร่วมในกิจกรรม มากกว่ากะเหรี่ยงที่มีบ้านอยู่ไกลจากศูนย์ ในระดับที่ค่อนข้างสูง 4. กะเหรี่ยงที่มีความรู้ความเข้าใจในงานของศูนย์ฯ จะมีส่วนร่วมในกิจกรรม มากกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในงานของศูนย์ ในระดับสูงมาก 5. กะเหรี่ยงที่มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์มาก จะมีส่วนร่วมในกิจกรรม มากกว่ากะเหรี่ยงที่มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์น้อย (หน้า 47-55) กล่าวโดยสรุปได้ว่า กะเหรี่ยงที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา ได้แก่ กะเหรี่ยงเพศชาย, กะเหรี่ยงที่มีบ้านอยู่ใกล้กับศูนย์การศึกษาฯ และกะเหรี่ยงที่มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมของศูนย์การศึกษา (หน้า 60-61) |
|
Focus |
ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของกะเหรี่ยงในศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา จังหวัดลำพูน |
|
Ethnic Group in the Focus |
ในภาษาอังกฤษเรียกชื่อชนเผ่านี้ว่า "คาเรน" (Karen) ในภาษาไทยเรียกว่า "กะเหรี่ยง" คำเมืองทางภาคเหนือเรียกว่า "ยาง" แต่ชาวเขาเผ่านี้เรียกตัวเองว่า "ปกา-เกอะ-ญอ" ในหนังสือเล่มนี้ใช้คำเรียกชนกลุ่มนี้ว่า "กะเหรี่ยง" (หน้า 81) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
25 มกราคม 2534 - 15 มีนาคม 2534 (หน้า 33) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
กะเหรี่ยงอาศัยอยู่กระจัดกระจายตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่อยมาจนถึงชายแดนไทยทางด้านตะวันตก ถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หน้า 81) ลักษณะโดยทั่วไปของหมู่บ้านกะเหรี่ยงมักตั้งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอื่น มีการอยู่อาศัยกันเป็นกลุ่มหมู่บ้าน เมื่อหมู่บ้านขยายใหญ่ขึ้น ก็มีการโยกย้ายไปตั้งหมู่บ้านใหม่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านเดิม (หน้า 82) บ้านของกะเหรี่ยงโดยทั่วไปจะใช้ไม้ไผ่มาทำเป็นฝาบ้านและพื้นบ้าน ส่วนหลังคามุงด้วยแฝกหรือใบตองตึง ใช้เสาไม้จริงเป็นส่วนค้ำยัน บ้านจะยกพื้นสูง บ้านมีห้องโล่งเพียงห้องเดียว มีเตาไฟบนกระบะดินที่จะติดไฟไว้เกือบตลอดเวลา มีชั้นไม้ไผ่แขวนไว้เหนือเตาไฟ เพื่อไว้ใช้ตากอาหารแห้ง นอกห้องจะมีระเบียงที่มีหลังคายื่นมาบังแดดไว้บางส่วน (หน้า 83) |
|
Demography |
จังหวัดลำพูนมีชาวเขาอาศัยอยู่ในจังหวัดรวมกัน 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอลี้, อำเภอแม่ทา, อำเภอบ้านโฮ่ง และกิ่งอำเภอทุ่งหัวช้าง มีจำนวนชาวเขารวมทั้งสิ้น 62 หมู่บ้าน ประชากร 21,883 คน เป็นกะเหรี่ยงทั้งหมด แต่จำนวนประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 813 คน มาจากประชากรในหมู่บ้านห้วยฮ่อมนอก 226 คน, ห้วยฮ่อมใน 198 คน, ขุนก๋อง 189 คน, หลวงใหม่ 91 คน และห้วยเหี้ยะ 109 คน (หน้า 31) |
|
Economy |
กะเหรี่ยงเพาะปลูกด้วยการทำไร่นาหมุนเวียน โดยจะปล่อยที่นาที่เคยทำ เพื่อให้ที่ดินพักตัว 6-12 แล้วจึงย้อนกลับมาปลูกในที่ดินเดิมนี้อีก (หน้า 82) โดยแต่ละบ้านจะทำมาหากินโดยอิสระ แต่ละครอบครัวมีสิทธิ์ครอบครองที่ดินทำกินของตนเอง (หน้า 83) |
|
Social Organization |
กะเหรี่ยงให้ความสำคัญกับผู้ที่มีตำแหน่ง และผู้ที่มีวัยวุฒิมากทีเดียว ซึ่งผู้นำของกะเหรี่ยงก็คือ หมอผีประจำหมู่บ้าน การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เป็นหน้าที่ของหมอผีที่จะตัดสินใจ หรือไม่ก็โดยการที่หมอผีได้รับมติเห็นชอบจากผู้อาวุโสของหมู่บ้าน (หน้า 82) ในสังคมของกะเหรี่ยงแบบดั้งเดิมนั้น เพศหญิงจะต้องอยู่กับบ้าน เพศชายเป็นผู้ออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว (หน้า 55) ครอบครัวกะเหรี่ยงมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว นิยมมีผัวเดียวเมียเดียว และพ่อหม้ายจะไม่แต่งงานใหม่ (หรือถ้าแต่งงานใหม่ อย่างน้อยก็ต้องให้ลูกๆ โตจนช่วยตัวเองได้เสียก่อนจึงมีใหม่) (หน้า 83) |
|
Political Organization |
ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า กะเหรี่ยงเพศชายจะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากกว่ากะเหรี่ยงเพศหญิง (หน้า 55) |
|
Belief System |
กะเหรี่ยงยังคงมีความเชื่อเรื่องผีต่างๆ ซึ่งมีผีที่สำคัญของกะเหรี่ยงคือ "ผีเจ้าที่" ซึ่งจะคอยคุ้มครองดูแลดิน, น้ำ, ต้นไม้ และ ไร่นา ผีอื่นๆ ที่กะเหรี่ยงนับถือก็มี "ผีวิญญาณบรรพบุรุษ" หรือ "พระภูมิบ้าน" ซึ่งจะคุ้มครองดูแลสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ก็จะมีผีที่สิงอยู่ตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ ที่อยู่รอบหมู่บ้านและท้องทุ่ง โดยต้องเซ่นไหว้ผีทุกชนิดด้วย โดยจะเซ่น ไหว้ผีที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการเกษตรเป็นพิเศษกว่าผีชนิดอื่นๆ การเซ่นไหว้ดังกล่าวนี้จะมีระยะเวลาตามวงจรและ กิจกรรมของการเพาะปลูก เช่น ตอนไถนา ตอนเกี่ยวข้าว ฯลฯ และนอกจากการนับถือผีตามความเชื่อดั้งเดิมแล้ว ก็ยังมีกะเหรี่ยงที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์เพิ่มขึ้นด้วย (หน้า 83) |
|
Education and Socialization |
การศึกษาในหนังสือเล่มนี้เป็นการศึกษาที่มีขึ้นภายใต้โครงการ ศูนย์ศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา (ศศช.) ซึ่งจาผลการศึกษากลุ่มตัวอย่างพบว่า มีกะเหรี่ยงเพียงร้อยละ 20 ที่เคยไปเรียนหนังสือที่ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนหมู่บ้าน (หน้า 46) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
การแต่งกายของผู้หญิงกะเหรี่ยง ตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว จะสวมชุดผ้าฝ้ายขาวทรงกระบอก บางทีก็มีลวดลายทอตกแต่งอย่างสวยงาม แม้ว่าในปัจจุบันสาวกะเหรี่ยงจะนิยมไว้ผมสั้นกันมากขึ้นก็ตาม แต่ตามประเพณีดั้งเดิมแล้ว สาวกะเหรี่ยงและเด็กหญิงกะเหรี่ยงจะไว้ผมยาวแล้วม้วนเป็นมวยและโพกผ้าคลุมไว้ ส่วนผู้หญิงที่แต่งงาน แล้วจะนุ่งผ้าซิ่นทอมือ สวมเสื้อสีประดับประดาด้วยลูกปัด ลูกเดือย หรือฝ้ายสี โดยจะมีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอลูกปัดหลากหลายสี หลายๆ สาย ใส่ตุ้มหูเงินและกำไลแบบต่างๆ หลายๆ วง ส่วนการแต่งกายของผู้ชายกะเหรี่ยงจะนุ่งโสร่งหรือไม่ก็นุ่งกางเกงทรงเตี่ยวสะดอ สวมเสื้อทอมือ เป็นเสื้อไม่มีแขนคอเปิดธรรมดา ตัวเสื้อยาวคลุมเอว ส่วนเด็กชายจะแต่งตัวแบบเดียวกับที่ผู้ชายแต่ง แต่เด็กชายที่อายุยังน้อยๆ ก็อาจจะไม่นุ่งกางเกง ผู้ชายจะสะพายย่ามทอด้วยมือทุกคน (หน้า 84) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
เนื่องจากกะเหรี่ยงตั้งบ้านเรือนอยู่ในระดับต่ำและอยู่ไม่ไกลจากชุมชนพื้นราบมากนัก ทำให้กะเหรี่ยงรับวัฒนธรรมบางอย่างจากชาวไทยพื้นราบ เช่น วิธีทำการเพาะปลูก รูปทรงของบ้าน เครื่องแต่งกาย (กะเหรี่ยงผู้ชาย) ฯลฯ (หน้า 82) |
|
|