สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject อัตลักษณ์, คนไทยเชื้อสายมลายู, ชาติพันธุ์
Author ซูไวบะห์ โต๊ะตาหยง
Title อัตลักษณ์และการรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูที่ย้ายถิ่นมาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4
Document Type วิทยานิพนธ์ Original Language of Text ภาษาไทย
Ethnic Identity มลายู ออแฆนายู มลายูมุสลิม ไทยมุสลิม, Language and Linguistic Affiliations -
Location of
Documents
NIDA Library – สำนักบรรณสารการพัฒนา Bib Number 000207829 : [เอกสารฉบับเต็ม] Total Pages 196 Year 2561
Source ซูไวบะห์ โต๊ะตาหยง. (2561). อัตลักษณ์ และการรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายู ที่ย้ายถิ่นมาตั้ง ถิ่นฐานในกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์
Abstract

งานวิจัยเรื่อง อัตลักษณ์และการรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูที่ย้ายถิ่นมาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 ใช้วิธีการวิจัยแบบเชิงคุณภาพ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและใช้การสังเกตการแบบมีส่วนร่วม มีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลักทั้งสิ้น 15 ราย ทำให้พบว่าสิ่งบ่งชี้ความเป็นคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 คือ ภาษา การแต่งกาย การนับถือศาสนาอิสลาม ประเพณีและค่านิยม ส่วนทางด้านลักษณะนิสัยเด่นของคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 คือ มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักสงบ เรียบง่าย มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงใจ ยึดหลักคุณธรรม ด้านอัตลักษณ์สำคัญของคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 คือ อัตลักษณ์ทางภาษา อัตลักษณ์ด้านการแต่งกาย อัตลักษณ์ด้านอาหาร ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกปรับเปลี่ยนในบางเรื่องเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทสังคมในปัจจุบัน ส่วนอัตลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดคือ อัตลักษณ์ด้านยารักษาโรคที่ได้หันมารักษากับแพทย์แผนปัจจุบันทั้งหมดส่วนความเชื่อประเพณีแบบอิสลามพื้นบ้านคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 มีการปรับตัวบางส่วนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน (น.5)

Focus

งานวิจัยเรื่อง อัตลักษณ์และการรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูที่ย้ายถิ่นมาตั้งถิ่นฐานในกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยทั้งหมดสองประการคือ ประการแรกเพื่อศึกษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูที่อพยพมาอยู่กรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษาชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 ประการที่สองเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงการปรับตัวและการรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูที่อพยพมาอยูกรุงเทพมหานคร : กรณีศึกษา ชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 (น.(3))

Theoretical Issues

ข้อเสนอแนะสำหรับการธำรงรักษาอัตลักษณ์ของคนไทยมุสลิมคือ ควรมีการเน้นให้หน่วยงาน เกิดการร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนภาครัฐและผู้คนในชุมชนในการทำความเข้าใจถึงความสำคัญของอัตลักษณ์มลายู โดยเฉพาะอัตลักษณ์ด้านภาษา ที่ควรมีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ภาษามลายูอย่างเป็นทางการและอัตลักษณ์ทางด้านอาหารก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น เพื่อไม่ให้สูญหายไป (น.176)

Ethnic Group in the Focus

ในงานเรียกกลุ่มชาติพันธุ์นี้ว่ากลุ่มชาติพันธุ์ไทยมุสลิมที่มีเชื้อสายมาจากทางมลายู

Language and Linguistic Affiliations

ภาษาที่ใช้สื่อสารกันภายในกลุ่มของชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 หากเป็นการสื่อสารกันภายในกลุ่มจะใช้ภาษามลายู (น.138)

Study Period (Data Collection)

ผู้วิจัยได้ใช้ระยะเวลาทำการศึกษาวิจัยทั้งหมด 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 ถึงเดือนตุลาคม 2560 ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-participant Observation) ทั้งหมด 12 เดือน (น.4)

History of the Group and Community

ชุมชนเสรีไทยซอย 4 เดิมมีชื่อว่า “ซอยเจิมอุทิศ” เป็นชุมชนของคนไทยพุทธ ต่อมาได้มีชาวมุสลิมจากชุมชนหัวหมากน้อยเข้ามาทำนาและเริ่มมีการขยับขยายพื้นที่จากการซื้อที่ดินทำให้มีการขยายเพิ่มยิ่งขึ้น อีกทั้งในระยะหลังได้มีคนไทยเชื้อสายมลายูจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น จึงสามารถแบ่งคนไทยเชื้อสายมลายูที่อาศัยอยู่ในชุมชนเสรีไทยซอย 4 ออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ คนไทยเชื้อสายมลายูที่อาศัยอยู่ในชุมชนเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527-2549 คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ย้ายมากรุงเทพมหานครเพื่อหาโอกาสในการประกอบอาชีพและเลือกชุมชนเสรีไทยซอย 4 เพราะเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตสอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบมุสลิม กลุ่มที่สองคือ คนไทยเชื้อสายมลายูที่อาศัยอยู่ในชุมชนเป็นระยะเวลาตํ่ากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2559 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษาที่มาศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย เมื่อจบการศึกษาจึงหางานทำที่กรุงเทพมหานครและยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนเสรีไทยซอย 4 เช่นเดิม (น.100-101)

Settlement Pattern

ชุมชนคนไทยมุสลิมมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการมีมัสยิดเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจ มีโรงเรียนสอนฟัรดูอีน (โรงเรียนสอนความรู้ศาสนาขั้นพื้นฐานแก่เยาวชน) มีโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมศึกษาที่มีหลักสูตรบูรณาการความรู้ทางศาสนาสามัญ รวมทั้งมีร้านอาหารมุสลิม (น.102)

Demography

ในอดีตชุมชนเสรีไทยซอย 4 และเสรีไทยซอย 21 เคยเป็นพื้นที่ชุมชนเดียวกันทำให้ไม่สามารถแยกจำนวนประชากรออกมาได้อย่างชัดเจน โดยสำหรับจำนวนประชากรในชุมชนทั้งหมดปัจจุบัน (2561) มีประชากรประมาณ 1,800 คน คิดเป็นคนไทยเชื้อสายมลายูร้อยละ 40 เป็นผู้สูงอายุประมาณ 200 คน เป็นเยาวชนประมาณ 200 คน และอยู่ในวัยทำงานประมาณ 1,100 คน จำนวนทั้งหมดยังไม่รวมประชากรแฝงที่ไม่สามารถระบุจำนวนได้ (น.103)

Economy

ผู้คนภายในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว คนที่อยู่มานานจะประกอบอาชีพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนคนที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยใหม่ในชุมชนมักจะประกอบธุรกิจค้าขายสินค้ามือสองที่จตุจักร และมีบางส่วนเป็นผู้ประกอบการกิจการร้านอาหารขนาดเล็ก (น.104)

Social Organization

ชุมชนมีการจัดระเบียบสังคมโดยมีคณะกรรมการดูแลชุมชนประกอบไปด้วย ประธานและกรรมการชุมชนเป็นผู้ดูแล ด้านศาสนามีผู้นำทางศาสนาที่เรียกว่าอิหม่ามเป็นผู้นำสูงสุด พร้อมกรรมการทางด้านมัสยิดที่จะประสานการทำงานระหว่างกันและกัน ทั้งนี้ชุมชนยังมีการรวมกลุ่มกันทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ กลุ่มทางการเป็นพวกกองทุนต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของทางภาครัฐ ส่วนแบบไม่เป็นทางการมักเป็นกลุ่มทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น กลุ่มฮาลาเกาะฮ์ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อเรียนรู้ศาสนาผ่านการสนทนา (น.102) ด้านระบบเครือญาติในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นแบบครอบครัวเดี่ยวคือประกอบไปด้วย พ่อ แม่ลูก อย่างไรก็ตาม คนในชุมชนส่วนใหญ่จะมีความสัมพันธ์ในลักษณะเป็นพี่น้องกันสูง มีการพึ่งพาซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นมุสลิมกรุงเทพ หรือคนไทยเชื้อสายมลายูที่ย้ายถิ่นมาอาศัยในชุมชน เนื่องจากตามหลักทางศาสนาของชาวมุสลิมถือว่า คนมุสลิมไม่ว่าอยู่ที่ใดบนโลก ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นพี่น้องร่วมกันทั้งสิ้น (น.138)
 

Belief System

ประชากรส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 ในชุมชนนับถือศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่จะเป็นมุสลิมเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจและยังสามารถที่จะรักษาวิถีชีวิตแบบมุสลิมไว้ได้เช่นเดิมที่เหลือก็นับถือศาสนาอื่นๆตามที่ศรัทธา (น.104) 
 

Education and Socialization

การอบรมสั่งสอนให้เด็กรุ่นใหม่รู้ระเบียบทางสังคมภายในชุมชนสามารถแบ่งออกได้เป็นวิธีการหลักๆดังนี้ หนึ่ง ใช้วิธีการแนะนําพูดคุย ไม่มีการบังคับ เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งมีการสอดแทรกหลักคำสอนทางศาสนาเข้าไป เป็นการสอนเพื่อให้เด็กรักและยำเกรงต่อพระอัลลอฮ์เจ้า สอง ใช้วิธีการสอนในโรงเรียนสอนศาสนาให้ความสำคัญกับการแต่งกายแบบมุสลิมเป็นอย่างมากพร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมการแต่งตัวตามหลักอิสลาม แต่ในบางโอกาสจะมีความยืดหยุ่นตามวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่มแต่ละยุคสมัย (น.153-154)

Health and Medicine

คนในชุมชนนิยมการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล มีเพียงส่วนน้อยที่รักษาพยาบาลแบบผสมผสานกันระหว่างการรักษาแผนปัจจุบันกับการรักษาแผนดั้งเดิม เนื่องจากคนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีและเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยแรงงาน ทำให้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้พร้อมมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างถูกต้อง (น.155)
 

Art and Crafts (including Clothing Costume)

คนในชุมชนส่วนใหญ่นิยมแต่งตัวตามหลักทางศาสนาอิสลาม แต่จะมีการแต่งกายแบบมลายูเพียงบางโอกาสอย่างในช่วงเทศกาลสำคัญ (น.155)

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

อัตลักษณ์ชาติพันธุ์ของกลุ่มคนไทยเชื้อสายมลายูหรือคนไทยมุสลิม ได้ค้นพบเงื่อนไขบริบทภายนอกที่มีอิทธิพลทำให้“มลายูปาตานี” กลายเป็น “มุสลิม” คือ หนึ่ง วาทกรรมแห่งอัตลักษณ์ความเป็นไทยและนโยบายการผสมกลืนกลายทางวัฒนธรรม ที่เริ่มต้นขึ้นยุคสมัยจอมพล ป. แปลก พิบูลสงคราม เป็นการพยายามควบรวมให้ทุกคนในสยามกลายเป็นไทย สอง การที่ประเทศข้างเคียงอย่างมาเลเซีย ได้มีการนิยามอัตลักษณ์ของคนมลายูว่า คือ “คนที่นับถือศาสนาอิสลาม” สาม กระแสของการฟื้นฟูอิสลาม(Islamic Revial) ในระดับสากลและกระแสอิสลามานุวัตร (Islamization Current) ที่เป็นการผสมผสานหลักการแนวคิดสมัยเก่าเข้ากับวิทยาการข้อเท็จจริงในยุคสมัยใหม่ในเรื่องต่าง ๆ ส่วนอัตลักษณ์ทั่วไปของคนไทยเชื้อสายมลายูในประเทศไทยที่สำคัญมีอยู่สามอัตลักษณ์ คือ อัตลักษณ์ด้านภาษา อัตลักษณ์ด้านเครื่องแต่งกายและอัตลักษณ์ด้านอาหาร (น.105)
 

Social Cultural and Identity Change

การเปลี่ยนแปลงทางสังคมสามารถแยกออกมาได้สองรูปแบบคือ การเปลี่ยนแปลงแรก การเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทย ซอย 4 สามารถเห็นได้สองด้านคือ กฎระเบียบในชุมชนและความสัมพันธ์ของคนในชุมชน คนในชุมชนส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากสภาพบริบทของชุมชนที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตในรูปแบบเดิมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและเนื่องจากส่วนใหญ่จะส่งลูกหลานไปเรียนที่ต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องของอิสลาม ทำให้เมื่อลูกหลานกลับมาในชุมชนก็จะมีการช่วยเหลือและพัฒนาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชนดั่งเดิม
 
การเปลี่ยนแปลงที่สอง การเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ทางภาษาและวัฒนธรรมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเห็นได้หลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น อัตลักษณ์ด้านภาษา อัตลักษณ์ด้านการแต่งกาย อัตลักษณ์ด้านอาหาร อัตลักษณ์ด้านยารักษาโรค อัตลักษณ์ด้านประเพณีตลอดจนอัตลักษณ์ด้านความเชื่อค่านิยมการนับถือศาสนาอิสลาม ในเรื่องของภาษา การแต่งกายและการรับประทานอาหาร คนในชุมชนมองว่ามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแค่บางส่วน แต่ในเรื่องของยารักษาโรค ประเพณีตลอดจนอัตลักษณ์ด้านความเชื่อ ค่านิยมและการนับถือศาสนาอิสลาม คนในชุมชนส่วนใหญ่มองว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้งหมด 
อย่างในด้านการรักษาโรคคนในชุมชนก็จะใช้การรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลัก ส่วนด้านความเชื่อค่านิยมและการนับถือศาสนาอิสลามในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลายอย่างคนในชุมชนไม่ได้มีการปฏิบัติแบบเดิมเหมือนตอนอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นประเพณีการกวนอาซูรอหรือประเพณีการเฝ้าหลุม ศพ 7 วัน เมื่อมีผู้เสียชีวิต ฯลฯ ประกอบกับเพราะลูกหลานได้ไปศึกษาด้านศาสนาอิสลามในระดับสูงจำนวนมากขึ้นจากประเทศตะวันออกกลางทำให้เชื่อว่าการปฏิบัติเหล่านั้นไม่ได้มีที่มาจากคําสอนศาสนาอิสลาม (น.157-158)
 
สำหรับการปรับตัวของคนไทยเชื้อสายมลายูในชุมชนมุสลิมเสรีไทยซอย 4 ส่วนใหญ่จะเป็นการปรับตัวตามหลัก “เข้าเมืองตาหลิ่วให้ หลิ่วตา” เพราะต้องมีการปรับตัวให้อยู่รอดกับสังคมเมืองให้ได้ 
ต้องรู้จักการพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ต้องขยันอดทน จากที่ทำอะไรไม่เป็นก็ต้องฝึกทำให้เป็นทุกอย่าง 
เพื่อสามารถอยู่รอดในเมืองใหญ่ได้ (น.160)

Map/Illustration

- ภาพที่ 2.1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม (น.9)
- ภาพที่ 2.2 แสดงระดับของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรม (น.11)
- ภาพที่ 2.3 โครงสร้างของอิสลาม (น.22)
- ภาพที่ 2.4 แสดงองค์ประกอบของศาสนาอิสลาม (น.25)
- ภาพที่ 2.5 ขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (น.46)
- ภาพที่ 2.6 กระบวนการปรับตัวของผู้ย้ายถิ่น (น.66)
- ภาพที่ 3.1 แนวคิดนําในการศึกษา (น.93)
- ภาพที่ 4.1 แผนที่ชุมชนมุสลิมเสรีไทย ซอย 4 (น.103)
- ภาพที่ 4.2 แสดงความแตกต่างของประวัติศาสตร์ฝรั่งและประวัติศาสตร์มุสลิม (น.108)
- ภาพที่ 4.3 ไก่กอและ (น.119)
- ภาพที่ 4.4 นาซิกาบู (น.120)
- ภาพที่ 4.5 ข้าวหมกไก่ (น.120)
- ภาพที่ 4.6 นาซิดาแก (น.121)
- ภาพที่ 4.7 ซามาลาดอ (น.122)
- ภาพที่ 4.8 น้ำบูดู (น.122)
- ภาพที่ 4.9 มะตะบะ (น.123)
- ภาพที่ 4.10 ตูปะซูตง (น.123)
- ภาพที่ 4.11 กือโป๊ะ (น.124)
- ภาพที่ 4.12 ปูโละกายอ (น.124)
- ภาพที่ 4.13 อาเก๊าะ (น.125)
- ภาพที่ 4.14 ตัวอย่างกีตาบยาวีที่สอนในสถาบันปอเนาะในภาคกลาง (น.135)
- ภาพที่ 4.15 แสดงตัวบ่งชี้ความเป็นมุสลิมมลายูบางกอก (น.137)
- ภาพที่ 4.16 สรุปอัตลักษณ์มุสลิมมลายูบางกอก (น.146)

Text Analyst คณินเดช สายทอง Date of Report 05 ม.ค. 2566
TAG อัตลักษณ์, คนไทยเชื้อสายมลายู, ชาติพันธุ์, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง