|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ไทยอง, วัฒนธรรม, พื้นบ้านล้านนา, ดนตรีชาติพันธุ์วิทยา, เชียงราย |
Author |
องอาจ อินทนิเวศ |
Title |
ดนตรีในวัฒนธรรมไทยอง จังหวัดเชียงราย |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
ยอง คนยอง ชาวยอง ไทยอง ขงเมืองยอง จาวยอง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ไท(Tai) |
Location of
Documents |
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
26 |
Year |
2563 |
Source |
วารสารฟ้าเหนือ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. ปีที่ 11 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน) 2563 หน้า 5-30 |
Abstract |
การศึกษาดนตรีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยองในจังหวัดเชียงราย พบว่า ดนตรีของชาวไทยองเป็นสื่อกลางในการเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้คน วงดนตรีของชาวไทยองแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ วงกลองหลวงและวงกลองสิ้งหม้อง มักใช้ประกอบในประเพณีทางพระพุทธศาสนาและมีการแข่งขันกันในระดับชุมชน นอกจากนี้ยังมีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้กับดนตรี ทำให้ดนตรีของชาวไทยองมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการสร้างความสามัคคีของแต่ละชุมชน |
|
Focus |
ศึกษาดนตรีในวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยองจังหวัดเชียงราย ทั้งเรื่องของวงดนตรีและเครื่องดนตรีของชาวไทยองในจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงลักษณะทางกายภาพและระบบเสียงของเครื่องดนตรี |
|
Theoretical Issues |
ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ มีการกำหนดพื้นที่การศึกษา นั่นคือ ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในด้านการเก็บข้อมูล ผู้วิจัยมีการเก็บข้อมูลทั้งจากเอกสารและการเก็บข้อมูลภาคสนาม โดยมีการสัมภาษณ์คนในพื้นที่ สุดท้ายจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และตรวจสอบเพื่อนำเสนอต่อไป (น.11) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ไทยอง หรือ ไตยอง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลไท อพยพมาจากรัฐฉานและมาอาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย โดยอาศัยอยู่ที่ลำพูนเป็นหลัก ชาวไทยองมีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวไทลื้อ เนื่องจากมีรากฐานวัฒนธรรมมาจากถิ่นเดียวกัน (น.9) |
|
Language and Linguistic Affiliations |
กลุ่มชาติพันธุ์ไทยอง ใช้ภาษาหลักของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย รวมกับกลุ่มภาษาตระกูลไตชนิดอื่น ๆ เช่น ไทใหญ่ ไทลื้อ ไท ดำ ไทเขิน เป็นต้น ในการสื่อสารกัน (น.9) |
|
Economy |
บ้านสันทางหลวง เป็นจุดท่องเที่ยวเพื่อศึกษาวัฒนธรรมไทยองในจังหวัดเชียงราย เช่น วัฒนธรรมภูมิปัญญา อาหาร การแต่งกาย ศิลปหัตถกรรม เป็นต้น (น.9) |
|
Social Organization |
ชาวไทยองจะรวมกลุ่มกันจัดงานประเพณีทางศาสนาทุกปี โดยในช่วงต้นเดือนเมษายนหรือก่อนวันสงกรานต์ จะมีการประกวดตีกลองหลวงเพื่อวัดคุณภาพความดังของเสียง โดยแต่ละชุมชนจะนำกลองหลวงมาเข้าร่วมประกวดกันอย่างสนุกสนาน (น.12-13) |
|
Belief System |
กลองหลวงของชาวไทยอง ถือเป็นความเชื่อและความศรัทธาของชุมชน และถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่ชุมชน เห็นได้จากการตั้งชื่อกลองและการเก็บดูแลรักษากลองหลวง (น.28) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ดนตรีของชาวไทยอง มีวงดนตรี 2ประเภทได้แก่ วงกลองหลวงและวงกลองสิ้งหม้อง
วงกลองหลวง จะประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องหนังและเครื่องเคาะ บรรเลงจังหวะการฟ้อนและจังหวะแห่ทั่วไป เครื่องดนตรีในวงกลองหลวง ได้แก่ กลองหลวง กลองตะหลดปด ฉาบ ฆ้อง โดยมีกลองหลวงเป็นสัญลักษณ์ของวง นอกจากนี้ยังวงกลองหลวงยังใช้บรรเลงขณะที่แห่ข้าวของเครื่องใช้เข้าไปทำบุญในวัดอีกด้วย ส่วนด้านรูปแบบในการจัดวางเครื่องดนตรีนั้น ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือ กลองหลวงจะต้องอยู่ตรงกลาง เพื่อให้ผู้ชมมองเห็นได้
วงกลองสิ้งหม้อง เป็นวงดนตรีที่กลุ่มคนไทในภาคเหนือก็นิยมนำมาใช้บรรเลง รวมไปถึงกลุ่มคนไทยองด้วย คำว่า “สิ้งหม้อง” เรียกตามเสียงที่เกิดจาการตีกลอง เครื่องดนตรีในวง ได้แก่ กลองสิ้งหม้อง กลองตัด ฉาบ ฆ้อง ใช้ประกอบการฟ้อนรำ การจัดวงมักจะให้เครื่องดนตรีชนิดเดียวกันอยู่ใกล้กัน
ลักษณะทางกายภาพและระบบเสียงของเครื่องดนตรีของชาวไทยอง
กลองหลวง จัดอยู่ในประเภทเครื่องหนัง ตัวกลองทำจากไม้เนื้อแข็ง ขึงหน้ากลองด้วยหนังวัว และพื้นที่ที่ผู้วิจัยได้ศึกษา มีการติดจ่า (การติดหน้ากลอง) ด้วยแป้ง ในเรื่องของสัดส่วนของกลองหลวงจะต่างกันออกไปตามแต่ขนาดไม้ที่นำมาทำกลองหลวง ส่วนในเรื่องของระบบเสียงนั้น กลองหลวงจะมีระดับเสียงที่ไม่แน่นอน มีเกณฑ์การวัดความดังเป็นค่าเดซิเบล (dB) การตีกลองหลวงจะตีด้วยมือที่พันด้วยผ้าดิบหรือจีวร
กลองตะหลดปด จัดอยู่ในประเภทเครื่องหนัง วิธีการตีจะใช้ไม้ตีจำนวน 2ไม้ ตัวกลองทำมาจากไม้เนื้อแข็ง หน้ากลองทำมาจากหนังวัว และถ้าหากมีการเดินขบวนจะใช้เชือกผูกเป็นสายสะพายให้แก่คนตีกลอง ในเรื่องระดับเสียงกลองตะหลดปดมีระดับเสียงที่ไม่คงที่ ความดังของเสียงจะขึ้นอยู่กับความตึงของหน้ากลองด้วยส่วนหนึ่ง
กลองสิ้งหม้อง จัดอยู่ในประเภทเครื่องหนัง ตีด้วยฝ่ามือหรือปลายนิ้วมือ ใช้สะพายด้านข้างเพื่อตี และนิยมใช้ในขบวนแห่ กลองสิ้งหม้อง มีระดับเสียงที่ไม่คงที่ ความดังของเสียงจะขึ้นอยู่กับการขึงหน้ากลองให้ตึงเช่นเดียวกับกลองตะหลดปด
กลองตัด จัดอยู่ในประเภทเครื่องหนัง ปิดหน้าด้วยหนังวัวเพียงด้านเดียว การตีกลองตัดจะใช้ไม้ตี โดยไม้ที่ใช้ตีจะพันส่วนหัวให้เป็นสี่เหลี่ยมด้วยผ้าดิบหรือจีวร ระดับเสียงของกลองตัดนั้นจะไม่คงที่ ความดังเสียงขึ้นอยู่กับความตึงของหน้ากลองเช่นเดียวกับกลองชนิดอื่นที่ได้กล่าวไป ลักษณะการตีกลองตัด จะใช้มือข้างหนึ่งถือสายสะพายกลองไว้และมืออีกข้างหนึ่งถือไม้ตีหน้ากลอง
ฉาบ จัดอยู่ในประเภทเครื่องเคาะ หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป วิธีการตีฉาบมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การตีแบบปิดและการตีแบบเปิด โดยการตีทั้งสองวิธีนี้จะได้เสียงที่ต่างกัน
ฆ้อง จัดอยู่ในประเภทเครื่องเคาะเช่นเดียวกับฉาบ โดยจะแบ่งฆ้องออกเป็น 3ขนาด ได้แก่ ขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ฆ้องขนาดใหญ่จะมีที่แขวน ส่วนขนาดกลางและเล็กจะมีเชือกร้อยไว้ให้ผู้บรรเลงถือ
ในส่วนของทำนองเพลงจำแนกได้เป็น 3 ทำนอง ได้แก่ ทำนองสำหรับการฟ้อน จะดำเนินอย่างช้า ๆ นิยมบรรเลงด้วยวงกลองหลวง ต่อมาทำนองแห่ครัวตาน จะดำเนินทำนองจังหวะปานกลาง บรรเลงด้วยวงกลองหลวงเช่นเดียวกัน และสุดท้ายทำนองแห่ทั่วไป ใช้รูปแบบทำนองเดียวกันกับการฟ้อนแต่จะเร็วกว่า (น.12-28) |
|
Folklore |
ชาวไทยองมีภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับดนตรี นั่นคือ การ “ติดจ่า” คือ การผสมส่วนผสมจากธรรมชาติที่เป็นสูตรลับของแต่ละชุมชนมาติดที่หน้ากลอง เพื่อให้กลองเกิดความดังกังวาน ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ว่า เช่น ข้าวเหนียว กล้วยกวน ขี้เถ้า ขี้ผึ้ง เป็นต้น |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
ชาวไทยองมักมีการรวมกลุ่มกับพี่น้องชาวไทกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ เพื่อจัดงานประเพณีทางวัฒนธรรมขึ้น และมีการแข่งขันทางวัฒนธรรม โดยมีเครื่องดนตรีเป็นองค์ประกอบหลัก สิ่งนี้ถือเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของชาวไทยองและชาวไทกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างความสามัคคีกลมเกลียวให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ในแต่ละกลุ่มอีกด้วย |
|
Map/Illustration |
- ภาพที่ 1 ที่ตั้งชุมชนไทยอง ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย (น.10)
- ภาพที่ 2 การขึ้นคร่อมบนรถลากเพื่อตีกลองหลวง (น.14)
- ภาพที่ 3 วงกลองสิ้งหม้องไทยอง (น.15)
- ภาพที่ 4 กลองหลวงไทยอง “แม่บัวตอง” และ “แม่ฟ้าคนอง” (น.17)
- ภาพที่ 5 การติดจ่ากลอง และการพันมือตีกลองหลวง (น.18)
- ภาพที่ 6 กลองตะหลดปด และลักษณะท่านั่งบรรเลง (น.19)
- ภาพที่ 7 ไม้ตีกลองตะหลดปด (น.20)
- ภาพที่ 8 กลองสิ้งหม้อง (น.21)
- ภาพที่ 9 กลองตัด (น.22)
- ภาพที่ 10 การตีกลองตัด (น.23)
- ภาพที่ 11 ฆ้องขนาดใหญ่ ขนาดกลาง (สีทอง) และขนาดเล็ก (น.24) |
|
|