|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,จักรวาลวิทยา,วัฎจักรชีวิต,เพศ (Gender),ภาคเหนือ |
Author |
Patricia Veronica Symonds |
Title |
Cosmology and the Cycle of Life: Hmong Views of Birth, Death and Gender in a Mountain Village in Northern Thailand |
Document Type |
Ph.D. Dissertation |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศุนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
356 |
Year |
2534 |
Source |
Submitted in partial fulfillment of the requirements for the Degree of Doctor of Philosophy in the Department of Anthropology at Brown University. |
Abstract |
ความเชื่อเรื่องการเกิดของม้งแตกต่างไปจากแนวคิดของตะวันตกที่เป็นเรื่องของกายภาพ และชีวภาพของร่างกาย แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดในสังคมม้งเป็นเรื่องธรรมชาติและเป็นการเดินทางของจิตวิญญาณส่วนที่ 3 จากโลกมืดมาสู่โลกสว่าง ความเชื่อเรื่องของการไม่ส่งเสียงร้องในการคลอดบุตรเพื่อให้เด็กคลอดออกอย่างปลอดภัย ความสัมพันธ์ระหว่างมารดาผู้เป็นให้กำเนิด แต่บิดาเป็นผู้ให้ชีวิตคือ เรียกจิตวิญญาณส่วนที่ 3 เข้าร่างกายทารก และเด็กจะถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในครอบครัวของบิดา โดยมีมารดาเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือและสั่งสอนให้กลายเป็นม้งที่ดี สถานภาพของผู้หญิงม้งจึงเป็นผู้ตามและถูกคาดหวังให้ทำงานหนัก เป็นหญิงที่ดีและเป็นแม่ที่ดี เมื่อแต่งงานจะเปลี่ยนสายตระกูลจากของบิดาไปสู่สายตระกูลของสามีและอยู่จนตาย เมื่อตายวิญญาณจะออกจากร่าง ส่วนที่ 1 จะคอยดูแลครอบครัว ส่วนที่ 2 จะกลับไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษในโลกมืด และส่วนที่ 3 รอคอยเพื่อกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในสายตระกูลเดิม สิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดความเชื่อและวิถีการดำรงชีวิตของม้งที่มีพื้นฐานสังคมหลักอันเกิดจากสถาบันครอบครัว (หน้า 263-272) |
|
Focus |
ศึกษาความคิดและความเชื่อเกี่ยวกับการเกิด การตาย และการกลับชาติมาเกิดใหม่ของวิญญาณ ซึ่งสะท้อนจักรวาลวิทยาของม้งในประเด็นที่ว่า 1. สังคมม้งมองการเกิดอย่างไร 2. ทรรศนะของม้งในเรื่องการเกิดมีนัยยะอย่างไรต่อสถานภาพผู้หญิง ในระบบเครือญาติแบบปิตุโลหิต 3. ความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดและการกลับชาติมาเกิดเป็นอย่างไร (หน้า 15) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ม้งทางภาคเหนือของประเทศไทย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ข้อถกเถียงในการจัดตระกูลภาษาม้ง โดยบางกลุ่มกล่าวว่าควรอยู่ในกลุ่มภาษาม้ง/เมี่ยน (แม้ว/เย้า) ในหลักภาษาศาตร์ของจีนกล่าวถึงภาษาในกลุ่มตระกูลนี้มีความสัมพันธ์กับภาษาจีนและเป็นตระกูลย่อยของภาษาในกลุ่ม (Sino-Tibetan) แต่ Benedict (1975) ได้โต้แย้งว่า ความเหมือนของภาษาม้งและภาษาจีนเกิดจากการยืมคำมาใช้ เขาจึงมีความเห็นว่า ควรจะจัดภาษาม้งให้อยู่ในกลุ่มตระกูลภาษา Austronesian and Japanese / Ryukan หรือเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่ากลุ่มตระกูลAustronesian/Tai ภาษาม้งมีเสียงวรรณยุกต์ 8 ระดับเสียง และไม่มีพยัญชนะสะกดตัวสุดท้าย (หน้า XIIX) |
|
Study Period (Data Collection) |
มกราคม ค.ศ.1987 - พฤษภาคม ค.ศ.1988 |
|
History of the Group and Community |
เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมากลุ่มม้งอาศัยอยู่ในประเทศจีน แต่เนื่องจากพวกเขาเป็นชนกลุ่มน้อย ประชากรส่วนใหญ่ของชาวจีนเป็นฮั่น ทำให้เกิดปัญหาทางเชื้อชาติและเกิดสงครามทางการเมืองหลายครั้ง จนกระทั่งในช่วงกลางคริสตศตวรรษที่ 17 เกิดปัญหาความขัดแย้งในเรื่องการถือครองที่ดินในการทำการเกษตรกรรม เป็นผลให้ม้งอพยพออกจากจีนเข้าสู่ลาวทางเหนือของเวียดนาม ทางเหนือของพม่า และประเทศไทย ตั้งแต่ กลางศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ในประเทศไทย เรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า แม้ว แต่พวกเขาเรียกตนเองว่าม้ง โดยมีแยกเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ ม้งเขียวและม้งขาว (หน้า 40) |
|
Settlement Pattern |
หมู่บ้านม้งจะอยู่ท่ามกลางป่า บ้านสร้างติดพื้นสร้างด้วยไม้ และใช้หญ้ามุงหลังคา หรือมุงด้วยสังกะสี (หน้า 63) ในปี พ.ศ. 1987 หมู่บ้านดอกไม้มีขนาดไม่เล็กนัก ประมาณ 58 ครัวเรือน (หน้า 9) |
|
Demography |
จำนวนประชากรม้งในประเทศไทยมีประมาณ 82,310 คน ใน 230 หมู่บ้าน (สำรวจโดยสถาบันวิจัยชาวเขา จังหวัดเชียงใหม่) (หน้า 40) สำหรับหมู่บ้านดอกไม้มีประชากร 487 คน ใน 64 หลังคาเรือนในปี ค.ศ. 1988 (หน้า 9) |
|
Economy |
ครัวเรือนเป็นสถาบันพื้นฐานทางเศรษฐกิจและพิธีกรรมของม้ง ในแต่ละครัวเรือนจะมีคนหลายรุ่นอาศัยอยู่ร่วมกัน และทุกคนในครอบครัวจะช่วยกันทำงานทั้งในด้านการทำนา และการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง ฝิ่น ผักผลไม้นานาชนิด รวมถึงมีการปลูกพืชเศรษฐกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐทดแทนการปลูกฝิ่น เช่น มะเขือเทศ ยาสูบ (หน้า 79) การแบ่งงานในสังคมของม้งอาศัยความแตกต่างทางเพศและวัยเป็นหลัก เช่น ผู้หญิงมีหน้าที่ในการดูแลครอบครัว ทำงานบ้าน เลี้ยงดูบุตร ออกมาทำงานในไร่ และทอผ้าสำหรับทุกคนในครอบครัว ส่วนผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว แสดงความคิดเห็น ตัดสินปัญหา และทำงานในไร่ที่เป็นงานหนัก เช่นตัดต้นไม้ใหญ่ และทำงานช่างต่างๆ สร้างบ้าน สานตะกร้า ทำเครื่องเงิน เครื่องประดับ(หน้า 49) และมีการแลกเปลี่ยนช่วยเหลือกันในเรื่องของแรงงานระหว่างสายตระกูลต่างๆ เช่น ในช่วงฤดูเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และมีการจ้างกะเหรี่ยงเข้ามาทำงานในไร่ฝิ่น โดยจ่ายค่าแรงให้เป็นข้าว (หน้า 41-42) |
|
Social Organization |
สังคมม้งเป็นสังคมเครือญาติ ที่ให้ความสำคัญกับสายตระกูลฝ่ายบิดา (lineage) ซึ่งมีนามสกุลต่าง ๆ กันออกไปในแต่ละโคตรตระกูล (clan) สายตระกูลหนึ่งจะผูกพันกันด้วยความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา การแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นลูกของน้องสาวพ่อ(cross - cousin marriage) เป็นความนิยมแต่อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีข้อห้ามในการแต่งงานที่อยู่ในโคตรตระกูลเดียวกัน (หน้า 40-41) สังคมม้งเป็นสังคมที่มีการแบ่งชั้นตามอายุและเพศ ผู้ที่อาวุโสกว่าจะเป็นผู้ควบคุมระบบการผลิต และเป็นผู้มีความรู้ที่ทุกคนต้องให้ความเคารพนับถือ แต่ก็มีการนับถือที่แตกต่างกันในระหว่างเพศ เพศชายจะได้รับการเคารพมากกว่า เป็นเป็นผู้ตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงจะได้รับความเคารพจากบุตรหลานของตน การเรียกชื่อเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและการยอมรับในสังคม โดยในช่วงแรกเกิดจนถึง 4 ปี หรือก่อนมีเด็กใหม่เกิดในครอบครัว พวกเขาจะถูกเรียกว่าเป็นเด็กเล็กที่สุดในบ้าน จาก 4 ปีจนถึงวัยเจริญพันธุ์ พวกเขาถูกเรียกว่า เด็กหนุ่มสาว หรือเรียกในลำดับสายเครือญาติ เช่น ลูกคนโตของฉัน และเมื่อแต่งงานสถานภาพของพวกเขาจะเปลี่ยน เป็นผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ สำหรับผู้ชายคำเรียกจะเป็นชื่อของเขา สำหรับผู้หญิงจะเป็นภรรยาของใคร หรือ แม่ของใคร ตามลำดับ ดังนั้นสถานะของผู้หญิงที่เป็นโสดจึงไม่ได้รับการยอบรับมากนัก แม้ว่าผู้หญิงสามารถกระทำการหย่าร้างได้ แต่บุตรจะต้องอยู่กับบิดาและผู้หญิงจะไม่สามารถเข้าไปอยู่ในสายตระกูลดั้งเดิมได้ (หน้า 109-167) |
|
Political Organization |
หน่วยการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสังคมม้งคือหมู่บ้าน จะมีหัวหน้าหมู่บ้าน การแต่งตั้งหัวหน้าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกภายในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการเมืองระหว่างรัฐและหมู่บ้าน (หน้า 41) |
|
Belief System |
การเกิดในสังคมม้ง หมายถึง การเดินทางของวิญญาณสู่ดินแดนแห่งแสงสว่าง เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนการแต่งงานหรือในช่วงระหว่างแต่งงานแล้วก็ได้ เพราะสังคมม้งอนุญาตให้หญิงและชายมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะแต่งงานได้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่หนุ่มสาวจะออกมาร้องเพลงเกี้ยวพาราสีกัน และชายจะไปหาหญิงและร่วมรักกันนอกบ้านฝ่ายหญิง เช่น กระท่อมในนา เป็นต้น ทุกคนในครอบครัวรับรู้แต่ไม่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ พิธีแต่งงานจึงเกิดขึ้นในช่วงหลังจากเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมาก ในความเชื่อของม้งการตั้งครรภ์ เกิดจากเมล็ดพันธุ์จากผู้ชายเข้าไปผสมกับไข่ของผู้หญิงและถ้าทั้งสองแข็งแรงเท่า ๆ กัน ก็จะตั้งครรภ์ แต่ถ้าไม่ก็จะสลายกลายเป็นเลือดออกมาจากร่างกายของผู้หญิง ในช่วงของการตั้งครรภ์ถ้าเกิดการเจ็บป่วยจะต้องทำพิธีเลี้ยงผี เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กแข็งแรงดี และจะมีการจัดพิธีเลี้ยงผีอีกครั้งในช่วงที่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน เพื่อความแน่ใจว่าการคลอดจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ถ้าเด็กตายก่อนคลอดเชื่อกันว่า เกิดจากวิญญาณที่จะมาเข้าร่างไม่ชอบใจและไม่ต้องการมาเกิดใหม่ เพราะหญิงที่ตั้งครรภ์กระทำอะไรบางอย่างที่ผิดประเพณี ส่งผลให้ผีบรรพบุรุษลงโทษและจะต้องหาทางแก้ไขและตั้งครรภ์ใหม่ให้เร็วที่สุด ผู้หญิงจะรับรู้ได้ด้วยตนเองว่าถึงเวลาคลอดเนื่องจากอาการปวดแตกต่างไปจากการทำงานหนัก ก็จะมีการเตรียมใบตองไว้ในห้องและทำการคลอดโดยจะต้องไม่ส่งเสียงร้องออกมาเนื่องจากถ้าส่งเสียงร้องเด็กอาจจะคิดว่าโลกไม่น่าอยู่และไม่ยอมออกมาหรือตายระหว่างคลอด โดยปกติแม่สามีจะเข้ามาดูแลและตัดรกเด็ก และบิดาจะเป็นคนนำรกเด็กและเช็ดเลือดภายในห้อง และนำเอาทุกอย่างไปฝังให้เรียบร้อย และต้องระวังไม่ให้สัตว์มากินเพราะจะทำให้เด็กตายหรือเจ็บป่วยได้ ภายหลังเด็กคลอดได้สามวันจะมีพิธีในการเรียกวิญญาณส่วนที่ 3 เข้าร่างโดยผู้ชายในครอบครัวเป็นผู้ประกอบพิธี ซึ่งพิธีนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นผู้ให้กำเนิดแต่ผู้ชายเป็นผู้ให้ชีวิตที่สมบูรณ์ ช่วงหลังคลอด 1 เดือน มารดาจะได้รับการดูแลอย่างดีโดยต้องกินอาหารที่หุงใหม่และร้อนอยู่เสมอ และสามีจะต้องฆ่าไก่เพื่อนำมาให้ภรรยากินทุกวันตลอด 1 เดือน เพื่อช่วยให้ร่างการผลิตน้ำนมได้ดี และกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว (หน้า 162-212) เมื่อมีการตายเกิดขึ้นในบ้านจะมีการทำพิธีศพ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ใช้เวลา 13 วัน และครั้งที่สองจะทำเมื่อครอบครัวพร้อม เป็นพิธีในการปลดปล่อยวิญญาณ ม้งมีเมื่อคนตายวิญญาณ ทั้ง 3 ส่วน จะเดินทางไปสู่โลกมืดหรือโลกของผีบรรพบุรุษและอยู่ร่วมกัน และวิญญาณส่วนที่ 3 จะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในพิธีศพครั้งที่ 1 ลูกชายจะไปเชิญนักดนตรี ญาติพี่น้องมาร่วมพิธีที่บ้าน รวมถึงเชิญหมอผีมากระทำพิธีส่งวิญญาณ ภายหลัง 13 วัน จะนำศพไปฝังและมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ผู้ตาย สำหรับพิธีครั้งที่สอง ลักษณะการทำพิธีคล้ายคลึงกันกับพิธีในครั้งที่ 1 แต่ผู้เข้าร่วมมีน้อยกว่าและผู้ที่อยู่ไกลไม่จำเป็นต้องมา พิธีนี้ทำเพื่อให้แน่ใจว่าวิญญาณได้ไปอยู่ร่วมกับผีบรรพบุรุษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากถ้ายังไม่ไปอาจจะทำให้เกิดความเจ็บป่วย ผลผลิตในไร่เสียหาย โชคไม่ดีกับครอบครัวได้ เมื่องานเสร็จสิ้นถือว่าการเดินทางไปสู่โลกมืดเป็นไปด้วยดีและวิญญาณส่วนที่ 3 ก็จะรอกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในสายตระกูลเดิม (หน้า 214-262) ปัจจุบัน มีม้งมีการนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์มีโบสถ์ภายในหมู่บ้าน มีบางคนหันมานับถือศาสนาคริสต์เนื่องจากทำให้ไม่ต้องเสียเงินในการทำงพิธีกรรมต่าง ๆ ในการเลี้ยงผีบรรพบุรุษ ตามความเชื่อแบบดั้งเดิม (หน้า 68) |
|
Education and Socialization |
การอบรมสั่งสอนเด็กเป็นหน้าที่ของครอบครัวในช่วงที่เป็นเด็ก มารดามีบทบาทสำคัญในการสั่งสอนและอบรมเลี้ยงดูให้เติบโตเป็นม้งที่ดี สำหรับเด็กผู้ชายเมื่อโตมากกว่า 6 ปีจะเริ่มเรียนรู้จากบิดา และใกล้ชิดมารดาน้อยลง สำหรับเด็กผู้หญิงจะต้องเรียนรู้งานทุกอย่างจากมารดา ทั้งช่วยงานบ้าน ทำงานในไร่ และต้องเรียนรู้การปักเย็บเสื้อผ้า โดยจะมีการปักลวดลายและติดเครื่องประดับตกแต่งทำด้วย เงิน โดยเฉพาะการทำเสือคลุมที่เรียกว่า "Sev" เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของการแสดงตนเป็นหญิงม้งที่ดี (หน้า 109-129) สำหรับโรงเรียนของรัฐได้เข้ามาเปิดสอนเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีครูประจำ มีครูอาสาเข้ามาสอนเป็นช่วง ๆ แต่ในช่วงหน้าฝนการเดินทางลำบากครูอาจจะค้างในหมู่บ้านสอน 2 อาทิตย์แล้วกลับออกไป (หน้า 61) |
|
Health and Medicine |
ในสังคมไทยกลุ่มคนที่อาศัยบนพื้นที่ราบได้รับการพัฒนาในด้านการสาธารณสุข การวางแผนครอบครัวมากกว่า 30 ปีที่ผ่านมา กระบวนการให้ความรู้ในด้านการรักษาแผนใหม่ประสบความสำเร็จแต่ในกลุ่มผู้อาศัยบนพื้นที่สูง ยังคงมีรูปแบบแนวคิดเกี่ยวกับการรักษาโรคตามความเชื่อแบบดั้งเดิม แม้ว่ารัฐจะสร้างถนนเชื่อมหมู่บ้านกับเมือง ตลาด และโรงพยาบาล ก็มีเพียงบางกลุ่มที่ได้รับผลของการพัฒนา (หน้า 16-17) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
ผู้หญิงต้องเรียนรู้การปักเย็บ เสื้อผ้า โดยจะมีการปักลวดลายและติดเครื่องประดับตกแต่งทำด้วย เงิน โดยเฉพาะการทำเสื้อคลุมที่เรียกว่า Sev เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของการแสดงตนเป็นหญิงม้งที่ดี (หน้า 119-129) |
|
Folklore |
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสาเหตุที่ผู้ชายกลายเป็นผู้นำ นานมาแล้วมีผู้นำม้งผู้หญิงมีสามี 7 คน และผู้นำผู้ชายมีภรรยา 7 คน ทั้งสองแย่งชิงความเป็นใหญ่ จึงได้เดินทางไปหาเทพเจ้า (Yawm Saub) สำหรับตัดสิน โดยเทพได้ทดสอบโดยให้ฝ่ายชายกลับบ้านแล้วฆ่าภรรยานำศีรษะมาให้เมื่อผู้นำชายกลับไปบ้านเห็นภรรยากำลังป้อนนมบุตรเกิดความสงสารไม่สามารถฆ่าได้จึงเดินทางกลับมาและบอกกับเทพเจ้า เทพเจ้าจึงให้กลับไปและรออยู่ที่บ้าน เมื่อฝ่ายผู้นำหญิงมาหาเทพเจ้าและได้รับคำสั่งให้กลับไปฆ่าสามี นางได้ใช้มีดตัดคอและนำศีรษะสามีทั้ง 7 คนมาให้เทพเจ้า ด้วยเหตุนี้เทพเจ้าจึงตัดสินใจให้ชายเป็นผู้หัวหน้าครอบครัวเป็นใหญ่กว่าหญิงเนื่องจากรู้คุณค่าของการมีชีวิต (หน้า 107) ตำนานเกี่ยวกับการเกิด ในอดีตผู้ชายเป็นผู้ให้กำเนิดเด็ก แต่พวกเขาต้องทนทรมานในการคลอดเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน กว่าจะให้กำเนิดบุตรและบุตรก็ตัวเล็กมากเนื่องจากออกมาจากช่องที่เล็กมาก ผู้ชายได้เอาเด็กใส่บ่าและไปทำงานในไร่ ขณะที่เดินทางไปไก่ได้มากินเด็ก ผู้ชายนั่งร้องให้อยู่นานจนภรรยามาเห็นและสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อภรรยาได้รับรู้ว่าเด็กถูกไก่กินไปแล้ว จึงอาสาที่จะเป็นคนตั้งครรภ์และคลอดบุตรเองเนื่องจากมีช่องคลอดใหญ่กว่าเด็กจะเกิดมาตัวใหญ่กว่า แต่ผู้ชายจะต้องฆ่าไก่และนำมาให้กินทุกวันเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อช่วยบำรุงร่างกายจากการเสียเลือดในการคลอด (หน้า 181) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
Other Issues |
แนวคิดเกี่ยวกับเพศ (Gender) และมุมมองเกี่ยวกับโลกและการใช้ชีวิต (Cosmology) ในสังคมม้งทุกอย่างเป็นคู่ เช่น ชายและหญิง ในพิธีกรรมเลี้ยงผีบรรพบุรุษ จะมีการเรียกผีในทั้งสองเพศ และมีความเชื่อเรื่องของขวัญหรือจิตวิญญาณในร่างกายของมนุษย์ ถ้าเกิดขวัญออกจากร่างกายจะต้องทำพิธีเรียกกลับเข้า โดยทั้งสามีและภรรยาจะต้องอยู่ร่วมกันในการกระทำพิธี สำหรับมุมมองเกี่ยวกับโลก มีการเปรียบเทียบ โลก ตะวัน เป็นผู้หญิง ในขณะที่ การเติบโตของชีวิต ท้องฟ้า พระจันทร์ และกลางคืน เป็นผู้ชาย (หน้า 47-48) |
|
Map/Illustration |
List of Illustrations (หน้า X) |
|
|