ชาวกะซอง บ้านคลองแสง
ชาวกะซองบ้านคลองแสงนับถือพุทธศาสนาควบคู่กับไปการนับถือผี ซึ่งเป็นความเชื่อพื้นฐานดั้งเดิมของหมู่บ้าน ผสมปนเปปรากฏในพิธีกรรมอย่างไม่อาจแยกขาดจากกันได้
เดิมชาวกะซองบ้านคลองแสงจะไปทำพิธีทางพุทธศาสนาที่วัดในตัวตำบลด่านชุมพลและที่ปะเดา ต่อมามีสำนักสงฆ์เป็นศูนย์กลางทางความเชื่อพุทธศาสนา มีธรรมเนียมปฏิบัติตามแนวทางของพุทธศาสนิกชน
ความเชื่อเกี่ยวกับผีหรืออำนาจเหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมของหมู่บ้านคลองแสงนั้น กล่าวได้ว่า ผีมีความหมายค่อนข้างกว้างครอบคลุมผู้ที่ตายแล้ว พลังอำนาจลึกลับที่อยู่ในธรรมชาติ ผีมีทั้งประเภทที่ให้คุณและโทษแก่มนุษย์ ส่วนใหญ่ผีที่ชาวกะซองเชื่อถือ จะเป็นผีที่มีความเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ตามป่าเขาหรือพื้นที่ซึ่งเชื่อมาเป็นที่สถิตของภูตผีวิญญาณต่าง ๆ ด้วยปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตเพื่อหาเลี้ยงปากท้องซึ่งขึ้นอยู่กับธรรมชาติ สภาพอากาศ เนื่องจากมนุษย์ควบคุมธรรมชาติไม่ได้ทำให้เกิดการอ้อนวอนหรือร้องขอต่อธรรมชาติขึ้น เพื่อตอบสนองด้านจิตใจในการต่อรองกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่แน่นอนของธรรมชาติ ผ่านพิธีกรรมกับสัญลักษณ์ ที่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ผีดี หรือวิญญาณที่ให้คุณแก่ชาวบ้าน เป็นผีที่มีหน้าที่ปกป้อง คุ้มครอง ดูแลสถานที่ที่สิงสถิตอยู่ และดลบันดาลให้เกิดความอุดมบูรณ์ นำความสงบสุขมาสู่ชุมชน หรือผู้ที่ปฏิบัติตนดีงามในสังคม
ผีบรรพบุรุษ หรือ ผีเรือน หรือที่ชาวกะซองเรียกว่า “ผีสมุก” หรือ “ผีขมุก”
ในแต่ละบ้านเรือนของชาวกะซองจะมี “ผีขมุก” ประจำอยู่ที่ห้องนอนของผู้เป็นเจ้าบ้าน ผีขมุกเป็นผีที่ประจำอยู่กับผู้หญิงและจะสืบทอดทางฝ่ายผู้หญิงจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก มีภาชนะหรือตะกร้าสานที่ทำจากหวายผสมกับไม้คลุ้ม พืชจากป่า ภายในบรรจุลูกปัด แหวน อัญมณี ข้าวเปลือก เก็บภาชนะนี้ไว้ที่หัวนอนของผู้เป็นแม่หรือยาย (เป็นอาวุโสที่สุดฝ่ายหญิงของบ้าน) โดยจะบอกกล่าวให้ผีคุ้มครองเจ้าเรือนให้อยู่เย็นเป็นสุข และจะเชิญผีเรือนลงมาเมื่อเวลาทำพิธีสำคัญ ได้แก่ พิธีกินผีเรือนหรือพิธีแต่งงานของลูกสาวหรือหลานสาวในบ้าน นอกจากนั้น ผีขมุกยังถือเป็นผีตามประเพณีซึ่งมีข้อห้ามที่ชาวกะซองปฏิบัติ หากฝ่าฝืนจะถือเป็นการ “ผิดผี” เช่น เด็กหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานจะไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่ในห้องนอนตามลำพัง ถือเป็นการทำผิดประเพณี (ผิดผี) อาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วย หากไม่ได้บอกกล่าว จำต้องขอขมาลาโทษ โดยทำพิธีเซ่นไหว้ด้วยการนำของเซ่นไหว้ จุดธูปเทียนนำ ไก่ (ที่ยังมีชีวิต) มาไหว้ขอขมาให้ผีขมุกยกโทษให้ จากนั้นยกไก่ให้เจ้าบ้านเลี้ยงต่อไป การฝ่าฝืนประเพณีของชาวกะซองได้เกิดสำนวนคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาของชาวกะซองในทำนองว่า ทำอะไรให้ระวังผิดผี มิฉะนั้นจะต้องไหว้ตูดไก่
ส่วนผีฝ่ายร้าย หรือที่ชาวกะซองเรียกว่า “ผีแม่มด” เป็นวิญญาณที่ชาวบ้านเชื่อว่าสามารถก่อให้เกิดเภทภัยแก่ผู้คนได้ ซึ่งหากทำอันตรายหรือก่อภัย เชื่อกันว่าผีจะติดตามต้นไม้ ป่า เขา แม่น้ำ ลำคลอง หรือวัตถุต่าง ๆ หากมีคนไปทำให้ผีตนใดไม่พอใจอาจทำให้ผู้นั้นเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่สบาย เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยกะทันหัน มักเชื่อว่า เป็นการกระทำของผีร้ายต่าง ๆ ต้องให้ผู้ที่สื่อสารกับผี หรือแม่มด หรือผู้หมอดูว่า ผีชนิดใดทำให้เจ็บป่วย หรือมีผีตนใดติดตามมากับบุคคลผู้นั้นจนทำให้เจ็บป่วย จากนั้นจึงต้องบนบานขอขมาไถ่โทษให้ผู้เจ็บป่วยด้วยของเซ่นไหว้ เป็นสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ ไข่ เหล้า ข้าวสาร นอกจากนั้นจะต้องทำพิธีเชิญผีมาร่วมในประเพณีเซ่นไหว้ผีแม่มดในเดือน 3 ของทุกปีอีกด้วย (น.70-73)
ตัวอย่างประเพณี/พิธีกรรมเกี่ยวกับชีวิต
ประเพณีเกี่ยวกับการบวช เมื่อเด็กผู้ชายเริ่มก้าวเข้าสู่สังคมที่ใหญ่และโลกที่กว้างขึ้นจึงจำเป็นจะต้องผ่านพิธีกรรมบางอย่างเพื่อเรียกขวัญกำลังใจและประกาศให้โลกรู้ในการกระทำนี้ของเขาเพื่อให้เกิดการยอมรับต่อสังคม พิธีกรรมดังกล่าวนี้เรียกว่า "พิธีกรรมเปลี่ยนผ่าน" นั่นคือ การเปลี่ยนจากช่วงวัยเด็กไปสู่วัยผู้ใหญ่ที่จะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในอนาคตและอีกนัยหนึ่งของพิธีกรรมนี้คือ การทดแทนบุญคุณพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูมาจนโต การบวชให้ผู้มีพระคุณจึงเชื่อว่า จะได้บุญสูงสุดนั่นเอง แม้ขั้นตอนการบวชของแต่ละพื้นที่จะมีจุดประสงค์ที่ไม่แตกต่างกันนัก
ประเพณีการแต่งงาน เมื่อหนุ่มสาวชาวกะซองตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน เมื่อทั้งคู่ตกลงใจกันแล้ว ผู้ชายจะขอให้ผู้ใหญ่ซึ่งไม่ใช่พ่อแม่ของตนเองไปสู่ขอยังพ่อแม่ของฝ่ายหญิง เรียกว่า “ครูเซ่น” บุคคลนี้ถือว่าเป็นคนสำคัญ ที่จะต้องไปบอกกล่าวต่อผีบรรพบุรุษของผู้หญิงพร้อมด้วยดอกไม้ ธูป เทียน หมาก พลู ก่อนที่จะสู่ขอผู้หญิงจากพ่อแม่ของฝ่ายหญิง และขอแต่งงานในนามของฝ่ายชาย หลังจากพ่อแม่ของผู้หญิงตอบตกลงแล้วตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าวและครอบครัวของเจ้าสาวจะจัดพิธีแต่งงานพร้อมตกลงสินสอดที่จะให้กับครอบครัวของเจ้าสาว
ก่อนการแต่งงานบางคู่มีการหมั้นหมายตามประเพณีด้วยการผูกข้อมือ ก่อนจัดงานแต่งงาน ผู้ชายจะไปช่วยครอบครัวฝ่ายหญิงทำมาหากินในไร่นา หรือทำตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ฝ่ายหญิงถือเป็นการเรียนรู้ลักษณะนิสัยของผู้หญิงและครอบครัวของฝ่ายหญิงก่อนการดำเนินชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อาจพักอยู่ในบ้านของฝ่ายหญิงได้ จนเมื่อถึงวันแต่งงานเจ้าบ่าวจะไปที่บ้านเจ้าสาวพร้อมของเซ่นไหว้ซึ่งครอบครัวของเจ้าบ่าวจะต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ครอบครัวเจ้าสาวต้องการ ตามประเพณีนี้ ชาวกะซองเรียกว่า “กินผีเรือน” หรือ “ทำผี” หรือ “กินตามสาย” หรือ “หาบตามสาย”
ประเพณีการเซ่นไหว้ผีเดือน 3 ชาวกะซองเรียกว่า “ไหว้ผีแม่มด” หรือ “เล่นผี” แต่ละครอบครัวจะนัดหมายกันประกอบพิธีในช่วงเดือน 3 (ตามปฏิทินจันทรคติของไทย) โดยจะทำในช่วงเวลากลางคืน หลังพระอาทิตย์ตกดิน มีการเตรียมบายศรีปากชาม ตามจำนวนร่างทรงที่จะเชิญให้ผีมาประทับทรง มีเครื่องดนตรีประกอบ รวมทั้งมีการร้องเล่นเต้นรำ เมื่อเชิญผีแม่มดมารับส่วนบุญกุศล นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวสามารถร่วมทำพิธีขอขมาลาโทษหรือเล่นผีที่เคยทำให้ตนเองเจ็บป่วยเป็นการชดเชยอีกด้วย
ชาวซำเร
คนซำเรนับถือภูตผีวิญญาณ เชื่อในเรื่องผี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผีที่เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษ ชาวซำเรจะประกอบพิธีบูชาผี โดยเซ่นไหว้ด้วยอาหารและเหล้า แต่เดิมทุกปีแต่ละครอบครัวจะทำพิธีเซ่นไหว้บูชาผีในช่วงเดือน 4 ถึงเดือน 6 (ตามปฏิทินจันทรคติ) เพื่อขอให้ผีบรรพบุรุษปกป้องคุ้มครองลูกหลาน และขอพรจากบรรพบุรุษ ทุกวันนี้ชาวซำเรทั้งหมู่บ้านมะม่วงและบ้านคลองโอนเป็นพุทธศาสนิกชน ซึ่งกลายเป็นศาสนาหลักของคนซำเร มีวัดมะม่วงเป็นศูนย์กลางทางศาสนา มีพระสงฆ์ที่เป็นชาวซำเร ตลอดจนชาวซำเรบางครอบครัวส่งเสริมให้ลูกชายบวชเป็นพระเพื่อเข้าไปเรียน ตลอดจนส่งลูกเข้าไปในเมืองเพื่อได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น
ชาวซำเรเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีประเพณีอันสืบทอดมาช้านานตั้งแต่โบราณ เรียกว่า “ผีแม่มด” ซึ่งเป็นผีที่เกี่ยวข้องการเซ่นไหว้โดยเฉพาะ ตามความเชื่อว่า มีผีอยู่รอบตัว ผีบางชนิดมาเข้าหรือทำให้ร่างกายเจ็บป่วย เช่น ผีร้าย เสือสมิง ถ้าผีเข้าทำอันตรายส่งผลทำให้เจ็บป่วยเป็นไข้หรือโชคไม่ดี จะต้องทำพิธีเซ่นไหว้ผี และ/หรือผีตนนั้นต้องการเป็นเพื่อนหรือต้องการมาเล่นกับคน ชาวซำเรเรียกพิธีนี้ว่า “เล่นผีแม่มด” ซึ่งทำกันในเวลากลางคืน พิธีหรือประเพณีนี้เป็นการแสดงออกถึงความเชื่อว่าด้วยเรื่องผี และเชื่อว่าจะนำสิ่งดีมาให้กับชุมชนและครอบครัว ขณะเดียวกันก็เป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ชาวซำเรทำพิธีผีแม่มดในช่วงเดือน 2 ถึงเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติ และประกอบพิธีเล่นผีแม่มดทุก ๆ ปี บางครอบครัวรวมกันทำ ขณะที่บางครอบครัวอาจจะแยกกันทำ ลักษณะของพิธีเล่นผีแม่มดค่อนข้างเหมือนกับชาวกะซอง
เมื่อทำพิธีจะมีร่างทรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีเครื่องประกอบพิธีเซ่นไหว้วางอยู่เบื้องหน้า ผู้ชายจะตีกลองอย่างต่อเนื่อง จะมีการร้องเพลงเชิญผีให้เข้ากับร่างทรง บรรยากาศของงานเล่นผีแม่มดเป็นไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริง เมื่อผีเข้าร่างทรงก็จะเริ่มแสดงอากัปกิริยา และเมื่อผีออกจากร่างทรงแล้ว ก็จะเชิญผีตนอื่นเข้ามาอีก (น.82-83)