|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง, คริสต์ศาสนา, การเผยแพร่, โปรแตสแตนต์ |
Author |
ประสิทธิ์ ลีปรีชา |
Title |
ศิวิไลซ์ข้ามพรมแดน การเผยแพร่ศาสนาของม้งโปรแตสแตนต์ในเอเชียอาคเนย์ |
Document Type |
รายงานการวิจัย |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
|
Total Pages |
160 |
Year |
2559 |
Source |
ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ และศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
ข้อค้นพบสองประการที่ผู้ศึกษาได้ชี้ให้เห็นคือ กระบวนการสร้างความศิวิไลซ์ตามแบบตะวันตก โดยใช้ความเป็นชนพื้นเมืองเดียวกันของมิชชันนารีชาวม้งไปเผยแพร่ในกลุ่มชาวม้งซึ่งถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ได้แก่ ประเทศลาว เวียดนาม และจีน ซึ่งมีความเข้มงวดและระแวดระวังศาสนาคริสต์ที่เข้ามาเผยแพร่ภายในประเทศ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารของโลกยุคโลกาภิวัฒน์และกิจกรรมก้าวข้ามผ่านพรมแดนรัฐชาติ โดยเฉพาะบริเวณแนวตะเข็บชายแดน ของมิชชันนารีชาวม้งในประเทศไทยและอเมริกา ส่งผลให้ชาวม้งในแถบเอเชียอาคเนย์เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์มากขึ้น (หน้า 4) |
|
Focus |
การศึกษานี้มี ผู้ศึกษาได้ตั้งสองคำถามหลักในงานศึกษาคือ การทำความเข้าใจความหมายของการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของมิชชันนารีชาวม้งจากประเทศไทยและอเมริกา ตลอดจนการค้นหากระบวนการและกลไกที่มิชชันนารีชาวม้งซึ่งเป็นคนชาติอื่นใช้ในการเผยแพร่ศาสนาโดยข้ามพรมแดนรัฐชาติไปยังกลุ่มชาวม้งในประเทศที่ปกครองแบบคอมมิวนิสต์อย่างลาว เวียดนาม และจีน
(หน้า 4) |
|
Theoretical Issues |
งานศึกษาในครั้งนี้ ผู้วิจัยนำเอา 3 แนวคิด คือ แนวคิดการสร้างความศิวิไลซ์ แนวคิดข้ามพรมแดน และแนวคิดโลกาภิวัตน์ เพื่อใช้เป็นกรอบวิเคราะห์ ในการทำความเข้าใจมิชชันนารีชาวม้งจากประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาเข้าไปยังชาวม้งในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างลาว เวียดนาม และจีน เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์
(หน้า 7) |
|
Ethnic Group in the Focus |
ผู้วิจัยเจาะจงกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ที่ตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่ทั้งในประเทศจีน เวียดนาม ลาว พม่า และไทย (หน้า 2) และกลุ่มชาติพันธุ์ม้งข้ามชาติ อาทิ ชาวม้งในสหรัฐอเมริกา |
|
Language and Linguistic Affiliations |
การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของมิชชันนารีในประเทศลาว ได้เป็นการเริ่มต้นสร้างระบบตัวเขียนภาษาม้งโดยใช้ตัวอักษรโรมัน เมื่อปี ค.ศ. 1953 เพื่อเอื้อประโยชน์ในการถ่ายทอดและเรียนรู้ศาสนาคริสต์ให้เป็นเข้าถึงความเป็นชนพื้นเมืองได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบตัวเขียนดังกล่าวมีชื่อว่า Romanized Popular Alphabet ( R.P.A)(หน้า 56) |
|
Study Period (Data Collection) |
ระยะเวลาของการศึกษาวิจัย ศึกษาในช่วง การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในหมู่ชาวม้งที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ บริเวณตอนบนของเอเชียอาคเนย์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 ในหมู่ชาวเหมียวที่มณฑลกุ้ยโจวและยูนนานของประเทศจีน และชาวม้งในประเทศเวียดนาม ลาว ไทยและพม่า จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศจีนในปี ค.ศ. 1949 ประเทศเวียดนามในช่วงทศวรรษ 1950 กับปี ค.ศ. 1975 และประเทศลาวเมื่อปี ค.ศ. 1975 จนกระทั่งถึงช่วง ค.ศ. 2014 ผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลทั้งที่เป็นแหล่งปฐมภูมิและทุติยภูมิ จากการค้นคว้าเอกสารทางวิชาการและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยวิธีการสังเกตการณ์ และการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง (หน้า 128) |
|
History of the Group and Community |
ประเทศจีน ชาวม้งถูกจัดอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์เหมียว เป็น 1 ใน 56 ชนชาติของประเทศจีน ส่วนมากอาศัยอยู่ในเขตพรมแดนของมณฑลกุ้ยโจว หูหนาน และยูนนาน และยังกระจายตัวในมณฑลฉงชิ่ง กวางสี ไหหนาน โดยกลุ่มชาวเหมียวนั้น นอกจากชาวม้งแล้ว ยังมีชาวฮเม้า อ๊าเม้า ก๊าเหน่า และเกอเซ่อ (หน้า 43)
ประเทศเวียดนาม ชาวม้งถือได้ว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มน้อยใน 54 กลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศ แบ่งเป็นกลุ่มย่อย ได้แก่ ม้งขาว ม้งดอก ม้งแดง ม้งดำ ม้งเขียวและนาเหมี่ยว ส่วนมากอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม (หน้า 48)
ประเทศพม่า ชาวม้งถือได้ว่ามีจำนวนน้อยมาก คาดว่ามีจำนวนอยู่ไม่กี่หมื่นคน จาก 135กลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศพม่า โดยมากตั้งถิ่นฐานในเขตพื้นที่สูงและห่างไกลจากเขตเมือง (หน้า 54)
ประเทศลาว ชาวม้งส่วนใหญ่กระจายตัวในเขตภาคเหนือของประเทศ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ใน 49กลุ่มชาติพันธุ์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ได้แก่ ม้งขาว ม้งเขียว และม้งเหล่ง (หน้า 54)
ประเทศไทย ช่วงกลางทศวรรษ 2540 จากการคาดการณ์ของกองสงเคราะห์ชาวเขาและสถาบันวิจัยชาวเขา ชาวม้งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ใน 13 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือของไทย ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย (หน้า 59) |
|
Settlement Pattern |
ส่วนใหญ่ชาวม้งในเขตพื้นที่เอเชียอาคเนย์ ตั้งถิ่นฐานบนพื้นที่ราบสูง หรือเขตภูเขาสูงทางตอนเหนือ |
|
Demography |
จำนวนประชากรม้งในประเทศจีน มีทั้งหมด 9,426,007 คน (หน้า 43)
จำนวนประชากรม้งในประเทศเวียดนาม มีทั้งหมด 1,068,169 คน (หน้า 48)
จำนวนประชากรม้งในประเทศลาว มีทั้งหมด 451,464 คน (หน้า 54)
จำนวนประชากรม้งในประเทศไทย มีทั้งหมด 154,000 คน (หน้า 59) |
|
Economy |
นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 บริบทของโลกาภิวัตน์ได้นำเทคโนโลยีเข้าไปยังชุมชนม้งในเอเชียอาคเนย์ ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรศัพท์มือถือ และระบบออนไลน์อย่างการใช้เฟสบุ๊ก |
|
Social Organization |
ในงานชิ้นนี้ แสดงให้เห็นถึงทัศนคติในการจัดระเบียบทางสังคมของชาวตะวันตกที่มีต่อผู้คนอีกฝากฝั่ง การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของมิชชันนารี โดยการสร้างความศิวิไลซ์ ซึ่งมีวิธีคิดว่าความเป็นตะวันตกมีความเจริญด้านสังคมและวัฒนธรรมมากกว่าโลกทางตะวันออกที่มีความล้าหลัง ยังไม่พัฒนา (หน้า 21) ซึ่งเกิดขึ้นจากการมองว่าตน (ตะวันตก) เป็นศูนย์กลางของความเจริญ ความศิวิไลซ์ ที่มีรากฐานจากทฤษฎีวิวัฒนาการที่มองว่ามนุษย์มีศักยภาพไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้นในสถานะของการเป็นผู้ศิวิไลซ์กว่าจึงต้องเข้าไปเปลี่ยนแปลงทำให้ผู้ที่ด้อยกว่าหันมานับถือศาสนาคริสต์ (หน้า 133) |
|
Political Organization |
ในยุคการล่าอาณานิคมของตะวันตก เจ้าอาณานิคมได้พยายามเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ การพยายามเข้ายึดการปกครอง จนกระทั่งเกิดคลื่นการปฏิวัติขึ้นในเอเชียอาคเนย์ ช่วงคริสต์ศตวรรษ 1950 เป็นต้นมา ทำให้ จีน เวียดนาม ลาว เข้าสู่การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เกิดการต่อต้านและขับไล่ชาวตะวันตกรวมไปถึงมิชชันนารีออกจากประเทศ ทำให้การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์เป็นไปได้ยากและถูกควบคุม และสอดส่องจากรัฐ (หน้า 101-102)
ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ไม่สามารถแยกประเด็นการเมืองและศาสนาออกจากกันได้ กรณีของประเทศจีน ชาวเหมียวถูกรัฐเข้าควบคุมก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้เกิดการขัดขืนสู่การมีส่วนช่วยในการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม ทำให้การเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ของชาวเหมียวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในประเทศลาว สายสัมพันธ์ของชาวม้งกับนายพลวังเปาหรือขบวนการกู้ชาติลาว ซึ่งเคลื่อนไหวบริเวณชายแดนลาวเวียดนาม และได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ทำให้รัฐบาลลาวยังคงไม่ไว้วางใจการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่ระแวดระวังถึงความสัมพันธ์ของชาวม้งกับเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสที่มีในอดีต (หน้า103) |
|
Belief System |
การเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ทำให้ การแต่งงานที่นิยมแบบผัวเดียวเมียเดียวตามครรลองของศาสนาคริสต์ ลดการปลูกและเสพฝิ่นของชาวม้ง ขณะเดียวกันการสร้างความเชื่อใหม่ ของการเป็นคริสเตียนชาวม้งเชื่อว่าการเข้ามาของมิชชันนารีตะวันตก ทำให้ได้พบและอยู่กับพระเจ้าเมื่อพวกเขาได้กลายเป็นคริสเตียนแล้ว และยังทำให้อยู่ในสังคมที่เหนือกว่าชาวม้งทั่วไปมีความทันสมัยและศิวิไลซ์ ทั้งด้านจิตใจและสังคม ซึ่งอาจเป็นไปด้วยเหตุผลของการถูกกดขี่จากรัฐว่าด้วยสถานะที่ต้อยต่ำกว่าคนพื้นราบ (หน้า 83 -84)
การทำพิธีศีลล้างบาปหรือศีลจุ่ม เพื่อเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียน ชาวม้งผู้เข้ารับการทำพิธีต้องปฏิญาณตนและจุ่มตัวในสระน้ำ ทำความสะอาดบ้านเรือน และทิ้งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษออกให้หมดหรือเผาทิ้ง และนำไม้กางเขนกับรูปของพระเยซูเข้ามาแขวนแทน (หน้า 78)
ในประเทศเวียดนาม การเป็นคริสเตียนยังทำให้ชาวม้งเชื่อว่าเป็นการปลดปล่อยจากการกดขี่ที่เคยได้รับจากรัฐ ลดปัญหาการมีภรรยาหลายคน รวมไปถึงการฉุดหญิงสาวและเกี้ยวพาราสีกัน อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการปลูกและเสพฝิ่นของชาวม้ง นอกจากนี้มิชชันนารียังได้สร้างความเชื่อใหม่ ถึงความบาป หากเป็นคริสเตียนจะได้รับการชำระบาปด้วยพระโลหิตของพระเยซู แต่ในขณะที่คนที่ไม่ใช่คริสเตียนหรือประเพณี ความเชื่อดั้งเดิมเรื่องผีของชาวม้ง ถือได้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี (หน้า 51-52) |
|
Education and Socialization |
ผู้วิจัยค้นพบอย่างน้อยสามประเด็นที่เป็นตัวบ่งบอกถึงความศิวิไลซ์กว่าของชาวตะวันตกที่ส่งผ่านมายังชุมชนชาวม้งในแต่ละท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์ มีดังนี้ คือ หนึ่ง คือการส่งเสริมด้านความรู้ มิชชันนารีส่งเสริมให้ชาวม้งได้อ่านหรือเรียนหนังสือทั้งเป็นภาษาม้ง ประการที่สอง การอธิบายเรื่องราวของพระเจ้าผ่านการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ เช่น โปสเตอร์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ประการที่สาม การรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยการแพทย์แผนตะวันตก (หน้า 85-89)
การใช้คลื่นสั้นวิทยุ เพื่อเผยแพร่ สื่อสาร เรื่องราวของศาสนาคริสต์แก่ชาวม้ง ที่อยู่ในประเทศไทย พม่า ลาว เวียดนาม ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มชาวม้งที่อพยพและอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยมีการจัดรายการวิทยุเป็นภาษาม้ง (หน้า 114-115)
การใช้วิธีฝึกอบรมและให้ความรู้ด้านศาสนาคริสต์ โดยการเดินทางท่องเที่ยว หรือมาในรูปแบบของนักพัฒนา รวมไปถึงการจัดหลักสูตรฝึกอบรมผู้นำเยาวชนม้งคริสเตียนรุ่นใหม่ และจัดประชุมที่ชายแดนไทย-ลาว เพื่อมุ่งไปสู่การสอนศาสนาและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า |
|
Health and Medicine |
มิชชันนารีชาวตะวันตกเป็นผู้ริเริ่มใช้วิธีการรักษาแพทย์แผนตะวันตกเข้ามายังกลุ่มชาวม้ง ในพื้นที่ทำงานเผยแพร่ศาสนา มิชชันนารีจึงมีบทบาททั้งเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาและเป็นผู้รักษาอาการป่วยไข้ พร้อมกับอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยให้หายจากอาการป่วยไข้ ซึ่งเกิดขึ้นในกลุ่มชาวม้งที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ทดแทนความเชื่อของการเจ็บป่วยที่เนื่องมาจากผีเป็นผู้กระทำ (หน้า 92) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Folklore |
ตำนานของชาวม้งเกี่ยวกับพระเจ้าผู้สร้างโลก หรือ เย่อเซ้า เป็นผู้ควบคุมสรรพสิ่งทั้งชั้นสรวงสวรรค์รวมไปถึงมนุษย์และสัตว์น้อยใหญ่ในชั้นโลก นอกจากนี้ยังมีตำนานของกษัตริย์ชาวม้ง หว้านจื๋อ ซึ่งถูกโค่นล้มด้วยอำนาจจากชาวจีน และนำร่างไปฝังไว้ในสุสาน โดยชาวม้งเชื่อว่ากษัตริย์ หว้านจื๋อจะกลับมาช่วยเหลือพวกเขา ทั้งนี้เรื่องเล่าหรือตำนานดังกล่าว และการกล่าวถึงจักรวาลวิทยาของสามโลก ได้แก่ โลกมนุษย์ โลกสวรรค์ โลกบาดาล และโลกด้านสว่างและด้านมืดซึ่งเป็นโลกของผียังปรากฏในนิทาน บทสวดในพิธีแต่งงาน พิธีอัวเน้ง (เข้าทรง) และพิธีศพ รวมทั้งบทเพลงด้วย (หน้า 71) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
การใช้อัตลักษณ์ความเป็นชาติพันธุ์หรือชนพื้นเมืองเดียวกันของมิชชันนารีชาวม้ง โดยเฉพาะในอเมริกา โดยเชื่อมโยงกับชาวม้งคริสเตียนในไทยที่มีอิสระในการนับถือศาสนา เพื่อมุ่งเผยแพร่ศาสนาคริสต์ไปยังกลุ่มชาวม้งในเขตประเทศรอบข้างอย่างลาว เวียดนาม จีน และพม่า ถือได้ว่าเป็นกลไกของการใช้ความสัมพันธ์ของความเป็นชาติพันธุ์เดียวกันของมิชชันนารีในการเผยแพร่ศาสนา
นอกจากนี้บทบาทของมิชชันนารีชนพื้นเมือง ยังได้สร้างการสื่อสารทางศาสนาที่มีความจำเพาะเป็นภาษาท้องถิ่น การเชื่อมโยงเรื่องราวของพระเจ้ากับเรื่องเล่า ตำนาน ความเชื่อของชาวม้งและกระบวนการทางสังคมของชาวม้ง เพื่อจูงใจต่อการตัดสินใจในการเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์และเข้าถึงหลักคำสอนหรือเรื่องราวของพระเจ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น |
|
Social Cultural and Identity Change |
มิชชันนารีได้นำความเชื่อถึงพระเจ้า ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ปลดปล่อยพวกเขาจากการกดขี่โดยคนอื่น และความศิวิไลซ์พร้อมกับการประกาศศาสนา ความเจริญก้าวหน้ากว่าทางด้านศีลธรรม ระบบตัวเขียน โอกาสทางการศึกษา และการแพทย์สมัยใหม่จากตะวันตก จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชาวม้งจำนวนมาก เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ โดยศาสนาคริสต์เข้ามาสู่ชุมชนม้งพร้อมกับการเข้ามาของระบอบอาณานิคมจากตะวันตก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้มงวดในประเทศจีน เวียดนามกับลาว ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (หน้า 63-65)
การเข้ามาของมิชชันนารีชาวม้งนำไปใช้นั้น โดยชูความเป็นศิวิไลซ์กว่าตามแบบสังคมของชาวตะวันตก นำมาสู่การมีผัวเดียวเมียเดียว การไม่ฉุดบังคับหญิงสาวเพื่อแต่งงานด้วย (หน้า 93) |
|
Critic Issues |
การเผยแพร่ศาสนาคริสต์โดยมิชชันนารีชาวม้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ไปยังชาวม้งท้องถิ่นในเขตประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้กระบวนการสร้างความศิวิไลซ์แบบตะวันตก เพื่อให้เกิดการเผยแพร่ศาสนาข้ามพรมแดนรัฐชาติ ผ่านการติดต่อสื่อสารข้ามพรมแดน และยังเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีของกระแสโลกาภิวัตน์ เพื่อลดข้อจำกัดบางประการที่เกิดขึ้นในประเทศคอมมิวนิสต์ อาทิ ลาว เวียดนาม จีน ทำให้ในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา มีจำนวนชาวม้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับถือศาสนาคริสต์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก (หน้า 132 -138) |
|
Other Issues |
ชาวม้งคริสเตียน ได้มีวิธีคิดแบบคู่ตรงข้าม (binary opposition) ซึ่งค่อยๆ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ถึงความเชื่อที่ว่าการเป็นคริสเตียน เป็นทางแห่งความขาวสะอาดบริสุทธิ์ เป็นคุณงามความดี และเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็จะพานพบกับวิถีแห่งความสุข ขณะที่ความเชื่อแบบอื่นนั้นเป็นสิ่งน่ากลัวและนำพาไปในทางที่ไม่ดี เป็นสิ่งชั่วร้าย (หน้า 95)
ชาวม้งในท้องถิ่นที่หันมานับถือศาสนาคริสต์ ส่วนหนึ่งมีความคิดว่า หากตนได้ตายไปแล้วนั้นจะสามารถขึ้นสวรรค์และไถ่ถอนบาปของตนได้ ตามที่มิชชันนารีได้เผยแพร่ศาสนาไว้ (หน้า 97) |
|
Map/Illustration |
ภาพ
-
Otto Scheuzer มิชชันนารีชาวสวิสเซอร์แลนด์เทศนาเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าให้ชาวม้งที่จังหวัดตาก ช่วงทศวรรษ 1950 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้าที่ 1
-
ดอน รูลิสัน (Don Rulison) มิชชันนารีชาวอเมริกันเปิดแผ่นเสียงคำสอนเกี่ยวกับพระเจ้าให้ชาวม้ง ที่บ้านพักในเมืองเชียงใหม่ ปี ค.ศ. 1965 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 16
-
ครอบครัว Heimbach ที่บ้านป่าปาล์ม (Hav Nplooj) จังหวัดพิษณุโลก ค.ศ. 1955 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 60
-
ครอบครัว Rulison กับชาวม้งคริสเตียน กลุ่มแรกที่บ้านห้วยเหลือง จังหวัดตาก ปี ค.ศ. 1961 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 60
-
มิชชันนารีทำพิธีเผาอุปกรณ์ทำพิธีกรรมแก่ครอบครัวฉั่วซ้า หว้า (Tshuas Xab Vaj) ที่บ้านต้นน้ำเข็ก ปี ค.ศ. 1955 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 66
-
มิชชันนารีชาวอเมริกันทำพิธีศีลล้างบาปให้หญิงชาวม้ง บ้านต้นน้ำเข็ก อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มกราคม ค.ศ. 1957 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 79
-
มิชชันนารีนำโปสเตอร์เกี่ยวกับพระเยซูขึ้นแขวนแทนหิ้งบูชาของครอบครัวม้ง บ้านห้วยเหลือง จังหวัดตาก ปี ค.ศ. 1962 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 79
-
มิชชันนารีชาวอเมริกันกำลังสอนพระคัมภีร์ให้หญิงชาวม้ง บ้านป่ากลาง จังหวัดน่าน ปี ค.ศ. 1979 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 81
-
ศาสนาจารย์และผู้นำคริสเตียนชาวม้งทำพิธีและอธิษฐานให้ผู้ที่ต้องการการหนุนด้านจิตใจ (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) พฤษภาคม 2015 หน้า 82
-
ภาพวาดบนขององค์กรคริสเตียนม้งแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ หน้า 8
-
มิชชันนารีสอนหนังสือให้เยาวชนม้ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ค.ศ. 1958 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 86
-
มิชชันนารีชาวอเมริกันเปิดภาพพลิกขณะสอนศาสนาแก่ชาวม้ง จังหวัดพิษณุโลก ค.ศ. 1955 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 87
-
เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มิชชันนารีใช้ประกอบการเผยแพร่ศาสนา หน้า 89
-
มิชชันนารีอเมริกันพันแผลให้เด็กม้ง จังหวัดตาก ปี ค.ศ. 1957 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 91
-
การประชุมม้งคริสเตียนเพื่อหนุนใจและสานสัมพันธ์ที่จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ 2556 (ถ่ายโดยประสิทธิ์ ลีปรีชา) หน้า 98
-
งานประชุมเทศกาลพระเยซู วันที่ 22-24มิถุนายน 2555ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หน้า 110
-
รสบัสเช่าจากอุดรธานี (กลุ่มม้งคริสเตียนจากลาว) และจังหวัดสุโขทัย หน้า 110
-
งานเทศกาลพระเยซูคริสต์ (Yexus Fest) ครั้งที่สอง (17-20กรกฎาคม 2557) ณ สนามกีฬาเชียงใหม่ 700ปี หน้า 112
-
ปัญญา คีรีสัตยกุล (ถือปริญญาบัตร) ม้งคนแรกในประเทศไทยที่จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปี พ.ศ. 2521เป็นผลของการสนับสนุนด้านการศึกษา จากมิชชันนารีชาวอเมริกัน (อนุเคราะห์ภาพโดย Imogene Williams) หน้า 124
-
คณะมิชชันนารีและม้งคริสเตียนจากบ้านห้วยเหลือง จังหวัดตาก เยี่ยมกลุ่มม้งคริสเตียนที่บ้านป่าปาล์ม (Hav Nploopj) จังหวัดพิษณุโลก ค.ศ. 1958 (อนุเคราะห์ภาพโดยครอบครัว Rulison) หน้า 131
ตาราง
-
รายชื่อมิชชันนารีชาวตะวันตกที่ทำงานเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์แก่ชาวม้งในประเทศไทย หน้า 62
|
|
|