|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
คนใต้, ศีลธรรม, การเมือง, นครศรีธรรมราช, การเมืองคนใต้, การเมืองนครศรีธรรมราช |
Author |
อนุสรณ์ อุณโณ |
Title |
เกิดมาหนึ่งชาติต้องได้กราบพระธาตุเมืองนคร |
Document Type |
หนังสือ |
Original Language of Text |
ภาษาไทย |
Ethnic Identity |
-
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) |
Total Pages |
152 |
Year |
2560 |
Source |
ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
หนังสือเล่มนี้เป็นการศึกษาแนวคิดทางการเมืองของคนในหมู่บ้านเกาะ (นามสมมุติ) ตำบลหน้าท่า อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านการลงพื้นที่ภาคสนาม สัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ในพื้นที่ที่สะท้อนแนวคิดทางการเมืองผ่านมิติของสังคมวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับกลุ่มบุคคล อาทิ เครือญาติ พวกพ้องหรือการยกย่องครูซึ่งเป็นอาชีพที่มีเกียรติและสร้างความก้าวหน้าในชีวิตได้ การนับถือนักเลงไก่ชนที่มีลักษณะใจกว้าง ใจถึง ตลอดจนศิลปินพื้นบ้านที่แสดงออกแนวคิดทางการเมืองสู่ศิลปะพื้นบ้านต่าง ๆ ทั้งหมดนี้เป็นการหยั่งรากของแนวคิดทางการเมืองของคนใต้ที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ ซึ่งล้วนแสดงออกถึงความเป็นพวกพ้องว่าเป็นสิ่งสำคัญและมีอิทธิพลต่อแนวคิดทางการเมืองมาโดยตลอด และได้แสดงออกต่อการเมืองในระดับชาติที่ศรัทธาต่อพรรคประชาธิปปัตย์ ตั้งแต่ครั้งนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ตลอดจนการที่คนภาคใต้สนับสนุนแนวคิดของกลุ่มพันธมิตรในช่วงแรก แม้ว่าชนชั้นหรือฐานะทางสังคมของคนในภาคใต้จะเหมือนกับคนในภาคเหนือหรือภาคอีสานที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายประชานิยม แต่ต่างแสดงออกเกี่ยวกับแนวคิด ความเชื่อมั่นทางการเมืองที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นในประเทศ
|
|
Focus |
หนังสือเล่มนี้ต้องการนำเสนอมุมมองของคนใต้ ในหมู่บ้านเกาะ (หมู่บ้านกรณีศึกษาสมมติ ผู้ศึกษาต้องใช้นามสมมติเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ หรือความมั่นคงต่อผู้ให้สัมภาษณ์กับการศึกษาในครั้งนี้) จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านการสะท้อนด้านสังคมและวัฒนธรรมที่หล่อหลอมแนวคิด และวิถีปฏิบัติของคนในพื้นที่ต่อเรื่องการเมืองการปกครองทั้งในระดับท้องถิ่น ไปจนถึงการเมืองระดับชาติที่มีความแตกต่างจากความแนวคิดทางการเมืองของคนในพื้นที่ภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย
|
|
Theoretical Issues |
ผู้เขียนชี้ให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต และภูมิหลังของคนในภาคใต้ว่าเป็นพื้นที่ที่เข้าสู่ระบบทางเศรษฐกิจก่อนที่รัฐจะเข้ามาจัดการพื้นที่ จึงทำให้แนวคิดทางการเมืองของคนในภาคใต้ แตกต่างจากคนในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทยที่ต้องรอความช่วยเหลือผ่านนโยบายจากพรรคการเมืองพรรคต่าง ๆ ตลอดจนผู้เขียนได้ทบทวนมิติทางสังคมวัฒนธรรมของคนใต้ที่ได้รับอิทธิพลทางการเมืองอย่างฝังรากลึกผ่านการสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ที่สะท้อนความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกต่อตัวบุคคลทางการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่น จนถึงการเมืองระดับชาติ
|
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
|
Settlement Pattern |
หมู่บ้านกรณีศึกษาสมมติ (บ้านเกาะ) ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าท่า อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่รวมราว 2,668.75 ไร่ หรือมีพื้นที่ราว 4.27 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมตั้งถิ่นฐานบริเวณฝั่งตะวันออกที่ติดกับอ่าวไทย มากกว่าการตั้งถิ่นฐานทางตะวันตก ที่มีคลองหัวไทรเป็นขอบเขต ทั้งนี้ ประชากรที่อาศัยในพื้นที่ปัจจุบัน เป็นคนดั้งเดิม และย้ายมาจากจังหวัดสงขลา และบริเวณใกล้เคียง
|
|
Demography |
พ.ศ. 2554 ชาวบ้านหมู่บ้านเกาะมีประชากร 1,340 คน 368 ครัวเรือน เป็นชาย 651 คน และหญิง 689 คน |
|
Economy |
ชาวบ้านเกาะมีรายได้ต่อปีราว 131,645.54 บาท ต่อครัวเรือน โดยในอดีตชาวบ้านมีการเพาะปลุกข้าวบริเวณทุ่งระโนด (ติดกับพื้นที่อำเภอหัวไทร) ทำน้ำตาลโตนด และต้มเหล้าจากน้ำตาล ช่วงพ.ศ. 2520 มีการบุกเบิกทางการประมง จึงเริ่มมีการขยายตัวของเศรษฐกิจประมงมากขึ้น จนเมื่อพ.ศ. 2530 มีการเลี้ยงกุ้งกุลาดำซึ่งสร้างปัญหาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นราคาต้นทุนสูง ราคาขายตกต่ำ และโรคในกุ้ง ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจจึงเป็นการประมงทะเล และระบบแพ โดยทั้งหมู่บ้านมีเรือประมง 90 ลำ และมีชาวบ้านทำประมงราว 200-250 คน อย่างไรก็ตาม การทำประมงดังกล่าวก่อให้เกิดรายได้ไม่เพียงพอตลอดทั้งปี เนื่องจากมีช่วงมรสุมระหว่างเดือนตุลาคม ถึงมกราคมที่สามารถออกเดินเรือได้เพียงเดือนละ 1 สัปดาห์ ชาวประมงจึงต้องหารายได้อื่นเสริม เช่น การปลดซากสัตว์น้ำจากอวน การแยกขยะออกจากอวนหรือการรับจ้างทั่วไป อย่างการคัดกุ้งที่สร้างรายได้ได้มาก มักเป็นงานของผู้หญิง และต้องทำงานเป็นทีม ส่วนงานของผู้ชายจะแบ่งงานเป็นทีมจับ และทีมท่อ คือการสูบน้ำ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงกุ้งขาว ที่ใช้ต้นทุนสูงกว่าการเลี้ยงกุ้งกุลาดำจึงไม่นิยมมาก แต่มีปัญหาด้านโรคในกุ้งน้อยกว่ากุ้งกุลาดำมาก
สำหรับอาชีพอื่นๆ ภายในหมู่บ้านเกาะ ได้แก่ อาชีพรับราชการ ค้าขาย ธุรกิจส่วนตัว รัฐวิสาหกิจ และการทำประมงน้ำกร่อย
|
|
Social Organization |
ลักษณะสังคมที่ปรากฎในหนังสือเล่มนี้เป็นการเชื่อมโยงแนวคิดทางการเมืองในมิติทางสังคมวัฒนธรรมของชาวหมู่บ้านเกาะกับบุคคลต่าง ๆ ในสังคมในพื้นที่นั้น โดยไม่สามารถแยกกันได้ ประกอบด้วย
1) ความเป็นเครือญาติ อันเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวของคนในพื้นที่ โดยเป็นทั้งทุนทางสังคม และเป็นผู้สนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเมืองที่ไว้ใจคนที่เป็นพวกพ้อง หรือเครือญาติมากกว่าสิ่งอื่น
2) ครู อาชีพภายใต้อุดมคติของการได้เป็นเจ้าคนนายคน และเป็นอาชีพที่มีเกียรติซึ่งมักจะได้รับตำแหน่งสำคัญในหมู่บ้านอยู่เสมอ
3) นักเลงไก่ชน ถือเป็นกลุ่มคนที่ช่วยแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ได้ดีกว่าการแก้ไขของภาครัฐ ถือว่าเป็นที่พึ่งพิงหนึ่งของบุคคลในพื้นที่ภาคใต้คนเหล่านี้มีลักษณะเป็นคนใจกว้าง และใจถึง
4) ศิลปินพื้นบ้าน ที่แสดงอออกความคิดทางการเมืองสู้ศิลปะพื้นบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ การเสียดสีล้อเลียนต่าง ๆ ในการแสดงหนังตะลุง หรือมโนราห์
|
|
Political Organization |
การปกครองในระดับท้องถิ่น ถึงการเมืองระดับชาติของชาวหมู่บ้านเกาะประกอบด้วยปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมที่หล่อหลอมแนวคิดด้านการเมืองอย่างแน่นแฟ้น ทั้งในระดับเครือญาติ หรือตำแหน่งต่าง ๆ ทางสังคมที่เป็นที่นับหน้าถือตา ที่ล้วนสะท้อนให้เห็นว่า แนวคิดทางการเมืองเป็นการยึดถือและเชื่อใจพวกพ้องหรือตัวบุคคลนั้นๆเป็นหลัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลงานหรือผลลัพท์ที่จะเกิดขึ้นทางการเมือง เนื่องจากคนในภาคใต้ไม่ได้มีความคาดหวังที่จะให้รัฐเข้ามาพัฒนาสิ่งใด ๆ เหมือนกับคนในภาคอื่น ๆ ของประเทศ
ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้นำเสนอทัศนคติทางการเมือง ของชาวหมู่บ้านเกาะผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นใน 2 ระดับ ดังนี้
1) การเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับผู้ใหญ่บ้านจากกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้เขียนได้ลงพื้นที่ พบว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการลงสมัครจากตระกูลที่เป็นที่รู้จักของท้องถิ่น ต่างกันแค่เพียงภูมิหลังที่บุคคลหนึ่งมีประวัติในการเป็นผู้ใหญ่บ้านคนเก่า และเป็นผู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และอีกคนหนึ่งที่เป็นมือใหม่ และเป็นผู้คัดค้านโครงการดังกล่าว แม้ว่าทั้งคู่มาจากตระกูลเดียวกันแต่ต่างกันในระดับรุ่นอาและหลาน ประกอบกับเสียงของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ก็ไม่สามารถทำให้ผู้นำที่มีแนวคิดเช่นเดียวกันชนะการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเกมการเมืองที่เล่นผ่านการใช้เครือข่ายหัวคะแนน(เครือญาติ) การวางแผนเข้าถึงพื้นที่ก่อนการเลือกตั้ง ก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดของคนในพื้นที่ที่แม้ว่าจะได้ผู้นำที่มีแนวคิดต่างจากตน แต่มีความเชื่อใจในตัวบุคคลดังกล่าวมากกว่าความถูกต้องก็ตาม
2) การเมืองระดับชาติ นับแต่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี คนภาคใต้ได้เกิดความศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าลงในสนามการเลือกตั้งในภาคใต้ ต่างได้รับการลงคะแนนอย่างเอกฉันท์ เนื่องจากนายชวน หลีกภัย ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่ใจซื่อ มือสะอาด เป็นตัวแทนของความสุจริต มีศีลธรรม มีโวหารที่ดี อีกทั้งภาพลักษณ์ของพรรคยังแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ อันเป็นธรรมเนียมที่คนใต้ชื่นชอบ จึงทำให้คนใต้ยึดติดกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเกิดความขัดแย้งทางเมืองครั้งใหญ่ คนใต้ได้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรในช่วงแรกที่ต้องการขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง ในสมัยนั้น แต่ต่อมากลุ่มพันธมิตรได้แปรเปลี่ยนแนวคิด และวิธีปฏิบัติจึงเกิดการแบ่งพวกออกเป็น 2 ฝ่าย
|
|
Belief System |
ยึดถือแนวปฏิบัติในการรวมญาติ ช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ และเทศกาลสงกรานต์ จนมีคำเรียกว่า สาวย่านนับโยด (สาวญาตินับโยด) ที่เป็นการสืบสาวสายโลหิตร่วมกัน
|
|
Map/Illustration |
แผนที่
- ที่ตั้งและลักษณะทางภูมิศาสตร์บ้านเกาะ น.10
ตาราง
- อาชีพและจำนวนผู้ประกอบอาชีพในบ้านเกาะ (พ.ศ.2555) น.30
- ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช น.82-83
แผนภูมิ
- เครือญาติตระกูลนินเรียม น.62 |
|
|