|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ลาหู่ อาหารท้องถิ่น ข้าวปุก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ภาคเหนือ ประเทศไทย |
Author |
กมลวรรณ วังมณี |
Title |
อาหารท้องถิ่นไทยในมิติวัฒนธรรม: กรณีศึกษา ข้าวปุกของชาวเขาเผ่าอาข่า และลาหู่ ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
- |
Ethnic Identity |
ลาหู่ ลาหู่ ละหู่ ลาฮู,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
[เอกสารฉบับเต็ม] |
Total Pages |
85 |
Year |
2551 |
Source |
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย |
Abstract |
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมของการผลิตและบริโภคข้าวปุก และกระบวนการผลิตข้าวปุก ของชนเผ่าอาข่าและลาหู่ ให้เป็นผลิภัณฑ์เพื่อจำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้สนใจ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสังเกต สัมภาษณ์เพื่อบันทึกข้อมูล และจดบันทึกบรรยากาศขณะสัมภาษณ์ ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเริ่มด้วยการถ่ายเสียงจากเครื่องบันทึกเสียงเป็นลายลักษณ์อักษร ผลการศึกษาพบว่า ข้าวปุกเป็นอาหารที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ประเพณี พิธีกรรมของชนเผ่าอาข่า และลาหู่ เป็นอาหารที่ทำขึ้นมามิใช่เพื่อการบริโภคอย่างแท้จริงแต่เป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมของชาวอาข่า และลาหู่ โดยเป็นการตอบสนองความต้องการจำเป็นทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นความต้องการนอกเหนือจากความต้องการทางด้านร่างกาย และมีบทบาทในการตอบสนองทางด้านจิตใจแก่คนในชุมชน การผลิตและบริโภคข้าวปุก มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมต่างๆ ดังนี้ คือ วัฒนธรรมด้านพิธีกรรมและความเชื่อ วัฒนธรรมด้านสังคมสัมพันธ์ วัฒนธรรมด้านจริยธรรม วัฒนธรรมด้านสุขภาพ โดยมีความเชื่อเกี่ยวกับความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง วิญญาณบรรพบุรุษและพระเจ้า ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและเครือญาติ แล้วขยายออกไปเป็นความสัมพันธ์ในชุมชนและนอกชุมชน การผลิตและบริโภคข้าวปุก เป็นการกระทำที่มีผลทางด้านจิตใจ การถ่ายทอดและสืบทอดวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวปุกมีการถ่ายทอด โดยการประกอบพิธีกรรม ในประเพณีและเทศกาล ด้านกระบวนการผลิตข้าวปุกพบว่า ผู้ผลิตขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขลักษณะอาหาร ทำให้อาหารไม่มีความปลอดภัย ในด้านการถนอมข้าวปุก ชาวอาข่าและชาวลาหู่ใช้วิธีการถนอมอาหารโดยวิธีการตากแห้ง ด้านการผลิตข้าวปุกเพื่อการจำหน่าย เป็นการจำหน่ายแก่คนในชุมชนเป็นหลักและมีการจำหน่ายเพียงเฉพาะฤดูกาล ข้อเสนอแนะในการศึกษาควรมีการศึกษาข้าวปุกของชนเผ่าอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบ และศึกษาความคงที่และความแปรเปลี่ยนของข้าวปุกในมิติๆของวัฒนธรรม และควรมีการศึกษาเพื่อพัฒนาข้าวปุกให้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป |
|
Focus |
งานศึกษาเรื่องนี้มุ่งเน้นความสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมของการผลิตและการบริโภคข้าวปุกของชาวอาข่าและลาหู่และศึกษากระบวนการผลิตข้าวปุก ตำบลแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย |
|
Theoretical Issues |
งานศึกษาเรื่องนี้ใช้แนวทางการเก็บข้อมูลภาคสนามด้านประเพณี พิธีกรรม และการบริโภคข้าวปุก โดยพิจารณาจากวัตถุดิบ กระบวนการผลิตและการถนอมอาหาร ตลอดจนการจำหน่าย |
|
Demography |
ตำบลแม่ฟ้าหลวงมีหมู่บ้านหลักจำนวน 19 หมู่บ้าน และบ้านบริวารจำนวน 5 บ้าน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตำบลแม่ฟ้าหลวง มีประมาณ 6 เผ่า คือ อาข่า ลาหู่ ไทยใหญ่ ไทยลื้อ โดยชนเผ่าอาข่าในอาศัยในตำบลแม่ฟ้าหลวง (หน้า, 62) |
|
Social Organization |
การผลิตข้าวปุกของชาวอาข่าในตำบลแม่ฟ้าหลวงพิจารณาความสัมพันธ์ออกเป็น 2 ระดับ คือความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและเครือญาติ เห็นจากมีการร่วมมือกันผลิตข้าวปุก ฝ่ายผู้หญิงมีหน้าที่ในการตักน้ำศักดิ์มาแช่ข้าวเหนียว นึ่งข้าวเหนียว คั่วงา ปั้นข้าวปุก ฝ่ายผู้ชายทำหน้าที่ตำข้าวปุก และหลังการทำพิธีกรรมเซ่นไหว้ จะมีการแบ่งปันอาหารให้กับบุคคลในครอบครัวรับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะต้องกลับมาบ้านเพื่อทำพิธี เป็นพิธีที่บรรดา ปู่ ย่า ตา ยาย ของตระกูลต่างๆ ที่ล่วงลับไปแล้วและอาศัยอยู่กับเทพเจ้า จำนวน 7 ชั่วโคตร ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อสำรวจสมาชิกในโลกมนุษย์ของแต่ละตระกูลว่า เกิด แก่ เจ็บตาย เท่าใด และยังมีการนำข้าวปุกไปให้ผู้อาวุโสรับประทานก่อน เป็นการแสดงความเคารพนับถือ การระลึกถึงบรรพบุรุษเป็นจริยธรรมที่ชาวเขาเผ่าอาข่าต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดและความสัมพันธ์กับสังคมภายนอกมีการเชิญผู้อาวุโส แขกต่างหมู่บ้าน ข้าราชการในพื้นที่มารับประทานอาหารในประเพณีและเทศกาลต่างๆ และนำข้าวปุกมาใช้เลี้ยงรับรองและนำเป็นของฝากนำกลับบ้าน (หน้า, 63-64) |
|
Belief System |
ปัจจุบัน ชาวลาหู่ตำบลแม่ฟ้าหลวงนับถือศาสนาคริสต์ ยังเหลือเพียงบ้านลาบาซึ่งเป็นมูเซอแดง ที่ยังคงนับถือศาสนาพุทธ แต่การสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณีปีใหม่ (เขาะจาเว) ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันผู้ที่เป็นผู้นำ (ผู้ใหญ่บ้าน) จะเป็นผู้กำหนดวัน เวลา ในการจัดปีใหม่ ซึ่งปัจจุบันจะอ้างอิงกับปฏิทินของชาวจีน เนื่องจากวันปีใหม่ของชาวชนเผ่ามูเซอจะใกล้เคียงกับตรุษจีนและในเทศกาลปีใหม่ของลาหู่จะให้ความสำคัญกับการรื่นเริง ดังเห็นได้จากจะมีการเต้นรำตลอดทั้งคืนที่มีเทศกาล ส่วนวัตถุประสงค์ในการผลิตข้าวปุกเพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรม เซ่นไหว้บรรพบุรุษและรับรองแขกผู้มาเยี่ยมเยือน เป็นที่น่าสังเกตว่า ประเพณีและเทศกาลต่างๆ อาหารที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษจะใช้ข้าวปุก น้ำชาต้ม เหล้า ข้าวเปล่า ไก่ดำ (ใช้เฉพาะน่องไก่ ตับไก่ อกไก่ เนื้อไก่) ส่วนการจัดเตรียมอาหารที่ใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ ฝ่ายผู้หญิงมีหน้าที่ในการแช่ข้าว นึ่งข้าว คั่วงาและเกลือ ปั้นข้าวปุก ส่วนการตำข้าวปุกและต้มข้าวปุกเป็นหน้าที่ของผู้ชาย ในพิธีเซ่นไหว้ ชาวบ้านจะนำ ข้าวปุก เหล้า น้ำขาต้ม และข้าวบริสุทธิ์ และไก่ ใส่ถ้วยหรือตะกร้าวางไว้บนขันโตก วางไว้หน้าหิ้งบรรพบุรุษ จุดเทียน กล่าวเชิญบรรพบุรุษมารับเครื่องเซ่นไหว้ โดยผู้ที่ทำพิธีจะหันหลังให้ขันโตกเพื่อบรรพบุรุษจะได้มารับของเซ่นไหว้อย่างสะดวกใจ หลังเสร็จจากการประกอบพิธี ผู้ทำพิธีจะหยิบของทุกอย่างรับประทานก่อนอย่างละคำ แล้วจึงหยิบแจกให้แก่คนในครอบครัวและผู้เข้าร่วมพิธี โดยข้าวปุกต้องใช้วิธีการบิเป็นชิ้นเล็กๆ ห้ามใช้มีดตัด ถือเป็นอาหารที่เชื่อว่าเป็นสิริมงคล โดยชาวอาข่ามีความเชื่อในเรื่องความเป็นสิริมงคลซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบพิธี และบุคคลในครอบครัวที่เซ่นไหว้ได้รับความสุขความเจริญในทุกๆ ด้าน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น นอกจากนี้ ชาวลาหู่ยังมีวัตถุประสงค์ในการผลิตข้าวปุกเพื่อใช้เป็นของเซ่นไหว้พระเจ้า “อื้อซา” และใช้ในการรับรองแขกผู้มาเยี่ยมเยือนชาวลาหู่ในเทศกาลปีใหม่ (เขาะจาเว) ซึ่งในวันแรกของเทศกาลปีใหม่ ซึ่งการบูชานี้เป็นเครื่องเตือนใจที่พระเจ้าประทานสัญญาแก่ชาวลาหู่ โดยพระเจ้าได้เขียนสัญญาไว้บนข้าวปุก ข้าวปุกของชาวลาหู่ทำจากข้าวของทุกบ้านในหมู่บ้านเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีพึ่งพาอาศัยกัน เทศกาลปีใหม่ของชาวลาหู่ยังมีการรดน้ำดำหัว พ่อแม่ และคนในหมู่บ้าน ตลอดจนผู้อาวุโสประจำหมู่บ้านพร้อมทั้งขอพรจากผู้อาวุโส (หน้า, 62-63) |
|
Education and Socialization |
การถ่ายทอดวัฒนธรรมชาวลาหู่พบเห็นจากขนบธรรมเนียมประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ในการดำเนินชีวิต วิธีปฏิบัติต่อกัน ข้อห้าม ข้อปฏิบัติ หรือแฝงไปด้วยความเชื่อต่างๆ โดยตัวแทนของชุมชนลาหู่ที่มีอิทธิพลในการถ่ายทอดและสืบทอดทางวัฒนธรรมคือ ผู้นำในการประกอบพิธีกรรม ขณะที่ถ่ายทอดโดยการให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ประเพณีเหล่านี้มีความสนุกสนานและดึงดูดใจ (หน้า, 65) |
|
Health and Medicine |
การผลิตและบริโภคข้าวปุก เป็นการกระทำที่มีผลทางด้านจิตใจ คือ ความกตัญญูกตเวที เกิดจากการสำนึกบุญคุณของบรรพบุรุษและพระเจ้า จึงมีการระลึกถึงโดยการเซ่นไหว้ ก่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มเครือญาติ และคนภายในชุมชน และการบริโภคข้าวปุก ยังส่งผลให้ชาวลาหู่มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงเนื่องจากข้าวปุกเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ (หน้า, 64) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
การผลิตและการบริโภคข้าวปุกของชาวลาหู่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมด้านพิธีกรรมและความเชื่อ วัฒนธรรมด้านสังคมสัมพันธ์ วัฒนธรรมด้านจริยธรรม วัฒนธรรมด้านสุขภาพ โดยจะเห็นได้การผลิตและการบริโภคข้าวปุกมีความเชื่อเกี่ยวกับความเป็นสิริมงคล ความเชื่อเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรือง ความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณบรรพบุรุษและพระเจ้า ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและเครือญาติ แล้วขยายออกเป็นความสัมพันธ์ภายในชุมชนและนอกชุมชน (หน้า, 62-65) |
|
Social Cultural and Identity Change |
กระบวนการผลิตข้าวปุกของชาวลาหู่ในเทศกาลต่างๆ พบความบกพร่องของการผลิตข้าวปุกตามหลักการประกอบอาหารที่ปลอดภัย โดยเฉพาะภาชนะและอุปกรณ์ในการผลิตไม่ถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร ผู้ผลิตข้าวปุก ไม่สวมหมวกเพื่อป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผม ไม่ล้างมือก่อนการปรุงอาหาร เล็บยาว ไม่มีการป้องกันแมลงไต่ตอม ฝุ่น ตลอดจนสัตว์เลี้ยง มีสิ่งของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตอยู่ในบริเวณ และมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในสถานที่ผลิต ไม่ทำการล้างอุปกรณ์ในการผลิตหลังผลิตเสร็จ ทำให้อุปกรณ์ในการผลิตข้าวปุกไม่สะอาด น้ำที่ใช้นำมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ได้ผ่านกระบวนการทำให้สะอาดก่อน
ชาวอาข่าและลาหู่มีวิธีบริโภคข้าวปุกโดยการปิ้ง แล้วใส่น้ำตาลอ้อยหรือราดด้วยนมข้นหวาน และมีวิธีการเก็บถนอมข้าวปุก โดยวิธีการตากแห้ง การเก็บถนอมอาหารด้วยวิธรการตากแห้งจะใช้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ และมีการใช้ใบชาหรือใบสนวางรองพื้นข้าวปุกเนื่องจากใบชามีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นและความชื้นทำให้ข้าวปุกแห้งเร็วขึ้น ทำให้ข้าวปุกแห้งสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน ประมาณ 5-7 วัน ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายชาวลาหู่ที่นับถือศาสนาคริสต์สามารถ ผลิตข้าวปุกจำหน่าย โดยจำหน่ายสำหรับคนในชุมชนเป็นหลักและผลิตในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากเป็นช่วงที่งาจะออกใหม่ การจำหน่ายข้าวปุกจะใช้วิธีปิ้งและใส่น้ำตาลอ้อยข้างใน โดยจำหน่ายในราคา แผ่นละ 10 บาท แต่สำหรับชาวลาหู่ที่นับถือบรรพบุรุษมีข้อจำกัดในเรื่องของวัฒนธรรมจึงไม่สามารถผลิตข้าวปุกเพื่อการจำหน่ายได้ (หน้า, 66) |
|
Map/Illustration |
ภาพ
ข้าวปุก หรือห่อถ่อง ของชาวอาข่า (หน้า,16)
กระบวนการผลิตข้าวปุก (หน้า,17)
ชาวเขาเผ่าอู่โล้อาข่า (หน้า, 35)
นายอำพล และนางทิพวรรณ อภิสุรทรกุล ชาวเขาเผ่าลอมี้อาข่า (หน้า, 36)
ชาวเขาเผ่าลาหู่นะ หรือมูเซอคริสต์ (หน้า, 37)
ชาวเขาเผ่าลาหู่ญิ หรือมูเซอแดง (หน้า, 38)
หิ้งบรรพบุรุษของชาวอาข่า (หน้า, 45)
ขันโตกเครื่องเซ่นไหว้ สำหับเซ่นไหวบรรพบุรุษ (หน้า, 46)
นางทิพรรณ อภิสุนทรกุล เซ่นไหว้บรรพบุรุษ (หน้า, 46)
นางทิพรรณ อภิสุนทรกุล แบ่งเครื่องเซ่นไหว้ให้บุคคลในครอบครัว (หน้า, 49)
บ้านเรือนของชาวลาหู่ (หน้า,51)
การเต้นรำฉลองปีใหม่ของชนเผ่าลาหู่ (หน้า, 52)
การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ของชาวลาหู่ (หน้า, 53)
การแช่ข้าวเหนียว (หน้า, 56)
การนึ่งข้าวเหนียว (หน้า, 56)
การคั่วงาและเกลือ (หน้า, 57)
การตำข้าวปุกของชาวอาข่าและลาหู่ (หน้า, 57)
ข้าวปุก โดยชิ้นที่ใหญ่ที่สุดถือเป็นตัวแม่ข้าวปุก (หน้า, 58)
ข้าวปุกที่ดูไม่สะอาดและปนเปื้อน (หน้า, 59)
ข้าวปุกราดนมข้นหวาน (หน้า, 60) |
|
|