สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database
Sorted by date | title

   Record

 
Subject มอญบางกระดี่, ความเชื่อ, พิธีกรรมรำผีมอญ, กรุงเทพมหานคร, ภาคกลาง, ประเทศไทย
Author พิมพ์เพ็ญแข วรรณป้าน
Title การศึกษาความเชื่อเรื่องพิธีกรรมการรำผีของชาวมอญ: กรณีศึกษาชุมชนมอญบางกระดี่
Document Type - Original Language of Text -
Ethnic Identity มอญ รมัน รามัญ, Language and Linguistic Affiliations -
Location of
Documents
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร 
[เอกสารฉบับเต็ม]
Total Pages 111 Year 2549
Source มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
Abstract

          ความเชื่อเรื่องพิธีกรรมการรำผีของชาวมอญ ชุมชนมอญบางกระดี่มีลักษณะความเชื่อแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ความเชื่อเกี่ยวกับผี ซึ่งผีที่ชาวมอญนับถือ ผีประจำหมู่บ้านและผีบรรพบุรุษ ผีประจำหมู่บ้าน มีหน้าที่คุ้มครองปกปักรักษาดูแลคนในหมู่บ้าน ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ผีประจำหมู่บ้านมอญบางกระดี่ คือ ศาลเจ้าพ่อบางกระดี่ ศาลเจ้าแม่หัวระหาญและศาลเจ้าพ่อท้ายทุ่ง ซึ่งมีความสำคัญทางด้านจิตใจและเป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้าน และผีบรรพบุรุษหรือปาโหนกเป็นผีที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยจะสืบทอดกันมาทางฝ่ายชาย ผีบรรพบุรุษมีหน้าที่คุ้มครองกันอันตราย และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ในการนับถือผีบรรพบุรุษนั้น ชาวมอญเชื่อว่า มีการนับถือสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษอยู่ที่เมืองมอญและผีมอญที่ชาวบ้านมอญบางกระดี่เคารพ แบ่งแยกตามตระกูล ซึ่งแต่ละตระกูลจะมีการนับถือผีที่แตกต่างกัน ผีมอญของชาวบางกระดี่นี้ ได้แก่ ผีเต่า ผีงู ผีไก่ ผีข้าวเหนียว และผีม้า ความเชื่อ ของชาวมอญบางกระดี่ที่มีต่อผีบรรพบุรุษนั้น ชาวมอญเชื่อว่าถ้าผู้ใดทำผิดกฎข้อห้าม ถ้าผู้ใด ฝ่าฝืนจะทำให้เกิดเหตุเภทภัยกับเจ้าบ้านหรือคนในตระกูล ผีบรรพบุรุษจึงเป็นที่พึ่งทางใจและมีบทบาทในระดับเครือญาติ ที่เป็นตระกูลเดียวกัน โดยทำให้ไม่ลืมบรรพบุรุษ และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเคารพในผีบรรพบุรุษ ชาวมอญในแต่ละตระกูลก็จะมีการเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษเป็นประจำทุกปี ชาวมอญมีความนับถือผีมาก ดังนั้น กฎข้อห้ามที่ไม่พึงปฏิบัติ ชาวมอญจึงยึดถืออย่างเคร่งครัด ซึ่งจะเกรงกลัวต่อการทำผิดกฎหรือละเมิดกฎโดยพลการ และการนับถือผีจะเป็นกุสโลบายที่สร้างความผูกพันกันทั้งในระบบเครือญาติ โดยการนับถือปาโหนกหรือผีบรรพบุรุษ และในระบบชุมชนโดยการนับถือบรรพบุรุษ ผลที่ได้จะทำให้ชาวบ้านมอญ บางกระดี่ที่มีความสามัคคีปรองดองกัน จากการศึกษากระบวนการแบบพิธีกรรมการรำผีของชาวมอญ พบว่า มีการทำพิธีเหมือนแบบดั้งเดิม ทำกันในระบบเครือญาติ ซึ่งพิธีกรรมการรำผี จะเกิดจากคนในตระกูลทำผิดกฎ จึงจัดวิธีแก้ด้วยการรำผี การรำผี เป็นงานที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมและมีขั้นตอนในการทำพิธีกรรมการรำผีอย่างละเอียด ซึ่งพิธีกรรมการรำผีนี้ได้เป็นการรวมตัวของผู้ที่นับถือผีเดียวกัน หรือตระกูลเดียวกัน และในการประกอบพิธีกรรม จะต้องมีการร่ายรำพร้อมทั้งมีวงป่พี าทย์บรรเลงเพลงประกอบ ซึ่งพิธีกรรมการรำผีนี้เป็นความเชื่อของชาวมอญมาตั้งแต่โบราณกาลและเป็นพิธีความเป็นอยู่ของชาวมอญ และพิธีกรรมต่างๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตายและยังเป็นพิธีที่ชาวมอญเชื่อว่า เมื่อทำพิธีกรรมการรำผีแล้ว สิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับคนในตระกูลก็จะหมดไปตามความเชื่อของชาวมอญ กล่าวโดยสรุป การถ่ายทอดพิธีกรรมการรำผีของชาวมอญนั้นมีลักษณะที่เป็นการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และการได้รับการถ่ายทอดโดยไม่มีการร่ำเรียนเป็นกิจลักษณะ แต่เป็นการถ่ายทอดโดยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งการเรียนรู้นี้มี 3 รูปแบบ คือ การกำหนดจากการบอกเล่า การถ่ายทอดโดยการเห็นจากพิธีกรรมจริงและการถ่ายทอดโดยการปฏิบัติจริงล้วนแต่มีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวมอญ 

Focus

          ศึกษาวิเคราะห์พิธีกรรมการรำผีของชาวมอญวัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน ในประเด็น ความเชื่อ การถ่ายทอดและกระบวนแบบพิธีกรรม

Theoretical Issues

          ใช้วิธีศึกษาเอกสารตรวจสอบความเป็นมาของกลุ่มคนมอญและเรื่องราวพิธีกรรมผีมอญ ผสานเข้ากับการทำงานภาคสนาม 

Ethnic Group in the Focus

          มอญบางกระดี่ 

Study Period (Data Collection)

         งานภาคสนามช่วงปี พ.ศ. 2548-2549 

History of the Group and Community

          ประวัติที่มาของหมู่บ้านชุมชนมอญวัดบางกระดี่ เกิดจากความจำเป็นที่จะต้องหาพื้นที่หรือแหล่งทำมาหากินเพิ่มขึ้นของชาวมอญที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณใกล้อ่าวไทย ดังนั้น ชุมชนบางกระดี่ จึงเกิดขึ้นจากการขยายที่ทำมาหากินของกลุ่มมอญบ้านแพ้วจังหวัดสมุทรสาคร และชาวมอญปากลัด จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีความสัมพันธ์ติดต่อกันโดยอาศัยคลองมหาชัยเป็นเส้นทางคมนาคม ต่างเห็นว่าพื้นที่แถบแสมดำมีป่าชายเลนและป่าจาก เหมาะที่จะเป็นแหล่งวัตถุดิบในการประอบอาชีพ ตัดฟืน และเย็บจากส่งขายกรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี จึงทยอยกันอพยพมาตั้งรกรากเพิ่มมากจากขึ้นจนกลายเป็นชุมชน (หน้า, 19-20)

Settlement Pattern

          ลักษณะชุมชนของมอญบางกระดี่เป็นชุมชนพึ่งตนเอง ซึ่งเป็นลักษณะของชุมชนชานเมืองหรือชุมชนชนบท ทุกบ้านปลูกพืชสวนผักครัวไว้รับประทาน มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันภายในชุมชน มีช่างฝีมือประชุมหมู่บ้าน ได้แก่ ช่างไม้ ช่างปลูกบ้าน นักดนตรี พ่อเพลงแม่เพลง ช่างอาหารคาวหวานมีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่เป็นที่จัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ ความสัมพันธ์ในชุมชนเป็นความสัมพันธ์ฉันเครือญาติ (หน้า, 19-22)

Demography

          นอกจากนี้ ชาวมอญบางกระดี่ยังมีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับทั้งมอญปากลัด พระประแดงมอญสามโคกและมอญปากเกร็ด นนทบุรี รวมทั้งมอญในแถบอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาครและแถบบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ชาวบ้านส่วนหนึ่งใช้นามสกุลที่บ่งเชื้อชาติและถิ่นที่อยู่ได้แก่ มะคนมอญ มอญดะ และปุงบางกระดี่ (หน้า, 19-22)

Economy

          ชาวมอญบางกระดี่ประกอบอาชีพ ส่วนใหญ่เย็บจากและมีการทำฟืนไว้ใช้ไม้โกงกาง ไม้ยางซึ่งมีในโฉนดที่ดินของตนเองและในการตัดก็จะเลือกเฉพาะกิ่งไม่ใช่ทั้งต้น และยังมีงานหัตถกรรมคือ การสาน เสื่อกกตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย การทำที่เกล้ามวยผมและส่งไปขายตามหมู่บ้านมอญอื่น จะสังเกตได้ว่า ชาวมอญ นิยมอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และบ้านเรือนที่สร้างจะอยู่ในละแวกเดียวกัน เมื่อมีพิธีแต่งงานจะมีทั้งที่อยู่กับครอบครัวฝ่ายชายและแยกครอบครัวไปอยู่บ้านใหม่ แต่ก็ยังมีการไปมาหาสู่กันได้เพราะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ส่วนอาชีพสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งชาวมอญมีส่วนด้วยคือ การรับราชการ ซึ่งในระยะแรกๆ สามารถจะบอกได้ว่า ผู้ใดบ้างที่เป็นชาวมอญ ซึ่งได้ทำประโยชน์ในราชการแผ่นดิน แต่ในระยะหลังๆ มานี้ ส่วนใหญ่ไม่สามารถจะชี้ตัวให้ชัดเจนได้ (หน้า, 20-21)

Belief System

          กันมาเป็นศิลปวัฒนธรรมของชาวมอญชาวมอญมีความเชื่อที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อยู่ 2ลักษณะ คือ การเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนากับการเชื่อถือผี โดยเฉพาะผีบรรพบุรุษ ความเชื่อเหล่านี้เห็นได้จากระเบียบข้อห้ามประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ในวิถีชีวิต ของชาวมอญ ซึ่งในบางพิธีกรรมจะเห็นว่า ชาวบ้านให้ความสำคัญเกี่ยวข้องทั้ง 2 ความเชื่อด้วยกันเมื่อกล่าวถึงวัฒนธรรมในลักษณะความเชื่อนี้ หมายถึง ความเชื่อทางศาสนาหรือความเชื่อในสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ สังคมทุกสังคมมีความเชื่อในสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง คำว่าศาสนาที่ใช้ในที่นี้ หมายถึง ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าคำสอนเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้เป็นคำสอนของศาสดา ความเชื่อในภูตผีปีศาจก็รวมเรียกเป็นความเชื่อทางศาสนา เพราะเป็นความเชื่อในสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ ลักษณะของสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์มีตัวอย่างเช่น พระภูมิเจ้าที่ ผีปู่ตา เจ้าเข้าทรง เทพเจ้า ฯลฯ ความเชื่อเป็นพื้นฐานให้เกิดการกระทำสิ่งต่างๆ ทั้งด้านดี ด้านร้าย คนโบราณจึงสร้างศรัทธาให้เกิดแก่ลูกหลาน เช่น ความเชื่อเรื่องภูตผี ว่ามีอิทธิฤทธิ์ที่จะบันดาลความสุขสวัสดีมาให้ และหากทำให้ผีโกรธ ก็จะนำความทุกข์ยากลำบากมาให้ด้วย ชาวมอญยังนับถือผีทั้งผีประจำหมู่บ้านและผีบรรพบุรุษ และปฏิบัติตนตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใด การนับถือผีก็ยังคงมีให้เห็น ซึ่งอาจเป็นเพราะชาวมอญได้นับถืออย่างแท้จริง จากการที่ได้เห็นพิธีกรรม จึงมีการสืบทอดและยังคงอยู่ต่อไป ชาวมอญมีความเชื่อและนับถือผี ทั้งผีบรรพบุรุษ ผีประจำหมู่บ้าน มีกฎหลายอย่างในการนับถือทั้งสิ่งที่ควรปฏิบัติ เช่น การเซ่นการไหว้ผี เป็นการบูชาเพื่อให้ปกปักรักษาให้อยู่ร่มเย็น และกฎข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ ด้วยความเชื่อนี้เอง จึงทำให้มีการทำพิธีเพื่อขอขมาโดยการรำผี (หน้า, 30-44)

Education and Socialization

          ผู้ศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าขั้นตอนการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวระบบบความเชื่อต่างๆ เช่น ความเชื่อเรื่องผีจะเป็นการส่งผ่านความรู้อีกรูปแบบหนึ่งของชุมชนมอญ

Health and Medicine

          ผู้ศึกษาเสนอมุมมองเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วหาสาเหตุไม่ได้ หรือรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่แล้วไม่หาย ชาวมอญจะเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเพราะประเพฤติผิดในผีหรือผิดผี จะจัดพิธีกรรมการรำผีขึ้นถึงจะหาย ซึ่งถือเป็นการแพทย์ทางอย่างหนึ่งที่ช่วยรักษาทางจิตใจ 

Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation)

          อัตลักษณ์สำคัญของมอญบางกระดี่จากงานศึกษาเรื่องนี้น่าจะสะท้อนผ่านความสัมพันธ์ทางเครือญาติ กล่าวคือ วิถีชีวิตของชาวมอญบางกระดี่ ยังคงอยู่ในรูปแบบเดิมคืออยู่กันในระบบเครือญาติโดยมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในชุมชนด้วย เพราะชุมชนมอญบางกระดี่มีความเชื่อในการนับถือผี และผีที่นับถือก็มีผีบรรพบุรุษและผีประจำหมู่บ้าน ซึ่งผีประจำหมู่บ้านเป็นที่เคารพบูชาของชาวมอญบางกระดี่ จะมีการจัดพิธีกันอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยการเข้าทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมให้ชุมชนเกิดความสงบสามัคคีและด้วยการนับถือผีมีความเชื่อในเรื่องผีเหมือนกัน จึงทำให้เป็นสังคมที่มีความเกี่ยวดองกันในเรื่องการนับถือผี ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชาวมอญ (หน้า, 20; 30-38; 111)

Social Cultural and Identity Change

          ที่มีปฏิบัติกันในกลุ่มของชาวมอญเท่านั้น โดยทุกสิ่งทุกอย่างจะปฏิบัติตามวิถีทางในการดำรงชีวิต พิธีกรรมการรำผีเป็นการรำในพิธีกรรมที่เกี่ยวโยงกับความเชื่อของชาวมอญที่เป็นพิธีที่สืบทอดกันมาช้านาน จนกลายมาเป็นประเพณีพิธีกรรมที่ส่งผลให้ชาวมอญประพฤติตนอยู่ในกฎระเบียบของสังคมชาวมอญ หากแต่ว่าในวันนี้ของชาวมอญบางกระดี่ยังมีความเชื่อและศรัทธาในประเพณีพิธีกรรมการรำผีและมีความเคารพในผีบรรพบุรุษอย่างจริงจัง ทำให้ชาวมอญมีความผูกพันกัน มีปฏิสัมพันธ์กันในระบบสังคม ชุมชน และภายใต้ความเชื่อนี้ก็มีความหมายแฝงไปด้วยความสมัครสมานสามัคคีกันในชุมชน เพราะความเชื่อในการนับถือผีที่ชาวมอญได้รับสืบทอดมาร่วมกันนี้ ส่งผลให้ชาวมอญมีสังคมที่มีความมั่นคง สร้างความผูกพันกันทั้งในระบบครอบครัวและชุมชน และเป็นเอกลักษณ์ที่ถือกำเนิดมาจากวิถีชีวิตของชาวมอญ (หน้า, 110-112)

Map/Illustration

ภาพ
          ภาพศาลเจ้าพ่อบางกระดี่ (หน้า, 51)
          ภาศาลเจ้าแม่หัวระหาญ (หน้า, 52)
          ภาพการทรงเจ้า (หน้า, 55)
          ภาพการเซ่นไหว้ปาโหนก(หน้า, 55)
          ภาพเครื่องเซ่นไว้ปาโหนก (หน้า, 56)
          ภาพรวมคนในตระกูลขอพร (หน้า, 57)
          ภาพโรงพิธีรำมอญ (ฮอย กะ นา) (หน้า, 62)
          ภาพหม้อน้ำ (เนิง ฮะ เหลิบ) (หน้า, 62)
          ภาพพาน ฮะ ม๊ะ (หน้า, 63)
          ภาพบายศรีหางปลา (หน้า, 63)
          ภาพขันครูสำหรับรำผีมอญ (หน้า, 64)
          ภาพขันครูสำหรับไหว้ผีประจำหมู่บ้าน (หน้า, 64)
          ภาพผีหมวก (อะ หลก ฮะ ม๊ก) (หน้า, 65)
          ภาพสำหรับไม้ (อะบะชุ่) (หน้า, 65)
          ภาพภาชนะทองเหลือง (แน๊ะ ฮะ ลองเปาะ ฮะ มาว) (หน้า, 66)
          ภาพการแต่งกายของผู้รำในพิธีกรรมการรำผีมอญ(หน้า,80)
          ภาพการเตรียมโรงพิธีในวันสุกดิบ (หน้า, 81)
          ภาพเตรียมทำขนมผีในวันสุกดิบ (หน้า, 82)
          ภาพเสาผี (หน้า, 82)
          ภาพเสื้อผ้าผี (หน้า, 83)
          ภาพโรงพิธี (หน้า, 83)
          ภาพลูกสะใภ้ในตระกูลเซ่นไหว้ผี (หน้า, 85)
          ภาพแห่ต้นผีไปเชิญปาโหนกมาร่วมพิธี (หน้า, 85)
          ภาพโกนลุมตาล้างเท้าให้ต้นผี (หน้า, 85)
          ภาพต้นผีรำในโรงพิธี (หน้า, 87)
          ภาพโกนลุมตาทำพิธีเลี้ยงผี (หน้า, 87)
          ภาพคนทรงประจำหมู่บ้านทำพิธีเชิญผี (หน้า, 88)

ตาราง
          ตารางแสดงลักษณะท่ารำและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการรำ (หน้า, 79)

Text Analyst เอกรินทร์ พึ่งประชา Date of Report 07 มิ.ย 2562
TAG มอญบางกระดี่, ความเชื่อ, พิธีกรรมรำผีมอญ, กรุงเทพมหานคร, ภาคกลาง, ประเทศไทย, Translator -
 
 

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง