ศาสนาและความเชื่อ
คนมอญในเขตเทศบาลตำบลหวายเหนียว นับถือศาสนาพุทธและมีความเชื่อเรื่องผี คนมอญถูกปลูกฝังให้เคร่งครัดในพุทธศาสนา ในวันปกติจะทำบุญตักบาตร และเมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนา ก็ไปทำบุญฟังเทศน์ที่วัดวันสารทมอญในวันออกพรรษาฟังเทศน์มหาชาติ (หน้า 68) สำหรับวันสารทมอญหรือวันออกพรรษา ในวันนี้คนมอญจะกวนกระยาสาดไปทำบุญ ซึ่งในอดีตเรียกว่าข้าวทิพย์ หรือกวนข้าวทิพย์ ผู้เขียนระบุว่างานบุญวันออกพรรษาของมอญจะต่างกับวันออกพรรษาของไทย เนื่องจากคนมอญจะนำกระยาสาดมาทำบุญด้วย และเอาไว้ฝากพี่น้องและญาติๆ (หน้า 68) สำหรับการกวนกระยาสาดคนมอญจะทำก่อนวันที่จะไปร่วมทำบุญ ที่จะมีขึ้นในวันต่อมา โดยจะนำอาหารคาวหวานไปถวายพระฟังเทศน์เพื่อความเป็นมงคล (หน้า 68)
นอกจากนี้ในช่วงประมาณกลางเดือนสาม ชาวมอญจะทำบุญเผาข้าวหลามซึ่งจะตรงกับวันมาฆบูชา โดยคนมอญทุกหลังคาเรือนจะเผาข้าวหลามก่อนวันงาน ในวันรุ่งขึ้นจะนำข้าวหลามพร้อมด้วยอาหารหวานคาวอื่นๆไปตักบาตรทำบุญที่วัด ในภาษามอญการเผาข้าวหลามไปทำบุญเรียกว่า “จองโอ๊ะต้าน” โดยมอญแต่ละหลังคาเรือนจะนำข้าวหลามมารวมกันตามกำลังศรัทธาแล้วนำไปทำบุญที่วัด บางส่วนก็แบ่งให้ญาติและบ้านใกล้เรือนเคียง และเมื่อถึงเวลากลางคืนก็จะไปทำพิธีเวียนเทียนที่วัด (หน้า 68)
ส่วนวันเข้าพรรษาคนมอญจะไปทำบุญตักบาตรที่วัด ถวายผ้าอาบน้ำฝน ถวายเทียน และแห่เทียนถวายวัดที่ชาวมอญจะมาร่วมกันทำบุญกับทางเทศบาล และในช่วงเข้าพรรษาคนมอญจะทำบุญทุกวันกระทั่งครบสามเดือน (หน้า 68)
ตามความเชื่อแล้วคนมอญมีความผูกพันกับศาสนาพุทธ เช่น คนมอญเชื่อว่าการได้ฟังเทศน์มหาชาติจะได้บุญอย่างยิ่ง โดยจะไปร่วมฟังทุกหลังคาเรือนในการฟังเทศน์นั้นคนมอญบอกว่าจะได้บุญตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ไม่ตกนรกให้ได้รับความทรมานลำบาก สำหรับการฟังเทศน์มหาชาตินั้นจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติของพุทธเจ้า อาทิ กัณฑ์หา ชาลี กัณฑ์มัทรี กัณฑ์ชูชก เทศน์คาถาพันที่มีหนึ่งพันคาถา ที่แบ่งออกเป็นทั้งหมด 13 กัณฑ์ ในวันนี้คนมอญจะถวายธูปพันดอก เทียนพันเล่ม ดอกบัวพันดอก หมากพันคำพลูพันกลีบ ธงพันผืน ซึ่งในแต่ละปีคนมอญจะทำบุญที่วัดหวายเหนียวในวันที่ 16 เมษายน ของทุกปีการเทศน์จะเริ่มตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายสี่โมงเย็น หากใครฟังเทศน์มหาชาติจนจบครบสิบสามกัณฑ์คนมอญเชื่อว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ (หน้า69)
จากการศึกษาพบว่า คนมอญในพื้นที่ศึกษาทั้งหมดนับถือศาสนาพุทธ และมีความเชื่อว่าการทำบุญทำทานจะทำให้เกิดความศิริมงคลกับชีวิต คนมอญจะนิยมไปทำบุญที่วัดทุกวันและเชื่อว่าถ้าทำความดีจะได้รับกรรมดีแต่ถ้าทำบาปก็จะตกนรกหมกไหม้ ดังนั้นนอกจากทำบุญไหว้พระแล้ว คนมอญยังนิยมสร้างหิ้งพระไว้ที่บ้านเพื่อกราบไหว้บูชา บางส่วนก็นิยมสวมใส่พระเครื่องเพราะเชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจาดภยันตรายต่างๆ และทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง(หน้า 70) คนมอญเชื่อในคำสอนของศาสนาพุทธ โดยจะทำบุญตักบาตรเป็นประจำ ส่วนความเคร่งครัดในการนับถือศาสนานั้นพบว่า ในอดีต คนมอญเวลาเข้าวัดจะถอดรองเท้าแล้วถือรองเท้าไปที่ศาลา ผู้หญิงเวลาเข้าวัดจะแต่งกายด้วยชุดสุภาพสวมผ้าถุง ผู้ชายสวมโสร่ง แต่งกายสุภาพ (หน้า 71)
การนับถือผี
การนับถือผีมีตระกูลที่นับถือ มีการนับถือผีโคตรตระกูลหลายอย่าง เช่น ผีเต่า ผีปลา ผีงู ผีม้า ผีไก่ ผีข้าวเหนียว ตัวอย่างเช่นผีไก่ หากทำอะไรที่เกี่ยวกับไก่ เมื่อทำพิธีจะเอาหัวไก่ไว้ กับข้าวปากหม้อ น้ำหนึ่งแก้ว แล้วนำไปตั้งไว้ที่เสาเอกของบ้าน แต่ถ้าหากเป็นผีเต่าขั้นตอนการทำพิธีก็จะเหมือนกันเพียงแต่จะเปลี่ยนมาใช้หัวเต่าแทน ส่วนพิธีเกี่ยวกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน คนมอญในเขตเทศบาลหวายเหนียวนับถือผีทุกคนและนับถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ (หน้า 72)
ส่วนพิธีกรรมต่างๆ ของมอญในเขตเทศบาลตำบลหวายเหนียวมีดังนี้
พิธีเลี้ยงผี หรือ “การเลี้ยงผีทางนั่ง” จะทำพิธีสามปีต่อครั้ง โดยไม่ให้ตรงวันเสาร์กับวันพระ การประกอบพิธีต้องเป็นเดือนคู่ ไม่อยู่ในช่วงเข้าพรรษา กรณีที่ลูกหลานในครอบครัวตั้งครรภ์ต้องจุดธูปบอกเลื่อนวันทำพิธีออกไป กำหนดวันคนในครอบครัวจะไปหาคนทรง หรือมอญเรียกว่า “โต้ง” เพื่อให้ช่วย เมื่อถึงวันกำหนดทำพิธีคนในครอบครัวของมอญจะทำพิธีในช่วงเช้า ใช้เวลาประมาณสอง-สามชั่วโมง สำหรับของเซ่นไหว้ ประกอบด้วย ขนมทอด กล้วย มะพร้าว เหล้า อาหาร หมู ไก่ นำอาหารใส่จานมาวางที่เสาเอก นำกระบุ้งหนึ่งใบแขวนไว้ที่เสาเอก เรียกว่ากระบุ้งผี จากนั้นก็นำผ้าผีมาเปิดวางไว้ และตั้งพานบูชาครูให้กับคนทรง(โต้ง) ซึ่งมีสิ่งของต่างๆได้แก่ กล้วยหนึ่งหวี มะพร้าวหนึ่งลูก พลูเจ็ดใบ หมากเจ็ดซีก บุหรี่หนึ่งซอง เงิน 12 บาท ธูป เทียน ดอกไม้ เมื่อลูกหลานมาถึงก็จะยกพานครู จุดธูปเทียนบอกกล่าวกับครู ผี และเจ้าที่ ให้ลูกหลานจุดธูปเทียนบูชาที่เสาผีคนละดอก เพื่อเชิญดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับกับผีบ้านและผีเรือนมารับของเซ่นไหว้ (หน้า 60)
รำผี หรือ “เลี้ยงผีทางยืน” จะประกอบพิธีเมื่อมีคนทำผิดผี เช่นกรณีที่ บุคคลอื่นที่เป็นแฟนกันแล้วมานอนค้างที่บ้านแต่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวต้องทำพิธีรำผี กับคนตั้งครรภ์หากมาพิงเสาในบ้าน ก็ต้องทำพิธีรำผีเช่นกัน จุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการขอขมาต่อผี ในวันงานคนในครอบครัวต้องมาครบทุกคน ข้อยกเว้นของการรำผีจะไม่จัดในเดือนสอง วันพระ วันเสาร์ การทำพิธีจะใช้เวลาสองวัน ในวันแรกจะกางเต็นท์พิธีที่บริเวณนอกบ้าน ในวันที่สองจะทำพิธีโดยเชิญร่างทรงจากนครชุมน์ มาทำพิธีและจะบรรเลง ระนาดลาดตะโพน วงปี่พาทย์ ช่วงทำพิธีคนในครอบครัวจะรำผีที่เต็นท์พิธี ส่วนของเซ่นไหว้จะใช้สามสิบ-ห้าสิบจาน ประกอบด้วยขนมมอญ เช่น ขนมแป้งทอด ขนมข้าวเหนียว อ้อย กล้วย มะพร้าว ปลาช่อน ปลาย่าง (หน้า 61)
การทำพิธีคนทรงจะเชิญดวงวิญญาณผีต้นตระกูล แล้วให้ลูกหลานมานั่งล้อม ในช่วงเช้าคนในตระกูลจะรำก่อน และคนที่ผีต่างตระกูลจะมาร่วมรำในช่วงบ่าย การเต้นรำจะเป็นไปอย่างเพลิดเพลินใจ พิธีจะจบลงประมาณบ่ายสามโมง (หน้า 62)
การไว้จุกและไว้โก๊ะของเด็กมอญ
เด็กมอญจะไว้จุกและไว้โก๊ะทั้งเด็กชายและเด็กหญิง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นมอญ สำหรับการโกนจุกของมอญจะทำในวันเลี้ยงผีหรือวันรำผี เด็กที่อยู่ในตระกูล (หน้า 62) การโกนจุก เด็กที่อยู่ในตระกูล จะทำในตอนเช้าก่อนพิธีเลี้ยงผี และรำผี คนในครอบครัวก็จะเตรียม น้ำส้มป่อยผสมขมิ้น น้ำและแป้ง ไว้ให้แม่ของเด็ก โดยก่อนที่จะเริ่มทำการโกนจุก ล้างมือ ล้างเท้าพ่อแม่ของสามี และยื่นหมากพลูให้ คนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านจะเป็นคนโกนผมแล้วอวยพรให้ลูกหลานเพื่อความเป็นศิริมงคล ขณะโกนจะนำใบตองมาใส่ผมเพื่อให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข แล้วเอาน้ำส้มป่อยผสมขมิ้นรดที่จุกผมของเด็กแล้วรดด้วยน้ำเปล่าจึงโกนจุก เมื่อโกนจุกเรียบร้อยแล้วก็จะอาบน้ำให้เด็กแล้วปะแป้งก็ถือว่าจบพิธี จากนั้นจึงจะเลี้ยงผี เมื่อโกนผมเรียบร้อยแล้วเด็กจะไว้ผมทรงไหนก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ (หน้า 63)
พิธีบวช
เมื่อชายชาวมอญอายุครบยี่สิบปี ก็จะบวชทดแทนบุญคุณพ่อ แม่ งานบวชแบ่งเป็นสามวันคือ วันสุกดิบเล็ก วันสุกดิบใหญ่ และวันบวช โดยในวันสุกดิบเล็กจะเป็นวันเตรียมงานขนถ้วยชามมาจากวัด วันสุกดิบใหญ่ ญาติๆจะตัดผมให้นาคทรงดอกกระทุ่ม แต่งหน้า ใส่ผ้าม่วงสไบเฉียงสีฉูดฉาด ทัดดอกไม้สวมกำไลข้อมือ ข้อเท้า ช่วงบ่ายจะแห่นาคขี่ม้าจากบ้านไปวัดไปลาหลวงพ่อที่วัด ศาลเจ้า จากนั้นก็จะแห่กลับมาบ้าน (หน้า 63) ให้หมอขวัญมาทำพิธีทำขวัญนาค ในวันรุ่งขึ้นก็จะแห่นาคอีกครั้งแล้วแห่กลับมาบ้านเพื่อโกนผมนาค จากนั้นพ่อกับแม่ก็จะเอาผมนาคไปไว้ที่ต้นกล้วย เพื่อให้มีชีวิตสงบร่มเย็น แล้วก็จะเปลี่ยนชุดขาวแล้วนิมนต์พระเก้ารูปเพื่อให้นาคใส่บาตร ให้พระมาฉันเพลที่บ้าน ประมาณบ่ายสองโมงจึงแห่นาคไปวัด ส่วนญาติๆ และเพื่อนบ้านก็จะร่ายรำในขบวนอย่างคึกครื้น ไปส่งนาคที่ประตูโบสถ์เพื่อทำพิธีอุปสมบทตามหลักพุทธศาสนา (หน้า 64)
วันสงกรานต์
ถือเป็นวันปีใหม่ของคนมอญ ที่จะมาพบปะสังสรรค์ทำบุญร่วมกัน งานสงกรานต์จะจัดตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน โดยในวันที่ 12 จะทำบ้านขนาดเล็กๆ ให้กับนางสงกรานต์ ประดับด้วยผ้าขาวและดอกไม้และกางร่ม เมื่อถึงเช้าวันที่ 13 คนมอญเทศบาลหวายเหนียวจะทำข้าวแช่ โดยนำข้าวสุกมาใส่น้ำเย็นลอยด้วยดอกมะลิในหม้อดิน จากนั้นก็จะทำกับข้าว เช่น ยำมะม่วง ยำผักกาด ยำปลาป่น ปลาหวาน เนื้อเค็ม หมูฉาบน้ำตาล ก๋วยเตี๋ยว ปลาหมึกทอด ปลาเค็ม และอื่นๆ จากนั้นจะนำข้าวแช่ และกับข้าวคาวหวานไปไว้ที่ศาลที่เชิญนางสงกรานต์ และส่วนหนึ่งจะนำไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัด และเก็บไว้กินที่บ้าน รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ มีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น ลูกช่วง รำวง มอญซ่อนผ้า รำรง และอื่นๆ ปัจจุบันทางเทศบาลหวายเหนียวได้จัดงานสงกรานต์ที่วัดหวายเหนียว ในวันที่ 16 เมษายน จัดกิจกรรมให้ร่วมกันก่อเจดีย์ทราย และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในชุมชน ส่วนวันที่ 17 เมษายน มีพิธีสงฆ์น้ำพระ รดน้ำผู้เฒ่าผู้แก่ เล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน และมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น วิ่งกระสอบ มวยทะเล ชักกะเย่อ เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน เป็นต้น (หน้า 67)
ผีตระกูล
คนมอญบ้านหวายเหนียวแต่ละตระกูลจะนับถือผีประจำตระกูลของตนเอง โดยจะทำพิธีเลี้ยงผีสามปีต่อครั้ง ห้ามคนตั้งครรภ์เข้าบ้านหรือพิงเสาบ้าน แต่ถ้าหากนั่งพิงเสาก็ต้องทำพิธีไหว้ผี หรือถ้าหากทำผิดอย่างอื่นๆ ก็ทำพิธีไหว้ผีเช่นกัน (หน้า 81)
งานศพ
หากมีคนเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ตายโหงด้วยอุบัติเหตุหรือถูกฆาตกรรม คนมอญจะต้องเก็บศพใส่โกดัง ไม่ทำพิธีเป็นเวลาสามปี ก็จะนำศพมาเผา(หน้า 82) ส่วนเด็กที่ตายเมื่ออายุไม่ถึง 12 ปี ก็จะฝังโดยไม่เผา กรณีที่ตายปกติก็จะตั้งศพไว้ที่บ้าน แต่ถ้าตายที่อื่นก็จะไปตั้งศพที่วัด กรณีที่ตายบนบ้านสามารถนำศพลงมาข้างล่าง แต่ถ้าตายข้างล่างบ้านห้ามนำศพขึ้นบนบ้าน (หน้า 65) การตั้งศพจะไม่ให้สูงกว่าพระสงฆ์ โดยจะหันหัวศพไปทางทิศตะวันตก การตั้งศพจะขึ้นอยู่กับฐานะเศรษฐกิจของเจ้าภาพ ว่าจะตั้งศพกี่วัน บางรายอาจจะตั้งศพไว้สามวัน ห้าวัน หรือเจ็ดวัน ในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างดี จะจ้างวงปี่พาทย์มาบรรเลงและรำหน้าศพและสวดด้วยภาษามอญ ที่ปลายเท้าศพจะมีหม้อและถาดเรียกขวัญผู้เสียชีวิต ในหม้อใส่ข้าวสาร และถ่านไว้ นอกจากนี้ก็มีถาดของใช้สอยเช่นเสื้อผ้าและแหวนหนึ่งวง (หน้า 66)
ในเวลาบ่ายควายหรือเมื่อเงาบ้านแค่ควายนอนได้ตัวหนึ่งจึงจะเคลื่อนศพออกจากบ้าน ลูกจะทุ่มหม้อให้แตก เพื่อตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างคนตายกับโลกมนุษย์ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกันอีก สำหรับสิ่งของที่อยู่ในถาดจะมอบให้คนอื่น แต่แหวนทองจะให้ลูกคนสุดท้อง เมื่อถึงเวลาบ่ายโมงก็จะเคลื่อนศพไปทำพิธีเผาที่วัด ส่วนญาติผู้ตายผู้หญิงจะนุ่งผ้าสีขาว ส่วนผู้ชายจะคาดเอวด้วยผ้าสีขาวเช่นกัน
สำหรับความเชื่ออื่นๆ เช่น คนมอญจะไม่เผาศพในวันพระและวันเสาร์ (หน้า 66)