|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,ประชากร,เศรษฐกิจ,การเปลี่ยนแปลง,ภาคเหนือ |
Author |
Peter Kunstadter, Sally Lennington Kunstadter, Prasit Ritnetikul |
Title |
Hmong in Thailand: Evidence and Explanation of Change |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
21 |
Year |
2533 |
Source |
เสนอต่อสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Abstract |
ม้งในประเทศไทยที่ไม่ใช่ม้งอพยพมีประมาณ 90,000 คน ม้งเหล่านี้เป็นลูกหลานของม้งที่อพยพมาจากประเทศจีนผ่านลาว และเริ่มเข้ามาในไทยเมื่อ 100 ปีที่แล้ว หรือเป็นลูกหลานม้งที่อพยพเข้ามาทางประเทศพม่า เข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ม้งปรับตัวเข้ากับสภาพเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว ม้งได้ขยายเข้าไปครอบครองพื้นที่สูงที่ยังไม่ถูกครอบครอง การเจริญเติบโตของประชากรที่รวดเร็วสัมพันธ์กับการขยายตัวทางพื้นที่ซึ่งเป็นเงื่อนไขจำเป็นสำหรับครัวเรือนขนาดใหญ่ นโยบายรัฐที่มุ่งกำจัดการปลูกฝิ่น จำกัดการตัดโค่นเผาป่า และควบคุมการย้ายถิ่นของประชากร ทำให้ระบบเศรษฐกิจม้งแบบดั้งเดิมหยุดชะงัก ขณะเดียวกันประชากรม้งจำนวนมากก็ได้ถูกย้ายถิ่นฐาน เนื่องจากนโยบายความมั่นคงของรัฐ การควบคุมของรัฐที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดเครือข่ายถนนบนที่สูง ซึ่งทำให้คนบนที่สูงเดินทางไปตลาดในที่ราบได้สะดวก การตอบสนองเศรษฐกิจของม้งต่อเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปยังรวมไปถึงการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจโดยการใช้เทคนิคเพาะปลูกใหม่ ๆ ด้วย การเจริญพันธุ์ของม้งเริ่มลดลงเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาหลังจากประชากรไทยได้ลดลงมาแล้ว 20 ปี การลดการเจริญพันธุ์ลงอย่างรวดเร็วในชุมชนชนบทเกี่ยวข้องกับการรับรู้การลดโอกาสในการเพาะปลูก อันเป็นผลมาจากข้อกำหนดการได้ที่ดินใหม่ ขณะที่การเจริญพันธุ์ของประชากรม้งในเมืองลดลงเป็นผลมาจากต้นทุนการเลี้ยงดูบุตรสูง การตายของเด็กทารกลดลง ส่วนการเจริญพันธุ์ก็ยังคงสูงอยู่ ขณะที่ผู้หญิงใช้การดูแลสุขภาพและคลอดบุตรสมัยใหม่ และในช่วงที่อัตราการตายลดลงนี้การศึกษาของผู้หญิงก็ยังต่ำอยู่ ผู้ศึกษาเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสังคมอย่างรวดเร็วในหมู่ม้งสัมพันธ์กับความเต็มใจในการยอมรับนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สิ่งนี้เห็นได้ในการยอมรับอย่างรวดเร็วของความหลากหลายของพืชชนิดใหม่และระบบการเพาะปลูก และเห็นได้ในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมขั้นพื้นฐาน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้หญิงม้งบางคนก็มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตนเอง โดยมีรายได้จาการค้าขายและการเพาะปลูกของตนเอง ความสำคัญของสภาวะทางเศรษฐกิจในการกำหนดพฤติกรรมม้งไม่เหมือนกับชาวเขากลุ่มอื่นในประเทศไทย มังมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้าสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนปลงโดยปรับเปลี่ยนแบบแผนพฤติกรรมดั้งเดิม ขณะที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ของตนไว้ (จาก abstract) |
|
Focus |
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการผันแปรทางเศรษฐกิจกับพฤติกรรมประชากรในชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน เพชรบูรณ์และตาก |
|
Ethnic Group in the Focus |
ม้งในจังหวัดภาคเหนือของไทย |
|
Language and Linguistic Affiliations |
ภาษาม้งที่พูดในประเทศไทยมี 2 ถิ่นใหญ่ ได้แก่ ม้งขาว(Hmong Der) และม้งน้ำเงิน(Hmong Njua) (น.3) |
|
Study Period (Data Collection) |
เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างปี ค.ศ.1987-1988 (น.2) |
|
History of the Group and Community |
ม้งเดินทางข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งลาวเข้ามาจังหวัดเชียงรายครั้งแรกเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว เส้นทางอื่นที่ม้งจากลาวเข้ามาในไทย ได้แก่ จังหวัดเลยและพิษณุโลก ส่วนม้งจากพม่าเข้ามาในไทยทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ หลังจากนั้นจำนวนประชากรม้งก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็ได้ขยายเข้าไปอยู่ในเขตพื้นที่ที่ยังไม่ถูกครอบครอง และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 ม้งจากลาวที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยก็มีฐานะเป็นผู้อพยพ เกือบทั้งหมดจะอยู่ในค่ายอพยพและจำนวนมากได้ไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สาม (น.3) |
|
Demography |
จำนวนประชากรม้งในประเทศไทยมีประมาณ 90,000 คน (น.3) โครงสร้างอายุของประชากรโดยเฉลี่ยมีอายุต่ำกว่า 14 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นภาวะการเจริญพันธุ์สูงและการเติบโตประชากรที่รวดเร็ว สภาพภาวะการเจริญพันธุ์สูงยังดำเนินต่อไป เนื่องจากจำนวนการแต่งงานของทั้งหญิงและชายมีมากกว่า 90% และการแต่งงานครั้งแรกของประชากรก็อยู่ในช่วงอายุน้อย ผู้ศึกษาเห็นว่า การเติบโตของประชากรที่สูงนี้ สืบเนื่องมาจากม้งมีครัวเรือนแบบขยาย และแบบแผนการอพยพที่ย้ายถิ่นทั้งครอบครัวหรือชุมชนก็เกี่ยวข้องกับภาวะการเจริญพันธุ์ที่สัมพันธ์กับอัตราการตาย (น.5-6) อัตราการเจริญพันธุ์ของม้งที่ลดลงไม่ได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงแบบแผนการแต่งงาน จำนวนคนที่ไม่แต่งงานยังต่ำอยู่ (น.9) ม้งคำนึงถึงสภาวะทางเศรษฐกิจของตนและความจำเป็น ซึ่งบ่งชี้ว่าขนาดของครอบครัวที่ปรารถนาและความเต็มใจที่จะใช้การวางแผนครอบครัวและความเต็มใจที่จะจำกัดขนาดครอบครัวมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับสภาวะทางเศรษฐกิจมากกว่าปัจจัยการรับรู้การวางแผนครอบครัว (น.10-11) อัตราการตายในเด็กทารกลดลงเนื่องจากม้งสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์และเด็ก ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งสามารถซื้อยาสมัยใหม่จากตลาดได้ (น.11-12) |
|
Economy |
กล่าวถึงลักษณะเศรษฐกิจของม้งในอดีตว่า แต่เดิมม้งปลูกข้าวแบบทดน้ำ (irrigated rice) ในพื้นที่ราบต่ำจนกระทั่งถูกจีนรุกรานจึงหนีขึ้นไปบนที่สูงจึงได้เปลี่ยนมาปลูกข้าวบนที่สูงแบบที่รู้จักกันในปัจจุบัน เมื่อม้งเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ยังคงนำรูปแบบการปลูกนี้มาด้วยและถือว่าเป็นระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงการติดต่อกับจีนและต้องเป็นสิ่งใหม่เพราะต้องพึ่งพาพืชต่างถิ่นสูง อันรวมถึงข้าวโพดและฝิ่น และอาจจะรวมข้าวไร่ซึ่งเป็นพืชยังชีพแบบดั้งเดิม (น.4) ต่อมาลักษณะเศรษฐกิจของม้งในประเทศไทยได้เปลี่ยนไป ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 รัฐได้ใช้กำลังทหารและตำรวจเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายห้ามปลูกฝิ่น ควบคุมการตัดถางป่าและควบคุมการอพยพ รวมทั้งการเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมมาก (น.7) ในการดำเนินการดังกล่าว รัฐได้สร้างเครือข่ายถนน ซึ่งผู้ศึกษาเห็นว่าเป็นปัจจัยต่อการประสบความสำเร็จของม้งในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป การเดินทางด้วยรถยนต์ได้ปฏิรูปตลาดผลผลิตของม้ง ทำให้สามารถขนส่งผลผลิตไปยังตลาดได้จำนวนมาก สิ่งนี้ได้ทดแทนการสูญเสียตลาดฝิ่นเพราะทำให้ม้งติดต่อกับตลาดได้โดยตรง สามารถเพิ่มราคาผลผลิตได้ (น.8-9) |
|
Education and Socialization |
|
Health and Medicine |
แม้ม้งจะใช้การดูแลรักษาสมัยใหม่แพร่หลาย การยอมรับความคิดเกี่ยวกับการรักษาสมัยใหม่ก็ยังไม่สมบูรณ์ ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพยังคงมีอยู่ สุขลักษณะในบ้านยังคงต่ำอยู่ (น.17) ม้งมีการปฏิบัติหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดของเด็ก ๆ เช่น การเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ การห้ามคนนอกครัวเรือนเยี่ยมมารดาหลังคลอดเป็นเวลา 30 วัน (น.13) |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
เริ่มมีสิ่งบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผู้หญิง ผู้หญิงม้งบางคนมีรายได้เป็นของตนเองจากการค้า บางคนปลูกพืชเศรษฐกิจมีรายได้เป็นของตนเอง (น.14-15) |
|
|