|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
เมี่ยน อิวเมี่ยน, ม้ง, โพล่ง โผล่ง โพล่ว ซู (กะเหรี่ยง), ปกาเกอะญอ จกอ คานยอ (กะเหรี่ยง), คะยัน กะจ๊าง ปาดอง,โครโมโซม, การโยกย้ายถิ่นฐาน, ความผันแปรระหว่างประชากร, ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มย่อย |
Author |
Metawee Srikummool |
Title |
X-, Y- Chromosomal and Mitochondrial DNA variations of the Karen, Hmong and Iu Mien in the Upper Northern Part of Thailand |
Document Type |
วิทยานิพนธ์ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
อิ้วเมี่ยน เมี่ยน, ม้ง, โพล่ง โผล่ง โผล่ว ซู กะเหรี่ยง, ปกาเกอะญอ, กะยัน แลเคอ,
|
Language and Linguistic Affiliations |
- |
Location of
Documents |
Dissertation (Biology), Faculty of Graduate Studies, Chiang Mai University |
Total Pages |
155 |
Year |
2548 |
Source |
วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. |
Abstract |
เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ของโครงสร้างทางพันธุกรรมและความเกี่ยวข้องของเผ่าม้ง, กะเหรี่ยง และอิวเมี่ยน รวมถึงผลของความผันแปรทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานหลังการแต่งงาน และความสัมพันธ์ทางเชื้อสายระหว่างชนเผ่ากับกลุ่มย่อยต่างๆ โดยใช้โครโมโซม X-,Y- linked microsatellite marker และ mitochondrial DNA ที่สกัดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวเป็นเครื่องมือในการศึกษา มีการวิเคราะห์จีโนไทป์ของไมโครแซเทลไลท์ 14 ตำแหน่งในโครโมโซม X จีโนไทป์ของไมโครแซเทลไลท์ 15 ตำแหน่งในโครโมโซม Y และลำดับเบสของ mitochondrial DNAบริเวณ hypervariable segment 1 ใน control region โดยมีการเพิ่มปริมาณ DNA ทั้งหมดด้วยปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรส
ผลการศึกษาพบว่า ความผันแปรทางพันธุกรรมนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความหลากหลายภายในกลุ่มย่อยหรือของแต่ละบุคคล การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานหลังแต่งงานก็มีผลต่อโครงสร้างทางพันธุกรรมของชาวเขาที่ศึกษา และแต่ละกลุ่มย่อยของแต่ละเผ่ามีความสัมพันธ์กันทางเชื้อสายอย่างใกล้ชิดยกเว้นอิวเมี่ยนจาก 3จังหวัดที่มีโครงสร้างทางพันธุกรรมที่เฉพาะซึ่งแตกต่างกัน ซึ่งอาจเกิดจากความแตกต่างของเส้นทางและระยะเวลาในการอพยพ |
|
Focus |
เน้นศึกษาความสัมพันธ์ของโครงสร้างทางพันธุกรรมและความเกี่ยวข้องของเผ่าม้ง, กะเหรี่ยง และอิวเมี่ยน รวมถึงผลของความผันแปรทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานหลังการแต่งงาน และความสัมพันธ์ทางเชื้อสายระหว่างชนเผ่ากับกลุ่มย่อยต่างๆ โดยใช้โครโมโซม X-,Y- linked microsatellite marker และ mitochondrial DNA เป็นเครื่องมือในการศึกษา |
|
Theoretical Issues |
ใช้ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมเกี่ยวกับตำแหน่งของยีนบนโครโมโซม X, Y และ ลำดับเบสในดีเอ็นเอของไมโตคอนเดรียเป็นตัวเปรียบเทียบและหาความสัมพันธ์ |
|
Ethnic Group in the Focus |
กะเหรี่ยง(กะเหรี่ยงคะยา, กะเหรี่ยงโป, กะเหรี่ยงสะกอ, กะเหรี่ยงตองสู) ,ม้ง (ม้งดำ, ม้งขาว), อิวเมี่ยน (จากจังหวัดเชียงราย, น่าน, พะเยา) |
|
Study Period (Data Collection) |
|
History of the Group and Community |
กะเหรี่ยง : อพยพมาจากทิเบตผ่านทางประเทศพม่า และเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันตก แบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อยตามความเชื่อของแต่ละกลุ่มคือ
กะเหรี่ยงสะกอ – เริ่มตั้งหมู่บ้านเมื่อประมาณ 130 ที่แล้วในลักษณะของค่ายพักชั่วคราวเพื่อใช้ในฤดูเกษตรกรรม ต่อมาจริงได้ตั้งหมู่บ้านถาวรและขยายขนาดใหญ่ขึ้นตามจำนวนประชากรที่มีการอพยพเข้ามาเรื่อยๆ
กะเหรี่ยงโป – ส่วนใหญ่อพยพมาจากหมู่บ้านตุงลอยเก่า ซึ่งมีการอพยพดั้งเดิมมาจากประเทศพม่าเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกในการเดินทาง
กะเหรี่ยงคะยา – เป็นผู้ลี้ภัยมาจากรัฐคะยา ประเทศพม่า
กะเหรี่ยงตองสู – อพยพมาจากเมืองพิน ประเทศพม่าเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
ม้ง : อพยพมาจากประเทศจีนผ่านทางประเทศเวียดนาม ลาวและเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว แบ่งเป็นสองกลุ่มย่อยตามความเชื่อคือ
ม้งดำ
กลุ่มที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ – มีการอพยพมาจากดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว
กลุ่มที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงราย – ประชากรส่วนใหญ่มากจากอำเภอเถิง จังหวัดเชียงราย หมู่บ้านมีอายุประมาณ 30 ปี
กลุ่มที่อาศัยอยู่ในจังหวัดพะเยา – เกิดจากการรวมคนจากเขตเกษตรกรมหลายๆเขต เช่นอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่านเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ม้งขาว
กลุ่มที่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ – เริ่มตั้งหมู่บ้านจากการทำไร่เลื่อนลอยเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้วก่อนที่จะตั้งถิ่นฐาน ณ ที่อยู่ปัจจุบันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
กลุ่มที่อาศัยในจังหวัดเชียงราย – ประชากรมาจากจังหวัดพะเยาและน่านเพื่อเหตุผลทางเกษตรกรรมเมื่อ 30 ปีก่อน
อิวเมี่ยน : อพยพมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ผ่านประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อประมาณ 170-180 ปีที่แล้ว โดยมีผู้นำคือพระยาคีรี ศรีสมบัติ ได้อพยพผู้คนจำนวนหนึ่งออกจากประเทศลาวมายังอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ก่อนจะย้ายต่อมายังอำเภอเฉลิมประเกียรติ จังหวัดพะเยา และอำเภอปง จังหวัดพะเยาในปัจจุบัน อิวเมี่ยนกลุ่มที่อาศัยที่จังหวัดน่านนั้นคือกลุ่มที่พระยาคีรี ศรีสมบัติได้อพยพมาจากประเทศลาวและไม่ได้อพยพต่อมายังจังหวัดพะเยา กลุ่มที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายมีการอพยพมาจากประเทศลาวผ่านทางอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน |
|
Demography |
เผ่ากะเหรี่ยง ยังคงมีการอพยพย้ายทั้งไป และกลับจากประเทศพม่าอยู่ต่อเนื่องบริเวณชายแดน |
|
Economy |
กะเหรี่ยงตองสู ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเป็นแรงงานทั่วไป |
|
Social Organization |
กะเหรี่ยง : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวของฝ่ายหญิง สร้างบ้านใหม่ และอาศัยอยู่ร่วมกันในลักษณะครอบครัวเดี่ยว แบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อยตามความเชื่อ คือกะเหรี่ยงสะกอ, กะเหรี่ยงโป, กะเหรี่ยงคะยา และกะเหรี่ยงตองสู
ม้ง : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายย้ายเข้าไปอาศัยกับครอบครัวของฝ่ายชายและอยู่ร่วมกันในลักษณะครอบครัวขยาย แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยตามความเชื่อ คือม้งดำ และม้งขาว
อิวเมี่ยน : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายย้ายเข้าไปอาศัยกับครอบครัวฝ่ายชาย มีการอยู่ร่วมกันทั้งในลักษณะครอบครัวเดี่ยว และครอบครัวขยาย มีประเพณีในการรับบุตรบุญธรรมทั้งจากในเผ่าหรือภายนอกเผ่า |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
พบว่าแต่ละกลุ่มย่อยของแต่ละเผ่านั้นมีความใกล้ชิดกันทางพันธุกรรม และเป็นไปได้ว่าแต่ละกลุ่มย่อยอาจจะมีบรรพบุรุษเดียวกัน
โครงสร้างทางพันธุกรรมของทั้ง 3 กลุ่มคือ กะเหรี่ยง ม้ง และอิวเมี่ยน มีความแตกต่างกันแต่พบว่ามีเปอร์เซนต์ความผันแปรที่ต่ำ แสดงให้เห็นว่าทั้ง 3 กลุ่มมีความสัมพันธ์กันทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจจะมาจากการที่บรรพบุรุษของกะเหรี่ยงที่มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณแม่น้ำเหลืองในประเทศจีนมีพันธุกรรมผสมของกลุ่มจีนใต้ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของทั้งม้งและอิวเมี่ยนก่อนที่แต่ละเผ่าจะมีการอพยพย้ายถิ่นฐาน
1. ความแตกต่างของการย้ายถิ่นฐานหลังการแต่งงานมีผลต่อโครงสร้างทางพันธุกรรมของการศึกษากลุ่มชาวเขา โดยที่ความหลากหลายของโครโมโซม Y นั้นกลุ่มของเผ่ากะเหรี่ยงซึ่งผู้ชายเป็นฝ่ายย้ายไปอยู่กับครอบครัวทางฝ่ายหญิงนั้นจะมีความหลากหลายมากกว่าม้ง ในทางกลับกันความหลากหลายของ mitochondrial DNA ในม้งซึ่งผู้หญิงเป็นฝ่ายย้ายเข้าสู่ฝ่ายชายก็จะมากกว่ากะเหรี่ยง
2. การรับบุตรบุญธรรมของอิวเมี่ยน ทำให้มีความหลากหลายทางพันธุกรรมของโครโมโซม Y มากกว่าของกะเหรี่ยงและม้ง
3. อัตราการอพยพที่คำนวณจากความผันแปรทางพันธุกรรมของโครโมโซม X, Yและ mitochondrial DNA แสดงให้เห็นว่าผู้ชายมีการอพยพมากกว่าผู้หญิงในกลุ่มที่ผู้ชายเป็นฝ่ายย้ายสู่ครอบครัวฝ่ายหญิงหลังการแต่งงาน (กะเหรี่ยง) และผู้หญิงจะมีการอพยพมากกว่าผู้ชายในกลุ่มที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายย้ายเข้าสู่ครอบครัวฝ่ายชายหลังการแต่งงาน (ม้งและอิวเมี่ยน) |
|
Social Cultural and Identity Change |
กะเหรี่ยง : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวของฝ่ายหญิง สร้างบ้านใหม่ และอาศัยอยู่ร่วมกันในลักษณะครอบครัวเดี่ยว แบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อยตามความเชื่อ คือกะเหรี่ยงสะกอ, กะเหรี่ยงโป, กะเหรี่ยงคะยา และกะเหรี่ยงตองสู
ม้ง : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายย้ายเข้าไปอาศัยกับครอบครัวของฝ่ายชายและอยู่ร่วมกันในลักษณะครอบครัวขยาย แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยตามความเชื่อ คือม้งดำ และม้งขาว
อิวเมี่ยน : หลังจากการแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายย้ายเข้าไปอาศัยกับครอบครัวฝ่ายชาย มีการอยู่ร่วมกันทั้งในลักษณะครอบครัวเดี่ยว และครอบครัวขยาย มีประเพณีในการรับบุตรบุญธรรมทั้งจากในเผ่าหรือภายนอกเผ่า |
|
Map/Illustration |
แผนที่แสดงถิ่นที่อยู่ของชาวเขาที่เป็นข้อมูลในการศึกษา (กะเหรี่ยง ม้ง และอิวเมี่ยน) |
|
|