|
Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre
Ethnic Groups Research Database |
|
Record |
|
 |
Subject |
ม้ง,การอพยพ,การตั้งถิ่นฐาน,เศรษฐกิจและการเมือง,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
Author |
Christian Culas |
Title |
Migrants, Runaways and Opium Growers: Origins of the Hmong in Laos and Siam in the Nineteenth and Early Twentieth Centuries |
Document Type |
บทความ |
Original Language of Text |
ภาษาอังกฤษ |
Ethnic Identity |
ม้ง,
|
Language and Linguistic Affiliations |
ม้ง-เมี่ยน |
Location of
Documents |
ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร |
Total Pages |
19 |
Year |
2543 |
Source |
Turbulent Times and Enduring Peoples,ed. by Jean Michaud. Richmond : Curzon. pp.29-47. |
Abstract |
จากหลักฐานที่มีอยู่ม้งที่เข้ามาในทางตอนเหนือของไทย ได้อพยพมาจากลาวบริเวณเชียงของและหลวงพระบาง ในตอนปลาย คริสตวรรษที่ 19 และม้งในบริเวณดังกล่าวได้อพยพมาจากทางตอนใต้ของจีน ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นอันเนื่องมาจากการสู้รบ การถูกรุกราน สภาวะข้าวยากหมากแพง และการเกิดโรคระบาด |
|
Focus |
ประวัติศาสตร์และแรงจูงใจในการอพยพของม้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากจีนสู่เวียตนาม ลาว และประเทศไทยในศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 (หน้า 29) |
|
Theoretical Issues |
ผู้เขียนอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศจีนที่เป็นเหตุให้มีการอพยพและตั้งถิ่นฐานใหม่ของม้งที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนไปสู่ประเทศเวียดนาม ลาว และประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้เขียนยังอธิบายถึงสาเหตุของการอพยพที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ว่าเกิดจากปัจจัยหลักต่าง ๆ คือ สภาวะจลาจล สงคราม การสังหารหมู่ การปล้นสะดมภ์ ความอดอยาก และโรคระบาด (หน้า 34-40) |
|
Ethnic Group in the Focus |
|
Language and Linguistic Affiliations |
|
Study Period (Data Collection) |
เป็นงานศึกษาเอกสารในเชิงประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาคริสตศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน |
|
History of the Group and Community |
ผู้วิจัยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการอพยพระยะยาวของม้งว่า มีการอพยพมาเวียดนามเป็น 2 ระลอกด้วยกันคือ ระลอกแรกใน ค.ศ. 1850 เป็นเพราะมาหาที่ทำกินใหม่ ออกมาเป็นพันและบางส่วนเป็นม้งขาว ระลอกที่ 2 มาในปี ค.ศ.1971 เพราะถูกจีนรุกราน และส่วนหนึ่งมาไกลถึงเลยและน่าน (หน้า 41) การอพยพของม้งจากจีนเกี่ยวพันกับความไม่สงบที่เกิดจากการสู้รบระหว่างมุสลิมกับรัฐบาลจีน ในทางตอนใต้จนเกิดสภาพอาหารขาดแคลนและมีโรคระบาด ทำให้ชาวเขารวมทั้งม้งที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องอพยพลงมาทางใต้ มายังเวียดนามและลาว แต่เมื่อเชียงของถูกโจมตีโดยโจนสลัดขาแดง ม้งก็อพยพเข้ามาทางตอนเหนือของไทย |
|
Settlement Pattern |
จากการศึกษางานประวัติศาสตร์ และคำบอกเล่าของม้ง มีการตั้งถิ่นฐานในตอนเหนือของเวียดนามตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 19 (หน้า 33) ในบริเวณ Hagiang, Lao Cai, Lai Chau, และ Son La และ Nghia Lo ส่วนในลาวก็มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานที่เชียงของ ในปี ค.ศ. 1864 (หน้า 34) และประมาณปี ค.ศ. 1885 ได้มีบางกลุ่มอพยพเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศไทย |
|
Demography |
ในปัจจุบันมีประชากรม้งราว 124,000 คนมีชีวิตอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทยใน 230 หมู่บ้าน ในปี 1993 และ 1994 พบว่ามีม้ง 231,000 คนและ 260,000 คนอยู่ทางตอนเหนือของลาว (หน้า 29) |
|
Economy |
ม้งทำการเพาะปลูกด้วยวิธีที่เรียกว่า โค่นและเผาต้นไม้ (slash-and-bum agnculture) (หน้า 30) และปลูกฝิ่นเป็นพืชเศรษฐกิจ (หน้า 39-40) |
|
Education and Socialization |
|
Art and Crafts (including Clothing Costume) |
|
Ethnicity (Ethnic Identity, Boundaries and Ethnic Relation) |
|
Social Cultural and Identity Change |
|
|