เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์
2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร
ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่
ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์) ต. ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี
ประเพณีบุญข้าวใหม่ ชาวโผล่ว ต. ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ภาพโดยศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่ ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา มรรคผลนิพพาน ภาพโดย ดอกรัก พยัคศรี
หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
สรุปผลจากแบบสอบถามเพื่อการพัฒนาฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ ณ วันที่ 15/03/2568 เวลา 00:39:02 มีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น 209 ราย