แนวนโยบายเสนอประกาศเขตคุ้มครองวัฒนธรรมชาวเลเร่งด่วน แก้ปัญหาชนพื้นเมืองถูกคุกคาม
โพสเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2559 16:15 น.
เมื่อวันที่ 10 พ.ค.59 ศาลฎีกา สำนักงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (สช.) มีเวทีประชุมเสวนาทางวิชาการ กรณีปัญหาชาวเลราไวย์จังหวัดภูเก็ตโดยมติที่ประชุมลงความเห็นร่วมกันว่า จะร่างข้อเสนอเรื่องการสร้างเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม ให้ชาติพันธุ์ชาวเล เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนในด้านสิทธิที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณ ไม่ให้มีการคุกคามจากการพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง กระทั่งมีปัญหาข้อพิพาทที่ดิน และเกิดการคุกคามพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชาวเลในแถบอันดามัน
พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล กล่าวว่า คือ เรื่องที่ดินทำกินและอยู่อาศัยของชาวเลนั้น แทบไม่มีกฎหมายให้การคุ้มครองที่ชัดเจน มีเพียงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้นที่ประกาศเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษขึ้นมา แต่ไม่มีผลในทางปฏิบัติ ดังนั้นก้าวต่อไปของการแก้ปัญหา คือ การสร้างพื้นที่คุ้มครองอย่างจริงจังและผลักดันกฎหมายที่เอื้อต่อการแบ่งปันทรัพยากรเพื่อชนเผ่าพื้นเมืองที่มีบุญคุณต่อประเทศ
เมื่อกล่าวถึงแนวคิดเขตวัฒนธรรมพิเศษสามารถพิจารณาได้ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. พื้นที่ทางกายภาพ ได้แก่ พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัย พื้นที่ทำกินและพื้นที่ทางจิตวิญญาณ
2. การคุ้มครองผู้คนและวัฒนธรรม โดยจัดทำนโยบายระยะยาวเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และความภูมิใจทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง และมีการสนับสนุนพิเศษเพื่อ "ขจัดการกีดกันและเลือกปฏิบัติ" ตลอดจนมีการส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ทางภูมิปัญญาของชนพื้นเมือง
3. การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถวางแผน มีการเฝ้าระวัง และตัดสินใจในการพัฒนาชุมชนและบริเวณโดยรอบได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามแม้จะมีแนวทางการจัดตั้งเขตวัฒนธรรมพิเศษ แตแนวคิดนี้ก็ยังเปิดกว้างต่อการถกเถียงและเรียกร้องการทำงานของทุกภาคส่วน และจากสหสาขาวิชามาร่วมกันกำหนดขอบเขตความหมายและแนวปฏิบัติที่นำไปสู่การสร้างเขตวัฒนธรรมพิเศษให้เป็นจริง
|