แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (
ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีการหายตัวไปของนาย
พอละจี รักจงเจริญ หรือ
บิลลี่ แกนนำ
กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จ.
เพชรบุรี ว่า จากการลงพื้นที่เก็บหลักฐานในจ.
เพชรบุรี ระหว่าง
ดีเอสไอกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บหลักฐานจากรถยนต์ของอุทยานแห่งชาติ
แก่งกระจาน พบว่าสภาพห้องโดยสารในรถยนต์ถูกล้างทำความสะอาดมาแล้ว แต่เมื่อนักนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบห้องโดยสารผ่านเครื่องมือของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พบว่ารถยนต์ 1 คัน มีร่องรอยคราบเลือดหลงเหลืออยู่ จึงนำคราบเลือดที่พบมาตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ เพื่อเทียบเคียงดีเอ็นเอกับบุตรชายของ
บิลลี่ แต่คดียังมีอุปสรรคจากคราบเลือดที่ผ่านการล้างทำความสะอาดมาแล้ว ทำให้ฐานข้อมูลไม่เพียงพอในการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอว่าตรงกับบิลลี่หรือไม่ ในชั้นนี้ทราบผลเพียงว่าคราบเลือดมนุษย์ของเพศชาย อย่างไรก็ตาม กระบวนการพิสูจน์ยังไม่สิ้นสุดจะต้องใช้เวลาอีกระยะกับการตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดเพื่อเปรียบเทียบดีเอ็นเอให้ชัดเจน