ลุ้นคดีกะเหรี่ยงบิลลี่ หลังดีเอสไอ-สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่แก่งกระจาน เก็บคราบเลือดจากรถยนต์ต้องสงสัย
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการสืบสวนคดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือกะเหรี่ยงบิลลี่. แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีว่า หลังจากดีเอสไอได้ประสานนักนิติวิทยาศาสตร์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้ร่วมลงพื้นที่แก่งกระจานเพื่อตรวจหาวัตถุพยานในคดีจนพบคราบเลือดในรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่งนำไปสู่การตรวจหาดีเอ็นเอและนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของลูกชายบิลลี่
แต่ปรากฏว่าคราบเลือดดังกล่าวถูกล้างทำความสะอาดไปแล้วหลายครั้ง ทำให้การเก็บหลักฐานครั้งแรกได้คราบเลือดที่มีฐานดีเอ็นเอไม่เพียงในการตรวจเปรียบเทียบ จึงต้องลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่ม และส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบอีกครั้ง หากผลดีเอ็นเอตรงกันก็จะนำไปสู่การดำเนินคดีได้ ระหว่างนี้ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ด้านพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่เก็บได้จากรถยนต์จะทราบผลภายในวันพรุ่งนี้(19 ก.ย.) ว่าตรงกับดีเอ็นเอของบิลลี่หรือไม่ โดยดีเอ็นเอที่เจ้าหน้าที่เก็บมาตรวจมีเพียงคราบเลือดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีที่ภรรยาของกะเหรี่ยงบิลลี่เข้าร้องทุกข์ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ให้ตรวจสอบดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฐานละเว้นการปฏิบีติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่ไม่ยอมส่งตัวกะเหรี่ยงบิลลี่ให้ตำรวจสภ.แก่งกระจานดำเนินคดีข้อหาเก็บน้ำผึ้งป่า โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯกลับนำตัวไปสอบปากคำแล้วอ้างว่าปล่อยตัวไป จากนั้นกะเหรี่ยงบิลลี่ก็ได้หายตัวไปและไม่มีใครพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 5 เดือน โดยล่าสุดคดีในชั้นป.ป.ท. คณะกรรมการป.ป.ท.ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20140918/605684/%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%AD-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AF%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.html#.VB4hbOBFHC4.facebook