ศาลเพชรบุรีนัดตัดสินคดี "บิลลี่" หายตัว 17 กค. นี้
โพสเมื่อวันที่ 09 ก.ค. 2557 09:10 น.
เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี ที่11 ศาลจังหวัดเพชรบุรี นายอยุทธ์ จามิกรณ์ ผู้พิพากษา และ น.ส.สุนิษา บรรเทา ผู้พิพากษาร่วม ทำหน้าที่ไต่สวน คดีที่น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภรรยานาย บิลลี่ หรือพอละจี่ รักจงเจริญ ที่หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ได้ร้องให้ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินเพราะเชื่อว่า นายบิลลี่ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐควบคุมตัวอยู่ ซึ่งศาลได้รับคำร้องและนัดไต่สวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นครั้งที่ 5 มีทนายความจากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชนเป็นผู้ซักถามพยาน โดยศาลได้เรียกนายศรัณย์ ปรีชา ผู้ชำนาญการฝ่ายกฏหมายของบริษัท เอไอเอส มายืนยันการใช้ข้อมูลโทรศัพท์มือถือของบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 หมายเลข หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ขอข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ เพื่อใช้ประกอบสำนวนสอบสวน ซึ่งนายศรัณย์ ยืนยันว่า ข้อมูลที่นำมาให้พนักงานสอบสวนเป็นความจริง ต่อจากนั้น พ.ต.ท.กลยุทธ์ วงศ์เพชร พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ที่ดูแลในคดีนายบิลลี่หายตัว ได้เข้าให้ปากคำ
พ.ต.ท.กลยุทธ์ ให้ปากคำว่า เมื่อช่วงดึกวันที่ 18 เม.ย. 57 ที่ผ่านมา นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่2 บ้านบางกรอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมปอง ขำทวี พนักงานสอบสวนที่ สภ.แก่งกระจาน ว่า นาย บิลลี่ หรือพอละจี่ รักจงเจริญ ส.อบต.ห้วยแม่เพรียง ได้หายตัวไป หลังออกจากบ้านในพื้นที่บ้านโป่งลึก บางกรอย ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 17 เม.ย. 57 เกรงจะได้รับอันตราย หลังได้รับแจ้งทางตำรวจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับและแจ้งเป็นบุคคลสูญหายในเวลาต่อมา พร้อมทั้งติดตามสืบสวนสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง จบทราบว่า หลังออกจากบ้านจากโป่งลึก บางกรอย นายบิลลี่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ที่ด่านมะเร็ว ในเขตอุทยานแห่งชาติจับกุม พร้อมน้ำผึ้งที่นำติดตัวมาด้วย หลังถูกจับกุมนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำตัวขึ้นรถยนต์พร้อมรถจยย.ที่นายบิลลี่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง จึงได้เชิญนายชัยวัฒน์ มาสอบปากคำ ซึ่งนายชัยวัฒน์ ให้การว่าได้ปล่อยนายบิลลี่ ลงระหว่างทางก่อนถึงแยกบ้านหนองมะค่า ที่อยู่ห่างจากด่านมะเร็วจุดที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ประมาณ 9 กม. โดยได้ให้เหตุผลว่าพบว่านายบิลลี่ ได้นำน้ำผึ้งมาเพียงเล็กน้อยจำนวน 6 ขวด
นอกจากนั้นยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่เกี่ยวข้องทั้งที่ด่านมะเร็ว และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในรถคันเดียวกับนายชัยวัฒน์และนายบิลลี่ นั่งมา และเจ้าหน้าที่อีกหลายนาย รวมทั้งทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดที่นายชัยวัฒน์ อ้างว่าได้ปล่อยตัวนายบิลลี่มาสอบปากคำ รวม 27 ปาก ซึ่งชาวบ้านต่างให้ปากคำว่าไม่เห็นเหตุการณ์ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมากับนายชัยวัฒน์ ได้ระบุว่า ได้ปล่อยตัวนายบิลลี่ ก่อนจะถึงแยกหนองมะค่าประมาณ 300 เมตร และได้แจ้งทางวิทยุไปที่ด่าน 3 ยอด นอกจากนั้นยังสอบสวน ด.ญ.พิณณภา (ขอสงวนนามสกุล) ที่นายชัยวัฒน์ อ้างว่า เป็นผู้เห็นนายบิลลี่ ในวันต่อมา ทราบว่า ผู้ที่มาบอกนายชัยวัฒน์ คือบัญชา คำม่วง ที่เป็นครูอาสาอยู่ที่บ้านโป่งลึก บางกรอย ซึ่งนายบัญชา ก็ไม่ยืนยันว่า ผู้ที่ด.ญ.พิณณภา เห็นจะใช่นายบิลลี่ หรือไม่ และมีการไล่เรียงเหตุการณ์ พบว่า ถ้าเป็นจริงช่วงที่เด็กเห็นนายบิลลี่ จะเป็นช่วงเวลา14. 00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายบิลลี่จะหายตัวไป ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนต่อหน้าเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ซึ่งเด็กได้ยืนยันว่า ไม่เคยเห็นนายบิลลี่ ในวันเวลาที่มีการกล่าวอ้างและก็ไม่เคยบอกเรื่องดังกล่าวให้ใครทราบด้วย
พ.ต.ท.กลยุทธ์ ยังให้ข้อมูลตามที่ทนายฝ่ายผู้ร้องซักถามว่า นอกจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องตลอดจนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ตรงจุดที่ถูกอ้างว่านายบิลลี่ได้ถูกปล่อยตัวแล้ว ทางตำรวจได้เดินทางไปสอบปากคำญาตินายบิลลี่ ที่บ้านโป่งลึก บางกรอย เช่นกัน ซึ่งญาติยืนยันว่าน้ำผึ้งที่นายบิลลี่ นำออกมา มี 2 ถุง ถูกบรรจุอยู่ในขวด ถุงแรก 6ขวด ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ส่วนในถุงที่ 2 จะถูกบรรจุอยู่ในขวดเช่นกันน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม จากการตรวจสอบบริเวณแยกหนองมะค่า สถานที่ที่ถูกระบุว่านายบิลลี่ ถูกปล่อยตัวตามคำให้การของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบว่า จุดที่ปล่อยอยู่ห่างจากแยกหนองมะค่า ประมาณ 300 เมตร ระหว่างนั้นมีบ้านเรือนของชาวบ้านตั้งอยู่ 3 หลัง แต่ละหลังอยู่ห่างกับประมาณหลังละ 100 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอุทยานให้ปากคำตรงกันว่าจุดปล่อยตัวห่างจากแยกหนองมะค่าประมาณ 300 เมตร มีเพียงนายชัยวัฒน์ คนเดียวที่บอกว่าห่างจากแยกหนองมะค่า 20 เมตร นอกจากนั้นน้ำผึ้งที่นายบิลลี่ นำมานั้นจากการให้การของญาติที่ช่วยนำน้ำผึ้งบรรจุลงขวดให้นายบิลลี่ ที่ระบุว่านายบิลลี่ ได้นำน้ำผึ้งออกมา 2 ถุง ถุงแรกจำนวน 6ขวด ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย อีก1 ถุงใส่ในถุงปุ๋ย ซึ่งทางหัวหน้าอุทยานฯกับเจ้าหน้าที่ ได้ระบุว่านายบิลลี่ ได้นำน้ำผึ้งมาเพียง 6ขวด ซึ่งไม่ตรงกัน ส่วนการสอบสวน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี ภรรยานาย บิลลี่ ได้ให้ข้อมูลว่านายบิลลี่ ผู้เป็นสามีได้เคยบอกไว้ว่าถ้าเกิดตัวเองเป็นอย่างไรไปคนที่ทำก็คือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนและดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนแจ้งข้อหากับนายชัยวัฒน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา157 และได้ส่งเรื่องถึง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว
หลังจากไต่สวนเสร็จผู้พิพากษาได้แจ้งให้ผู้ร้อง ให้มาฟังคำตัดสินการไต่สวนในวันที่ 17 ก.ค.57 ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่บ้านโป่งลึกบางกรอย ทราบว่า น้ำผึ้งจำนวน 6 ขวด ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของนายบิลลี่ น่าจะเป็นน้ำผึ้งที่จะนำไปให้กับเจ้าหน้าที่ระหว่างทาง ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่รู้กันมานานแล้ว.
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/250621/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5_%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7+17+%E0%B8%81.%E0%B8%84.%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89
|