รอง ผบช.ภ.7 หนักใจ คดี "บิลลี่" ไร้หลักฐานหวังแกะรอยพยานบุคคล
โพสเมื่อวันที่ 09 มิ.ย 2557 14:01 น.
กรณีที่ นายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) แกนนำชาวกะเหรี่ยง บ้านบางกลอย หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้พยายามหาหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงการสอบปากคำพยาน ผู้พบเห็นเหตุการณ์ เพื่อนำไปสู่การติดตามตัวนายบิลลี่ แต่ยอมรับว่า คดีนี้หนักใจมาก เพราะแทบจะไม่มีหลักฐานหรือร่องรอยปรากฏให้เห็นเลย จะเหลือแต่พยานบุคคล หรือผู้พบเห็นเหตุการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปล่อยทิ้งเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ทุกข้อสงสัยทุกเรื่อง ตำรวจรับฟังและมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะอาจนำไปสู่การติดตามนายบิลลี่ กลับมาได้
หลังได้รับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ผู้ที่มารับตัวนายบิลลี่ไปหลังจากตรวจค้น ซึ่งยืนยันว่ามีการปล่อยตัวระหว่างทาง นอกจากเจ้าหน้าที่ทุกคนจะเป็นพยานได้แล้ว ยังมีนักศึกษาฝึกงานอีก 2 คน เห็นนายบิลลี่ ขับขี่รถ จยย.หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ปล่อยตัวแล้ว แต่จากการสอบสวนยังไม่ยืนยันแน่ชัด บอกแต่ว่ามีลักษณะคล้ายกับนายบิลลี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นว่า คนที่นักศึกษาฝึกงานเห็น เป็นนายบิลลี่จริงหรือไม่ หากไม่ใช่แล้วนายบิลลี่ไปอยู่ไหน สังคมไม่ต้องห่วง ยืนยันว่าตำรวจตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือหรือเข้าข้างผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม
เบื้องต้นสรุปได้ว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่อุทยาน เพราะการปล่อยตัวไปโดยไม่นำมาดำเนินคดีหรือเปรียบเทียบปรับนั้น ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย ขณะนี้ได้ส่งสำนวนให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม (ป.ป.ท.) พิจารณาดำเนินการต่อ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ด้านความหวังการกลับมาของนายบิลลี่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวต่อว่า ถึงขณะนี้แม้จะไม่มีหลักฐานการเสียชีวิต ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า น่าจะมีอันตรายถึงแก่ความตายแล้วก็เป็นได้ เพราะหลังจากเกิดเหตุถึงปัจจุบันนานเกือบ 2 เดือน ยังไม่มีใครพบนายบิลลี่เลย แม้แต่คนในครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก
หากใครมีหลักฐานหรือข้อมูลที่จะเชื่อมโยงไปถึงนายบิลลี่ได้ ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.แก่งกระจาน หรือที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 หรือโทรศัพท์เข้ามาที่สำนักงาน 0-3424-5903 เวลาราชการ
ความคืบหน้าในพื้นที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลนัดเจ้าหน้าที่อุทยานมาสัมภาษณ์เพิ่มเติม และศาลเตรียมนัดพยานอีก 4 ปาก มาไต่สวนในวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 10.00 น. อีกครั้ง ด้านฝั่งผู้ร้องเตรียมขออำนาจศาลขอสำนวนที่ทั้ง 3 คนให้การที่ สภ.แก่งกระจาน กับที่กรมอุทยาน ว่าตรงกันหรือไม่ และเตรียมขอบันทึกการโทรศัพท์ของทั้ง 4 คน ว่าในวันเกิดเหตุโทรศัพท์หาใคร แล้วอยู่จุดไหนบ้าง ตามที่ให้การหรือไม่.
...............................................................................
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment ( CAT ) เนื้อหาของอนุสัญญาฉบับนี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการระงับและยับยั้งการทรมาน โดยในเนื้อหาได้กำหนดความหมายการทรมาน ว่าหมายถึงการกระทำใดก็ตามโดยเจตนาที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสไม่ว่า ทางกายภาพหรือทางจิตใจต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ด้วยความมุ่งประสงค์ เพื่อให้ข้อสนเทศหรือคำสารภาพจากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สาม การลงโทษบุคคลนั้นสำหรับการกระทำซึ่งบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามกระทำ หรือถูกสงสัยว่าได้กระทำ รวมทั้งการบังคับขู่เข็ญ โดยมุ่งเน้นไปที่การกระทำหรือโดยความยินยอมของเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งทางการ
ความหมายของการทรมานดังกล่าวได้รับการยอมรับในทางสากล ในกฎหมายระหว่างประเทศและในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี และจะเห็นได้ว่า ลักษณะสำคัญของการทรมานคือการใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเจ็บปวดแก่กายหรือจิตใจอย่างสาหัส เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคำรับสารภาพของบุคคลที่ถูกทรมานหรือบุคคลที่สาม เว้นแต่ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่เป็นผลปกติจากการลงโทษโดยชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ยังมีการกระทำที่ไม่ถึงกับเป็นการทรมาน เนื่องจากยังไม่เป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวดทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างสาหัสในระดับที่ถือว่าเป็นการทรมาน แต่ต้องห้ามไม่ให้กระทำเช่นกัน คือ การปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม และเป็นการละเมิดหรือการลงโทษที่ลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น การเปิดไฟให้สว่าง 24 ชั่วโมง โดยอ้างว่าเป็นระเบียบ การใส่ตรวนหรือกุญแจมือตลอดเวลา หากการกระทำนั้นไม่ใช่การทรมาน เพราะไม่ได้ต้องการข้อมูลหรือคำรับสารภาพ แต่เป็นการลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ลง
http://www.dailynews.co.th/Content/Article/243366/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87+%E0%B8%9C%E0%B8%9A%E0%B8%8A.%E0%B8%A0.7+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5+%E2%80%98%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E2%80%99+%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%A5
|