เสนอตั้งเขตพื้นที่พิเศษวิถีชาวเล พร้อมขอขยายเวลาออกไปอีกสามปี
โพสเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2556 10:59 น.
ดร.โสมสุดา ลียะวณิช ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการอำนวยการบูรณาการนโยบายเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตและแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิตให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน การศึกษา วัฒนธรรมท้องถิ่น แต่เนื่องจากระยะเวลาการดำเนินการตามมติครม. เป็นระยะ 1-3 ปี และได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานตามมติไม่เพียงพอ เพราะบางปัญหาเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้ระยะเวลายาวนาน เช่น ปัญหาเรื่องสัญชาติ พบว่าขณะนี้ มีชาวเลกว่า 600คน ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงปัญหาเรื่องอาชีพและพื้นที่ทำกินที่ทำให้วิถีชีวิตของชาวเลเปลี่ยนไป เนื่องจากขณะนี้มีกฎหมายต่างๆ ออกมา ทั้งเรื่องการอนุรักษ์พันธุ์พืช สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ในเขตอุทยานที่ชาวเลเคยทำมาหากิน ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้ จึงได้หารือกันในเบื้องต้นว่า อาจมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ โดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ เพื่อร่วมกันพิจารณาการขยายเวลาตามมติ ครม. ออกไปอีก 3 ปี เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลต่อไป
ดร.โสมสุดากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้เสนอพื้นที่นำร่องเขตสังคมและวัฒนธรรมพิเศษในเบื้องต้นไว้ 9 แห่ง ได้แก่
1.ชุมชนมอแกนเกาะเหลา จ.ระนอง
2.ชุมชนมอแกนหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา
3.ชุมชนมอแกนบ้านทับตะวัน จ.พังงา
4.ชุมชนบ้านลำแก่น (ท้ายเมือง)จ.พังงา
5.ชุมชนบ้านเหนือ (หินลูกเดียว)จ.ภูเก็ต
6.ชุมชนอูรักลาโว้ยบ้านสะปำ จ.ภูเก็ต
7.ชุมชนอูรักลาโว้ยและมอแกนหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต
8.ชุมชนอูรักลาโว้ยโต๊ะบาหลิ่ว เกาะลันตา จ.กระบี่
9.ชุมชนอูรักลาโว้ยบ้านสังกาอู้ เกาะลันตา จ.กระบี่
แนวคิดสำหรับพื้นที่เหล่านี้ คืออาจเป็นพื้นที่ดำเนินงานได้ก่อนในส่วนของการสร้างความมั่นคงเรื่องพื้นที่ตั้งหมู่บ้าน พื้นที่ทำมาหากินและพื้นที่ทางจิตวิญญาณ และในช่วงต่อไปอาจจะเป็นการสร้างความมั่นคงเรื่องอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจทางวัฒนธรรม ซึ่งทางคณะกรรมการ จะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาต่อไป
|