สมัครสมาชิก   
| |
ค้นหาข้อมูล
ค้นหาแบบละเอียด
  •   ความเป็นมาและหลักเหตุผล

    เพื่อรวบรวมงานวิจัยทางชาติพันธุ์ที่มีคุณภาพมาสกัดสาระสำคัญในเชิงมานุษยวิทยาและเผยแผ่สาระงานวิจัยแก่นักวิชาการ นักศึกษานักเรียนและผู้สนใจให้เข้าถึงงานวิจัยทางชาติพันธุ์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

  •   ฐานข้อมูลจำแนกกลุ่มชาติพันธุ์ตามชื่อเรียกที่คนในใช้เรียกตนเอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1. ชื่อเรียกที่ “คนอื่น” ใช้มักเป็นชื่อที่มีนัยในทางเหยียดหยาม ทำให้สมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รู้สึกไม่ดี อยากจะใช้ชื่อที่เรียกตนเองมากกว่า ซึ่งคณะทำงานมองว่าน่าจะเป็น “สิทธิพื้นฐาน” ของการเป็นมนุษย์

    2. ชื่อเรียกชาติพันธุ์ของตนเองมีความชัดเจนว่าหมายถึงใคร มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างไร และตั้งถิ่นฐานอยู่แห่งใดมากกว่าชื่อที่คนอื่นเรียก ซึ่งมักจะมีความหมายเลื่อนลอย ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงใคร 

     

    ภาพ-เยาวชนปกาเกอะญอ บ้านมอวาคี จ.เชียงใหม่

  •  

    จากการรวบรวมงานวิจัยในฐานข้อมูลและหลักการจำแนกชื่อเรียกชาติพันธุ์ที่คนในใช้เรียกตนเอง พบว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 62 กลุ่ม


    ภาพ-สุภาษิตปกาเกอะญอ
  •   การจำแนกกลุ่มชนมีลักษณะพิเศษกว่าการจำแนกสรรพสิ่งอื่นๆ

    เพราะกลุ่มชนต่างๆ มีความรู้สึกนึกคิดและภาษาที่จะแสดงออกมาได้ว่า “คิดหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นใคร” ซึ่งการจำแนกตนเองนี้ อาจแตกต่างไปจากที่คนนอกจำแนกให้ ในการศึกษาเรื่องนี้นักมานุษยวิทยาจึงต้องเพิ่มมุมมองเรื่องจิตสำนึกและชื่อเรียกตัวเองของคนในกลุ่มชาติพันธุ์ 

    ภาพ-สลากย้อม งานบุญของยอง จ.ลำพูน
  •   มโนทัศน์ความหมายกลุ่มชาติพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาต่างๆ กัน

    ในช่วงทศวรรษของ 2490-2510 ในสาขาวิชามานุษยวิทยา “กลุ่มชาติพันธุ์” คือ กลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมเฉพาะแตกต่างจากกลุ่มชนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นการกำหนดในเชิงวัตถุวิสัย โดยนักมานุษยวิทยาซึ่งสนใจในเรื่องมนุษย์และวัฒนธรรม

    แต่ความหมายของ “กลุ่มชาติพันธุ์” ในช่วงหลังทศวรรษ 
    2510 ได้เน้นไปที่จิตสำนึกในการจำแนกชาติพันธุ์บนพื้นฐานของความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยตัวสมาชิกชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ... (อ่านเพิ่มใน เกี่ยวกับโครงการ/คู่มือการใช้)


    ภาพ-หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต บ้านของอูรักลาโว้ย
  •   สนุก

    วิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียน
    ปกาเกอะญอ  อ. แม่ลาน้อย
    จ. แม่ฮ่องสอน


    ภาพโดย อาทิตย์    ทองดุศรี

  •   ข้าวไร่

    ผลิตผลจากไร่หมุนเวียน
    ของชาวโผล่ว (กะเหรี่ยงโปว์)   
    ต. ไล่โว่    อ.สังขละบุรี  
    จ. กาญจนบุรี

  •   ด้าย

    แม่บ้านปกาเกอะญอ
    เตรียมด้ายทอผ้า
    หินลาดใน  จ. เชียงราย

    ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ถั่วเน่า

    อาหารและเครื่องปรุงหลัก
    ของคนไต(ไทใหญ่)
    จ.แม่ฮ่องสอน

     ภาพโดย เพ็ญรุ่ง สุริยกานต์
  •   ผู้หญิง

    โผล่ว(กะเหรี่ยงโปว์)
    บ้านไล่โว่ 
    อ.สังขละบุรี
    จ. กาญจนบุรี

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   บุญ

    ประเพณีบุญข้าวใหม่
    ชาวโผล่ว    ต. ไล่โว่
    อ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

    ภาพโดยศรยุทธ  เอี่ยมเอื้อยุทธ

  •   ปอยส่างลอง แม่ฮ่องสอน

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ปอยส่างลอง

    บรรพชาสามเณร
    งานบุญยิ่งใหญ่ของคนไต
    จ.แม่ฮ่องสอน

    ภาพโดย เบญจพล  วรรณถนอม
  •   อลอง

    จากพุทธประวัติ เจ้าชายสิทธัตถะ
    ทรงละทิ้งทรัพย์ศฤงคารเข้าสู่
    ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อแสวงหา
    มรรคผลนิพพาน


    ภาพโดย  ดอกรัก  พยัคศรี

  •   สามเณร

    จากส่างลองสู่สามเณร
    บวชเรียนพระธรรมภาคฤดูร้อน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   พระพาราละแข่ง วัดหัวเวียง จ. แม่ฮ่องสอน

    หล่อจำลองจาก “พระมหามุนี” 
    ณ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
    ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระพุทธรูป
    คู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่ง

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม

  •   เมตตา

    จิตรกรรมพุทธประวัติศิลปะไต
    วัดจองคำ-จองกลาง
    จ. แม่ฮ่องสอน
  •   วัดจองคำ-จองกลาง จ. แม่ฮ่องสอน


    เสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    เมืองไตแม่ฮ่องสอน

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ใส

    ม้งวัยเยาว์ ณ บ้านกิ่วกาญจน์
    ต. ริมโขง อ. เชียงของ
    จ. เชียงราย
  •   ยิ้ม

    แม้ชาวเลจะประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย
    พื้นที่ทำประมง  แต่ด้วยความหวัง....
    ทำให้วันนี้ยังยิ้มได้

    ภาพโดยเบญจพล วรรณถนอม
  •   ผสมผสาน

    อาภรณ์ผสานผสมระหว่างผ้าทอปกาเกอญอกับเสื้อยืดจากสังคมเมือง
    บ้านแม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน
    ภาพโดย อาทิตย์ ทองดุศรี
  •   เกาะหลีเป๊ะ จ. สตูล

    แผนที่ในเกาะหลีเป๊ะ 
    ถิ่นเดิมของชาวเลที่ ณ วันนี้
    ถูกโอบล้อมด้วยรีสอร์ทการท่องเที่ยว
  •   ตะวันรุ่งที่ไล่โว่ จ. กาญจนบุรี

    ไล่โว่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ผาหินแดง เป็นชุมชนคนโผล่งที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า 
    อาณาเขตของตำบลไล่โว่เป็นส่วนหนึ่งของป่าทุ่งใหญ่นเรศวรแถบอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

    ภาพโดย ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
  •   การแข่งขันยิงหน้าไม้ของอาข่า

    การแข่งขันยิงหน้าไม้ในเทศกาลโล้ชิงช้าของอาข่า ในวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่บ้านสามแยกอีก้อ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
 
  ข่าวชาติพันธุ์

พบแล้ว36ศพ-ไหม้เกรียมคาค่ายอพยพ
โพสเมื่อวันที่ 25 มี.ค 2556 09:17 น. 



"ปู"สั่งจากนิวซีแลนด์ให้เร่งช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง เหยื่อไฟไหม้ศูนย์อพยพขุนยวม ล่าสุดพบแล้ว 36 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย มีสูญหายอีก บ้านถูกเผาวอด 400 หลัง ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนแก่และเด็ก "ยูเอ็น" ยื่นมือช่วยเร่งสร้างที่พักชั่วคราว ผู้ว่าฯ ยันสาเหตุเกิดจาก จุดไฟหุงหาอาหาร ไม่ใช่ไฟป่า ชี้ไม่พบร่องรอยเผาไหม้บริเวณใกล้เคียง ทางจังหวัดเปิดบัญชีรับบริจาคอีกทาง เกิดเหตุสลดซ้ำ จนท.ดับไฟป่าจากแปดริ้วนำกำลังไปสนับสนุน แต่ไม่ชำนาญทางแหกโค้งตกเหวที่ปาย ตาย 2 ศพ 



ไหม้ศูนย์อพยพ-ย่าง 30 ศพ 
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ของชาวกะเหรี่ยงผู้อพยพหนีภัยสู้รบจากประเทศพม่า มีจำนวนเกือบ 4,000 คน แต่เนื่องจากบ้านปลูกติดกันแออัด สร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาด้วยใบตองแห้ง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไม่ต่างกับทะเลเพลิง อีกทั้งไม่มีหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ และอยู่ในป่าลึกทุรกันดาร โดยในเบื้องต้นมีบ้านถูกเผากว่า 400 หลัง ถูกไฟคลอกเสียชีวิตกว่า 30 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากจุดไฟหุงหาอาหาร หรือไม่ก็อาจเกิดจากไฟป่าลุกลาม เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นต่อเนื่องถึงค่ำวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ว่าตลอดทั้งคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงช่วงเช้า เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 กองทัพภาคที่ 3 ต่างระดมกำลังเข้าช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงที่ประสบเพลิงไหม้ โดยค้นหาผู้เสียชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ตามซากเพลิงไหม้ในจุดต่างๆ ภายในศูนย์ ขณะเดียวกัน หน่วยงานในท้องถิ่นนำผ้าพลาสติกขนาดใหญ่สร้างที่พักชั่วคราว ส่วนผู้สูงอายุและเด็กจัดให้พักที่โบสถ์และโรงเรียน คาดว่ามีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 2,000 คน 



นาทีทะเลเพลิง-วอด 400 หลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 มี.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่า ดอยเวียงหล้า จ.แม่ฮ่องสอน รายงานแจ้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.แม่ฮ่องสอน ว่า เกิดเหตุไฟป่าไหม้บ้านเรือนผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง ภายในศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน มีผู้อพยพหนีภัยสู้รบจากประเทศพม่า อาศัยอยู่เกือบ 4,000 คน รวม 400 หลังคาเรือน โดยไฟเผาบ้านเรือนในบล็อกที่ 1 จนหมดสิ้น เนื่องจากบ้านทุกหลังก่อสร้างด้วยไม้ไผ่หลังคามุงด้วยใบตองตึง ปลูกอยู่ติดกันเป็นแถวยาวจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ก่อนลุกลามไปยังบล็อกอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 บล็อก บล็อกละ 100 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังไหม้บ้านพัก อส. โรงเรียน โรงพยาบาล โกดังเก็บอาหาร อีก 2 หลัง มีผู้เสียชีวิตทันที 30 ราย มีผู้บาดเจ็บอีกนับ 100 ราย และคาดว่าผู้เสียชีวิตยังจะมีมากกว่านี้



คาดจุดไฟหุงข้าว-ต้นตอเพลิง
ต่อมานางนฤมล ปาลวัฒน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังศูนย์พักพิงบ้านแม่สุริน เพื่ออำนวยการช่วยเหลือและดูแลผู้อพยพที่รอดชีวิต บาดเจ็บ และไร้ที่อยู่อาศัย โดยลำเลียง อาหาร น้ำดื่ม และเครื่องนุ่งห่มกันหนาว จากจังหวัดเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้อพยพ ในส่วนของการรักษาพยาบาลคนเจ็บ ทางร.พ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน จัดส่งทีมแพทย์ฉุกเฉิน และทีมแพทย์จาก ร.พ.ขุนยวม เข้าไปตั้งหน่วยแพทย์ในพื้นที่ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 มี.ค. เจ้าหน้าที่สรุปยอดผู้เสียชีวิตที่ 42 ศพ แต่คาดว่าน่าจะมีมากกว่านี้ ส่วนจำนวนผู้อพยพที่เหลือและสูญหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากผู้อพยพส่วนใหญ่อยู่ในอาการหวาดกลัว และพลัดหลงกับญาติพี่น้อง 


สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ในเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากผู้อพยพรายหนึ่งจุดไฟหุงต้มอาหาร และมีสะเก็ดไฟปลิวไปติดใบตองตึงที่ใช้มุงหลังคา ประกอบกับสภาพอากาศร้อน ทำให้ไฟลุกไหม้จากชุมชนที่ 1 ไปยังชุมชนที่ 4 จนวอดหมดทั้งชุมชน ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่บนที่สูงพื้นที่ลาดชัน ทำให้ควันไฟปลิวขึ้นที่สูงจนไม่สามารถลงมาได้และเกิดอาการสำลักควันไฟ 



ป่าไม้จะไปช่วย-รถตกเหว 
นอกจากนี้ เวลา 12.50 น. ร.ต.ท.สี่ทิศ อ่ำถนอม ร้อยเวร สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกตกเหว บริเวณหลัก ก.ม.ที่ 84 ก่อนถึงตัวอำเภอปาย 15 ก.ม. เป็นทางโค้งหักศอกลงเขา หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ของกรมป่าไม้ ทะเบียน 97-0082 กทม. พลิกคว่ำตกเหวข้างทาง ลึกจากขอบถนน15 เมตร พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อ นายอำนาจ ดวงสวัสดิ์ และ นายสุทิน ยงลำ และมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน จึงลำเลียงส่งร.พ.ปาย 

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าจาก จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาสนับสนุนดับไฟป่าใน อ.ขุนยวม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งลงเขา คาดว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง ก่อนแหกโค้งตกเหว



จังหวัดเปิดบัญชีรับบริจาค 
นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าจากการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ทางจังหวัดสั่งให้ตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจจะเป็นผู้เข้าดำเนินการ ในส่วนของศพผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากการพิสูจน์แล้ว พบว่ามีทั้งหมด 36 ราย แต่ที่ก่อนหน้านั้นมียอดตัวเลขสูงผิดปกติ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบในช่วงเวลากลางคืน โดยนับซากสัตว์เลี้ยงที่ตาย ทั้งหมู และสุนัข รวมเข้าไปด้วย สำหรับศพผู้เสียชีวิต หากพิสูจน์ทราบเป็นที่ชัดเจนแล้ว จะทำพิธีทางศาสนาคริสต์ต่อไป 



สุดสลด - สภาพศพผู้เสียชีวิตภายในศูนย์อพยพบ้านแม่สุริน ถูกไฟเผาดำเป็นตอตะโก นอนตายหมู่ในกองเพลิงอย่างน่าสลดใจ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วระบุสาเหตุเกิดจากการหุงหาอาหารในที่พัก แล้วไหม้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ตามข่าว
 






















ผวจ.แม่ฮ่องสอนกล่าวต่อว่า ในส่วนของการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เบื้องต้นทางจังหวัดให้ผู้ไร้ที่อยู่กว่า 2,000 ราย ไปอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง สำหรับที่พักอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่พักถาวร ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติจะจัดงบประมาณให้ ส่วนทางจังหวัดและกองทัพภาคที่ 3 จะสนับสนุนด้านกำลังพล และตั้งโรงอาหาร ขณะที่ทางจังหวัดตั้งศูนย์บัญชาการอำนวยการความช่วยเหลือในพ้นที่ รวมทั้งที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเทศบาลตำบลขุนยวม ผู้มี จิตกุศลร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาแม่ฮ่องสอน ชื่อบัญชี เงินช่วยเหลือ ผู้ประสบอัคคีภัยศูนย์พักพิงแม่สุริน เลขที่ บัญชี 508-0-256109



"ยูเอ็น"เร่งสร้างที่พักใหม่ 
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ สองพร้อมลงรูปภาพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยระบุว่าทางการไทยระดมหน่วยกู้ภัยจำนวนมากจากพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อขุดหาศพผู้เสียชีวิตภายใต้กองเถ้าถ่าน อีกทั้งผู้อพยพจำนวนมากยังคงไร้ที่อยู่อาศัย และต้องการความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน



ด้านช่างภาพของเอเอฟพีที่อยู่ในพื้นที่ รายงานว่าผู้อพยพบางส่วนเริ่มออกตัดไม้ไผ่ในบริเวณที่รอดจากเปลวเพลิง เพื่อนำมาสร้างบ้านพักชั่วคราวแล้ว โดยความเสียหายในครั้งนี้ เกิดเป็นวงกว้าง ทำลายบ้านเรือนไปราว 400 หลัง และยังระบุว่า สภาพศพผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ไหม้เกรียมจนไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานได้ อีกทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อรวมกับกระแสลมที่พัดแรง ทำให้ความเสียหายรุนแรงดังที่ปรากฏ



ส่วนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติที่ปฏิบัติการช่วยเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ กล่าวว่าตอนนี้ทางหน่วยกำลังเร่งช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ อันดับแรกสุดคือการเร่งมือสร้างที่พักชั่วคราวเพื่อรองรับผู้อพยพทุกคน 




"ปู"เป็นห่วง-สั่งมท.ลงพื้นที่ 
สำหรับการช่วยเหลือจากส่วนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการทางไกลมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และองค์การระหว่างประเทศ จัดตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด และล่าสุดคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ และอำนวยการแก้ไขปัญหาโดยด่วนแล้ว



โดย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปยังศูนย์อพยพบ้านแม่สุริน พร้อมทั้งอำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหา และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยตนเอง โดยสั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์เข้าพื้นที่โดยด่วน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงเน้นย้ำดูแลผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับความเดือดร้อนให้ดีที่สุดตามหลักมนุษยธรรม พร้อมจัดหาเต็นท์ และตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัยโดยด่วน



พบแล้ว 36 ศพ-สูญหายอีก 1
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจาก จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ล่าสุดทางจังหวัดยืนยันพบผู้เสียชีวิตแล้ว 36 ราย สูญหาย 1 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่นิติเวช จากส่วนกลาง และ จ.ลำปาง จ.เชียงใหม่ ชันสูตรพลิกศพไปแล้ว 5 ราย ส่วนรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บทั้งสิ้นประมาณ 100 คน มี 5 รายที่บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งร.พ.ขุนยวม ร.พ.ศรีสังวาลย์ และร.พ.มหาราชเชียงใหม่ ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือได้รับการปฐมพยาบาลในศูนย์อพยพฯ ตั้งเต็นท์ผู้ประสบภัยห่างจากพื้นที่เกิดเหตุประมาณ 700 เมตร 


สำหรับศูนย์อพยพดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยง นับถือศาสนาคริสต์ มีประชากรทั้งสิ้น 3,826 คน จดทะเบียนกับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้ว 1,705 คน พื้นที่ทั้งหมดมีจำนวน 4 โซน โซนละ 100 หลังคาเรือน ไฟไหม้โซนที่ 1 และ 4 จนวอดไปแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ช.ม. จึงสกัดเพลิงไม่ให้ลุกไหม้ไปโซนอื่นได้ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง และทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลกว่าร้อยคน 



ผู้ว่าฯชี้สาเหตุหุงหาอาหาร 
นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวอีกครั้งว่า สั่งการให้ผู้ประสบภัยจากโซนที่ 1 และ 4 ย้ายไปอยู่ที่โซนที่ 2 และ 3 แล้ว ส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา ส่วนทางองค์กรยูเอ็นเอชซีอาร์เตรียมมอบเต็นท์ 800 หลัง พร้อมผ้าห่ม 1,000 ผืน สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม เข้าไปสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่แท้จริง แต่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุไฟไหม้ว่าจะเป็นไฟป่าหรือไม่ เพราะไม่มีร่องรอยการเผาไหม้จากป่าใกล้เคียง คาดว่าน่าจะเกิดจากการใช้ไฟเพื่อหุงต้มในครัวเรือนมากกว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีชาวบ้านเห็นเครื่องบินวนที่ศูนย์อพยพก่อนเกิดเหตุไฟไหม้นั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง และไม่อยากให้โยงไปทางประเด็นความมั่นคง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน



ช่วงเย็นวันเดียวกัน รายงานข่าวจาก ร.พ.มหาราชเชียงใหม่ แจ้งว่านายปาทู ชาวกะเหรี่ยงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตแล้ว"ปู"สั่งจากนิวซีแลนด์ให้เร่งช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง เหยื่อไฟไหม้ศูนย์อพยพขุนยวม ล่าสุดพบแล้ว 36 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย มีสูญหายอีก บ้านถูกเผาวอด 400 หลัง ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนแก่และเด็ก "ยูเอ็น" ยื่นมือช่วยเร่งสร้างที่พักชั่วคราว ผู้ว่าฯ ยันสาเหตุเกิดจาก จุดไฟหุงหาอาหาร ไม่ใช่ไฟป่า ชี้ไม่พบร่องรอยเผาไหม้บริเวณใกล้เคียง ทางจังหวัดเปิดบัญชีรับบริจาคอีกทาง เกิดเหตุสลดซ้ำ จนท.ดับไฟป่าจากแปดริ้วนำกำลังไปสนับสนุน แต่ไม่ชำนาญทางแหกโค้งตกเหวที่ปาย ตาย 2 ศพ 

ที่มา
ข่าวสด
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8151 ข่าวสดรายวัน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNekkwTURNMU5nPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE15MHdNeTB5TkE9PQ==





  ย้อนกลับ   

 

ฐานข้อมูลอื่นๆของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
  ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย
จารึกในประเทศไทย
จดหมายเหตุทางมานุษยวิทยา
แหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
หนังสือเก่าชาวสยาม
ข่าวมานุษยวิทยา
ICH Learning Resources
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย
ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ฐานข้อมูลสังคม - วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  หน้าหลัก
งานวิจัยชาติพันธุ์ในประเทศไทย
บทความชาติพันธุ์
ข่าวชาติพันธุ์
เครือข่ายชาติพันธุ์
เกี่ยวกับเรา
เมนูหลักภายในเว็บไซต์
  ข้อมูลโครงการ
ทีมงาน
ติดต่อเรา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ช่วยเหลือ
  กฏกติกาและมารยาท
แบบสอบถาม
คำถามที่พบบ่อย


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 
Tel. +66 2 8809429 | Fax. +66 2 8809332 | E-mail. webmaster@sac.or.th 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549    |   เงื่อนไขและข้อตกลง