ประกาศเขตคุ้มครองวัฒนธรรม ชุมชนปกาเกอะญอ(กะเหรี่ยง)
โพสเมื่อวันที่ 11 มี.ค 2556 10:40 น. 

8 มีค 56 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ที่ชมุชนบ้านห้วยหินลาด หมู่ 7 ต.บ้านโป่งอำเภอเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยผู้นำชนเผ่าชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และประชากร ลูกบ้านพร้อมทั้งตัวแทนจากองค์กรนานาชาติและภาครัฐบาลของไทย ได้ร่วมกันจัดพิธีสถาปนาสิทธิชุมชน     ประกาศค้มครองเขตพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษ "ชุมชนปกาเกอะญอ" (กะเหรี่ยง)ตามอำนาจในกฏหมายรัฐธรรมนูญ หมวดสิทธิชุมชน ม.66-67พื้นที่ผ่านการอนุมัติเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนนำร่องตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วย การจัดให้มีโฉนดชุมชนปี 2535พื้นที่ดำเนินการนำร่องตามมติ ครม.3 สิงหาคม 2535 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและปฏิญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ การประกาศคุ้มครองเขตพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษครั้งนี้เป็นการเห็นชอบร่วมกันของคนในชุมชนถีงการประกาศเจตนารมสู่สาธารณะชนให้รับทราบและยอมรับ และ เป็นการใช้มติครม.3 สิงหาคม การพื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์กะเหรี่ยงให้เป็นรูปธรรม ที่อยู่บนพื้นฐานของความเรียบง่าย สามัคคีเอื้อเฟื้อและยั่งยืน

ผู้นำชนเผ่าชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เปิดเผยว่า มติ ครม. 3 ส.ค.53 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธู์กะเหรี่ยง โดยมีชุมชนนำร่องในประเทศไทย 4 ชุมชน 1 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 2 หมู่บ้านเลตอคุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก 3 บ้านมอวาคี ต.แม่วิน อ.แม่วางเชียงใหม่ 4 บ้านห้วยหินลาดใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 ได้เน้นประเด็น 4 ประเด็นในการฟื้นฟูวิธีชีวิตชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ดังนี้ 1 การศึกษา 2 ศิลปวัฒนธรรม 3 การจัดสิ่งแวดล้อม 4 ปัญหาสัญชาติ ซึ่งในชุมชนนำร่องมีความโดดเด่นเฉพาะด้าน ที่แตกต่าง กันไปในแต่ละพื้นที่

ในส่วนเฉพาะบ้านห้วยหินลาดใน โดดเด่นในเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนบ้านห้วยหินลาด เป็นการจัดการโดยการใช้ความเข้าใจในระบบของธรรมชาติผ่านภูมิปัญญาที่สืบทอด จากบรรพบุรุษ มีความเชื่อ ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม โดยที่ชาวบ้านอยู่ในความเคารพในสิ่งที่เป็นธรรมชาติ และสิ่งที่เหนือธรรมชาติ การที่ชาวบ้านมีความเคารพต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ คือการสร้างความเคารพต่อธรรมชาติ ทำให้ใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเคารพ และส่งผลให้ชาวบ้านอยู่กับธรรมชาติได้อย่างสมดุลขณะเดียวกันชาวบ้านยังมีความพยายามที่จะเรียนรู้และศึกษาความรู้ใหม่ๆ โดยการทำงานวิจัยในชุมชนร่วมกับหลายมหาวิทยาลัย ซึ่งหัวข้อวิจัยทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม

 
ที่มา นสพ แนวหน้า วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2556
http://www.naewna.com/local/44197