ความฝันเด็กดอย หลังได้รับสัญชาติ
โพสเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2556 09:38 น.
ความฝันเด็กดอย หลังได้รับสัญชาติ
สดจากเยาวชน

เจี๊ยบกับฤทัย
|
"อนาคตหนูอยากเป็นหมอ กลับมารักษาคนในหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านที่นี่ป่วยบ่อยมาก เดี๋ยวก็ปวดหัว ตัวร้อนตลอด ไม่สบายกันอยู่บ่อยๆ สถานีอนามัยก็อยู่ไกล มากกว่าจะเดินทางไปถึงต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง"
ด.ญ.พิรกา โชติรวัฒน์ หรือ ฤทัย อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ บ้านผาแดง ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงความฝันในอนาคตของเธอด้วยแววตามุ่งมั่น
ขณะที่ ด.ญ.นันทกา อามรุงสาคร หรือ เจี๊ยบ อายุ 14ปี นักเรียนร่วมชั้นและโรงเรียนเดียวกับฤทัย บอกว่าเธอฝันอยากเป็นครูจะได้กลับมาสอนน้องๆ ที่หมู่บ้านให้ได้รับการศึกษาที่ดีมีความรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวให้ดีขึ้น
หากมีความมุ่งมั่นและเพียรพยายามอย่างเต็มกำลังแล้ว ความฝันของสองสาวน้อยชาวกะเหรี่ยงคงไม่ไกลเกินเอื้อมนัก ด้วยปัจจุบันเธอและเพื่อนๆ นักเรียนในโรงเรียนเดียวกันนี้ต่างได้รับสัญชาติไทยแล้ว นั่นหมายถึงทุกคนมีโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น
ร้อยตำรวจเอกสนั่น กาวิ ครูใหญ่โรงเรียนตชด.ท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ กล่าวว่าชาวบ้านแถบนี้ได้รับสัญชาติไทยทุกคนแล้ว ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่สมควรได้รับในฐานะคนไทย ส่วนเด็กๆ ก็จะมีโอกาสทางการศึกษาถึงระดับปริญญาตรีมากขึ้น ต่างจากในอดีตที่พอจบ ป.6 ต้องหันเหไปเรียนสายอาชีพแทนเพราะไม่ได้สัญชาติไทยจึงไม่สามารถเรียนต่อในระดับสูงไปกว่านี้ได้ ปัจจุบันผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการศึกษาส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนมากขึ้น ประกอบกับอาคารสถานที่ของโรงเรียนก็พร้อมสำหรับการเรียนการสอนมากขึ้นเช่นกัน
"อาคารเรียนหลังใหม่นั้นบริษัท ปูนซีเมนต์ นครหลวง จำกัด (มหาชน) จัดงบประมาณมาสร้างให้จำนวน 4 ห้องเรียน และ 1 ห้องสมุด ดำเนินการสร้างโดยนักศึกษาจิตอาสาจากวิทยาลัยเทคนิคลำพูน จากเดิมที่เรามีเพียงอาคารไม้หลังเก่าเพียงอาคารเดียวเท่านั้น ภายหลังจากโรงเรียนได้รับความช่วยเหลือด้านต่างๆ จากหลายหน่วยงานทำให้พึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนี้ไปเราต้องพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้เด็กของเราเก่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น"
เรืออากาศโทคันธนิธิ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานด้านธุรกิจสัมพันธ์ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนอินทรี กล่าวว่า อาคารที่สร้างมอบให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ เป็นหนึ่งในโครงการโรงเรียนสีเขียว หรือ Green School ของบริษัท ร่วมกับสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี 2553-2556) ในการสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ในการออกแบบอาคาร
นายจักรกฤษณ์ จูเจริญ สถาปนิก ผู้ออกแบบอาคาร กล่าวถึงแนวความคิดในการออกแบบว่าใช้หลักเกณฑ์อาคารเขียว (Green Building) เน้นโครงสร้างที่แข็งแรง จึงใช้วัสดุที่คงทนถาวร ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง ส่วนตัวอาคารออกแบบให้ล้อไปกับอาคารเก่าวางเป็นแนวเดียวกัน โดยยกระดับให้สูงขึ้นไปอีก อาคารจะโปร่ง โล่ง มีเฉลียงและระเบียงหน้าห้องให้เด็กๆ มานั่งอ่านหนังสือ ด้านข้างอาคารปล่อยพื้นที่ให้ว่าง อยากให้เด็กๆ มีกิจกรรมนอกห้องเรียนบ้างไม่ใช่อยู่แต่ในห้องเรียน การออกแบบอาคารจึงเน้นให้มีพื้นที่ว่างสำหรับประกอบกิจกรรมของเด็กๆ
สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงประไพ ศิวะโกเศศ ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เดิมเป็นศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" บ้านผาแดง และเนื่องจากในพื้นที่อำเภออมก๋อยยังมีปัญหาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานยังไม่ทั่วถึง สมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจัดตั้งศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนขึ้น เพื่อให้บริการด้านการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่หมู่บ้านผาแดงและหมู่บ้านใกล้เคียง โดยเปิดทำการสอนในปี 2550 ตั้งแต่ระดับชั้นก่อนอนุบาลถึงระดับประถมศึกษา ปัจจุบันมีนักเรียน 105 คน ครู 8 คน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารอินทรีอาสาอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมา
ที่มา
http://www.khaosod.co.th/
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8125 ข่าวสดรายวัน
|