ศาลปค.กลางนัดอ่านคำพิพากษา10ม.ค.คดีปล่อยน้ำเสียมีสารตะกั่วปนในลำห้วยคลิตี้
โพสเมื่อวันที่ 09 ม.ค. 2556 08:37 น.
วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.๕๙๗/๒๕๕๑ ระหว่างนายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ที่ ๑
กับพวกรวม ๒๒ คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรมควบคุมมลพิษ (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับ กา รกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการปฎิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
(คดีนี้ นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๒ คน โดยนายสุรชัย ตรงงาม ผู้รับมอบอำนาจ ฟ้องว่า กรมควบคุมมลพิษไม่ตรวจสอบการประกอบกิจการบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอ เนื่องจากบริษัทฯ ปล่อยน้ำเสียซึ่งมีสารตะกั่วเจือปนในลำห้วยคลิตี้ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีและราษฎรได้รับความเสียหาย โดยขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเข้าดำเนินการกำจัดมลพิษและฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ฯ ผู้ก่อมลพิษในภายหลัง และกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๑ โดยศาลวินิจฉัยว่า นับแต่มีการปนเปื้อนของสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้ผู้ถูกฟ้องคดีได้เข้าสำรวจและเก็บตัวอย่างน้ำ ดินและตะกอนดินท้องน้ำมาตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน พบว่าระยะแรกมีการปนเปื้อนของสารตะกั่วสูงเกินมาตรฐาน เมื่อมีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นต่อทรัพยากรน้ำและดินในบริเวณพิพาทโดยนับตั้งแต่เกิดเหตุจนกระทั่งถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลานานกว่า ๑๐ ปี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้ดำเนินการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด แม้ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีจะมีหนังสือลงวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๐ ชี้แจงต่อศาลว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการประเมินค่าเสียหายก็ตามแต่ก็เป็นการดำเนินการหลังจากที่ผู้ฟ้องคดีนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลและศาลออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกแล้ว กรณีจึงฟังได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่ในการเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทฯ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ จึงพิพากษาว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่กรณีไม่ดำเนินการเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และปฏิบัติหน้าที่ในการฟื้นฟูหรือระงับการปนเปื้อนของสารตะกั่วล่าช้าเกินสมควร และให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองคนแต่ละรายเป็นเงิน ๓๓,๗๘๓ บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น ๗๔๓,๒๒๖ บาท ทั้งนี้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุดส่วนค่าธรรมเนียมศาลให้คืนแก่ผู้ฟ้องคดี ตามส่วนแห่งการชนะคดี
ทั้งนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๑ และผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาทางไปรษณีย์ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๑ และศาลปกครองสูงสุด ได้นั่งพิจารณาคดีครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕)
ณ ห้องพิจารณาคดี ๗ ชั้น ๓ อาคารศาลปกครอง เลขที่ ๑๒๐ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
ที่มา
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=162694%3A10&catid=176%3A2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.UOzA6HxcqfI.facebook
|