มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี – คณะอนุกรรมการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงร่วมกับเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมตะวันตก 6 จังหวัดเร่งผลักดันให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติ ครม.เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตกะเหรี่ยงที่ออกมาสองปีที่แล้วให้นำไปปฏิบัติจริง หลังไร้วี่แววปฏิบัติ โดยชูให้เห็นความสำคัญทางมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ภายหลังจากที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตกะเหรี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2553 แต่ยังไร้วี่แววในทางปฏิบัติ ทางคณะอนุกรรมการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมตะวันตกจาก 6 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จัดโครงการประสานพลังท้องถิ่นเพื่อการผลักดันมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 ให้นำไปสู่การปฏิบัติ เมื่อวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2555 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี โดยมีแกนนำกะเหรี่ยงเข้าร่วมกว่า 100 คน
นาง
นาย
อนึ่ง ปัจจุบันกะเหรี่ยงทั้งภาคตะวันตกและภาคเหนือเผชิญภัยคุกคามหลายด้าน ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกทำลายป่า ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ป่ามานับร้อยปีและมีบทบาทรักษาป่ามาตลอด และยังถูกจำกัดการทำไร่หมุนเวียนโดยกล่าวหาว่าเป็นไร่เลื่อนลอย ทั้งที่มีงานศึกษาทั้งวิทยาศาสตร์และสังคมยืนยันตรงกันว่าเป็นระบบการผลิตบนที่สูงที่มีความยั่งยืนทางนิเวศและความมั่นคงอาหารมากที่สุด ในด้านสิทธิ หลายชุมชนไม่ได้รับรองสัญชาติ ทำให้เข้าไม่ถึงระบบสวัสดิการของรัฐทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณสุขและอื่นๆ อีกทั้งกระแสเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกำลังกระทบต่อวัฒนธรรมกะเหรี่ยงอย่างรุนแรง ดังนั้นคนกะเหรี่ยงต้องการฟื้นฟูวัฒนธรรมกะเหรี่ยง
การจัดงานเวทีประสานพลังท้องถิ่นเพื่อผลักดันมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 ผ่านกระบวนการความคิดเห็นของเครือข่ายกะเหรี่ยงในระหว่างวันที่ 28 - 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการผลักดันมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 ดังนี้
ข้อเสนอเชิงนโยบาย
เสนอต่อรัฐบาล / ราชการ
1. รัฐบาลต้องกำกับ ดูแลให้หน่วยงานราชการปฏิบัติตามมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 (การเข้าถึงบริการสาธารณะที่เท่าเทียมทั่วถึงเปรียบเสมือนประชาชนโดยทั่วไป
3. รัฐบาลต้องส่งเสริมให้เกิดกระบวนการพัฒนาร่วมระหว่างภาคราชการและชุมชนชาวบ้าน
เสนอต่อองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553
2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องออกระเบียบ / ประกาศที่เอื้อต่อมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553
3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูวัฒนธรรม
เสนอต่อองค์กรพัฒนา
1. องค์กรพัฒนาต้องส่งเสริมการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
2. องค์กรพัฒนาต้องสนับสนุนความรู้ให้กับชุมชนเพื่อการผลักดันมติครม. 3 สิงหาคม 2553 สู่การปฏิบัติ
ที่มา
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/41872