ชาวเลราไวย์ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน
โพสเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2555 09:02 น.
วันนี้ ( 19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวชุมชนราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 14 คน เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยผู้ร้องเรียนกล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันชาวชุมชนราไวย์ 2,000 กว่าคน ประมาณ 244 หลังคาเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากเอกชนรุกไล่ที่ดินอ้างเอกสารสิทธิเมื่อปี 2508 ที่ออกโฉนดที่ดินได้เมื่อปี 2514 มีการขับไล่มาโดยตลอด
ล่าสุดเมื่อปี 2552 เอกชนผู้อ้างสิทธิในที่ดินเริ่มฟ้องขับไล่ชาวชุมชนราไวย์จำนวน 10 ราย ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ชาวเล 2 รายทำการรื้อถอนขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดิน ส่วนอีก 8 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดีและกำลังทยอยฟ้องทั้งชุมชนเพราะต้องการสร้างโรงแรม ย้อนไปเมื่อปี 2550 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเคยตรวจสอบและให้ความเห็นว่า เอกชนได้อ้างสิทธิในที่ดินทำกินมีการออกเอกสารสิทธิมิชอบเห็นควรให้ทำการตรวจสอบและเพิกถอนเอกสารสิทธิ รวมทั้งออกเอกสารสิทธิให้กับชุมชนชาวราไวย์ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2553 รัฐบาลได้มีมติ ครม. เห็นชอบให้ใช้นโยบายการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล ตามแนวทางจัดทำพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษชาวเลและมอบให้กระทรวงวัฒนธรรมนำไปปฏิบัติและให้สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย และประกอบอาชีพประมงได้โดยใช้อุปกรณ์ดั้งเดิมของกลุ่มชาวเล
“พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวไทยใหม่อพยพมาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อประมาณกว่า 300 ปี ได้เข้าไปอาศัยอยู่บริเวณเกาะเฮย์และย้ายมาอยู่บริเวณหากราไวย์เมื่อประมาณ 100 กว่าปีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จเยี่ยมชุมชนเมื่อปี 2502 ชาวบ้านดำรงชีพด้วยการออกทะเลหาปลา ปลูกต้นมะพร้าวบ้านยกสูงพื้นปูด้วยฟากไม้ไผ่ ฝาบ้านใช้ไม้ไผ่หลังคามุงด้วยจากมะพร้าวใช้เปลือกต้นเสม็ดแช่น้ำมันยางจุดไฟ ออกทะเลหาปลา หรือทำไร่แต่พอกิน
ต่อมาเมื่อปี 2508 ถูกอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ชาวบ้านที่อยู่อาศัยขาดแคลนสาธารณูปโภค สภาพชุมชนแออัด ตกสำรวจ ไม่มีบัตรประชาชน เกิดความลำบากเป็นอย่างมากไม่สามารถสร้างห้องน้ำและปลูกสร้างสิ่งใด ๆ ได้อีกต่อไป
ปัญหาปัจจุบันคือ ถึงแม้ปัจจุบันประชาชนจำนวนประมาณ 130 หลังคาเรือนทีมีทะเบียนบ้านก็ไม่สามารถขอน้ำประปา และไฟฟ้าใช้ได้รวมทั้งถูกคัดค้านเนื่องจากไม่มีโฉนดที่ดิน ต้องอาศัยซื้อน้ำประปาและไฟใช้ แพงกว่าที่อื่น 3เท่า มีมีงบพัฒนาชุมชนถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่มีห้องน้ำใช้เพราะไม่สามารถต่อเติมที่อยู่อาศัยได้ ในชุมชนมีต้นมะพร้าวสูงเยอะมากเคยล้มทับบ้านหลายหลังคาเรือนแม้หากยืนต้นตายก็ตัดไม่ได้และไม่มีสิทธิ์โค่น บ่อน้ำสาธารณะถูกไล่กลบตลอดเวลา รวมทั้งพื้นที่สุสานและพิธีกรรมถูกเอกสารสิทธิ์ทับ และต้องออกหาปลาไกลขึ้น
ด้านนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาและต้องขอตรวจสอบในกระบวนการสอบสวนตามบทบาท อำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน สำหรับเรื่องสาธารณูปโภคจะดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นโดยเร็ว
ที่มา
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache%3AMjQ421FIlBYJ%3Awww.dailynews.co.th%2Fthailand%2F115339+%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7+%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1+%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A5&cd=6&hl=en&ct=clnk&fb_source=message
|