สดับเสน่ห์ดนตรีกะเหรี่ยงไล่โว่
บทความโดย :
โดยทีมงาน | โพสเมื่อวันที่ 03 ก.พ. 2555 09:40 น.
งานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ครั้งที่ 2 ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน) ผ่านไปด้วยดี ท่ามกลางความร่วมมือและความสนใจจากทุกภาคส่วนทั้งกระทรวงวัฒนธรรม ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ชาวพิพิธภัณฑ์ผู้มีใจรักในท้องถิ่นและผู้ชมที่สนใจในงานพิพิธภัณฑ์ ท้องถิ่น
ในส่วนของโครงการฐานข้อมูลงานวิจัยชาติพันธุ์จึงได้ถือโอกาสเก็บความ รื่นรมย์ด้วยบทเพลงกะเหรี่ยงแห่งทุ่งใหญ่นเรศวร ดินแดนผืนป่ามรดกโลกภาคตะวันตกที่ได้มาสร้างความสำราญ นำโดยคุณอภิชาติ เสตะพันธ์ ปราญช์ชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านไล่โว่ อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และเหล่าศิลปินกะเหรี่ยง คุณซ่วยจีมุ่ง สังขวิมล คุณหม่องโหล่ง กิจก้องกุล คุณส่วยจีโหม่ง สังขวิมล คุณหล่ง เกียรติก้องกุล คุณสมปอง ก้องไพรวัลย์ คุณรำไพร เพลินไพรเย็น ด.ญ รักธิดา สังขสุวรรณา ด.ญ. สมพร สังขวิมล และ ด.ญ. วารุณี สังขวิมล

อ.อภิชาติ อธิบายวิถีชีวิตกะเหรี่ยง ต. ไล่โว่ ว่า “พวกเราเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร มาหลายชั่วอายุคน เราเชื่อและศรัทธาต่อกฎเกณฑ์ของธรรมชาติและคำสั่งสอนของบรรพบุรุษ ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมทางด้านดนตรีของเราจะไม่ได้พัฒนาไปตามยุคตามสมัยของโลกยุคใหม่ก็ตาม แต่นี่คือคุณและค่าในความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมดนตรีที่เราชอบ และเราจะอนุรักษ์สืบทอดเอาไว้ เพื่อเป็นการแสดงความคารวะ ขอบคุณต่อบรรพบุรุษของพวกเราครับ”
“ดนตรีนาเด่งสะท้อนวิถีชีวิตในป่าเขา ชาวกะเหรี่ยงจะเล่นนาเด่งกลางป่า ท่ามกลางแสงจันทร์ เสียงนาเด่งจะไม่ดังมาก และเป็นเสียงกลมๆ ซึ้งๆ เพราะๆ จะช่วยขับกล่อมจิตใจให้นิ่งสงบ นาเด่งเป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่อันเกิดจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษของกะเหรี่ยงที่ ได้สืบทอดอยู่ คู่กับพี่น้องชาวกะเหรี่ยงในตำบลไล่โว่มาช้านาน”
บทเพลงแรกที่นำมาฝาก คือ เพลงสัตว์ดง คนดอย เป็นบทเพลงที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงไล่โว่ที่มีความผูกพันกับ ธรรมชาติ ป่าใหญ่จึงเป็นทั้งบ้านและแหล่งอาหาร นอกจากนี้ เนื้อเพลงยังสะท้อนขนบธรรมเนียมของชาวกะเหรี่ยงที่มีคติแห่งการสำนึกและ ตระหนักในคุณค่าของธรรมชาติ
สัตว์ดง คนดอย
“ขอกล่าวถึงการเริ่มต้นกำเนิด เราได้เกิดร่วมโลกเป็นญาติพี่น้องกัน
อาศัยอยู่ริมป่าเขาแผ่นดินทอง ริมธารน้ำริมคลองที่พักพิง
ชาวกะเหรี่ยงบนดอยดงหุบเขา ดำรงเผ่าอยู่ร่วมกับลิงค่าง
ใต้ไม้แดงตะเคียนทองข้างริมทาง โอ้เจ้ากวางได้อาศัยเป็นร่มเงา
หุบเขาลึกดอยเขาสูงคอยรับแสง หินผาแดงตั้งมั่นข้างริมน้ำ
สรรพสิ่งต้นกำเนิดรูปและนาม จากหยาดน้ำที่ละหยดเป็นแม่กลอง
บรรพบุรุษของชาวกะเหรี่ยง ทำไร่ก็เพียงแค่พอได้กิน
ร่วมทุกข์สุขธรรมชาติเป็นอาจิณ จนชีพสิ้นไม่เคยอยู่ในเมืองศิวิไลซ์
ทำไร่ก็ต้องอาศัยความขยัน ต้องดูแลพิธีกรรมหมั่นรักษา
พระแม่ธรณีตามวัฒนธรรมต้องพึ่งพา เราไม่ได้ทำเพื่อขายและทำลาย
ทุกเช้าค่ำจากชาวดอยปรารถนาดี ขอให้มีสามัคคีญาติพี่น้อง
ขอบชายแดนเสียงนาเด่งฝากทำนอง ดังกึกก้องทั่วป่าใหญ่ลำเนาไพร”

ในเพลงที่สอง “เพลงฐานหลักใต้พระแก้ว” จะเป็นการร้องเพลงประกอบดนตรี คือ เมตาลี่ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่คู่กับพี่น้องชาวตำบลไล่โว่ มาตั้งแต่อดีต เพลงฐานหลักใต้พระแก้วจะเป็นการกล่าวถึงความสำคัญของพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ ประดิษฐานอยู่ในป่าเขา ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวกะเหรี่ยงในตำบลไล่โว่ ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ที่หมู่บ้านสะเน่พ่อง อันเป็นเมืองสังขละบุรีเก่าในครั้งอดีต
“ฐานหลักใต้พระแก้ว”
ภูเขาสูงใหญ่พนา ดำรงอยู่คู่กับบรรพชน
ชาวกะเหรี่ยง พุทธศาสนา อาศัยป่าได้เลี้ยงชีพ
ตั้งหมู่บ้านอยู่กับธรรมชาติ เช่นหมู่บ้านจะแก ทิไล่ป้า ไล่โว่ สะสะวะ
เกาะสะเดิ่ง กองม่องทะ สะเน่พ่อง ชาวกะเหรี่ยงได้อาศัยแผ่นดินทอง
หลักฐานพระศรีสุวรรณคีรี ใต้พระแก้วมณีสะเน่พ่อง
แสงพระบารมีได้คุ้มครอง ทั้งป่าดง พงไพร ให้ร่มเย็น

เพลงกะเหรี่ยงที่ขับขานในงานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ แม้จะเป็นเพียงการแสดงเพียงระยะสั้นๆ แต่ก็สร้างความสุนทรีย์แก่ผู้ฟังเป็นอย่างมาก ดนตรีกะเหรี่ยงจึงไม่ได้มีเพียงความไพเราะในท่วงทำนองแห่งชนกะเหรี่ยงเท่านั้น หากความหมายของบทเพลงยังปลุกความชุ่มชื่นใจให้ผู้ฟังได้สัมผัสถึงความบริสุทธิ์ ความผูกพันที่มนุษย์มีต่อธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่เกื้อกูลหล่อเลี้ยงซึ่งกัน และกัน
ดนตรีกะเหรี่ยงจึงเป็นการบรรเลงเพลงชีวิตบรรเลงวัฒนธรรมผ่านเนื้อร้องทำนอง เพลงเพื่อสะท้อนความเป็นกะเหรี่ยงไล่โว่ ด้วยสำนึกที่ผูกพันกับธรรมชาติและด้วยเกียรติภูมิแห่งชนกะเหรี่ยง
ฟังเพลง
http://www.youtube.com/watch?v=rEPVyrh1VlU&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=sdvbdDt2BVY
***************************
รุ้งตะวัน อ่วมอินทร์
นักวิชาการ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
|