ท่องเที่ยวด้วยความเข้าใจ สืบสานวัฒนธรรมเกาะเกร็ด
บทความโดย :
โดยทีมงาน | โพสเมื่อวันที่ 03 ก.พ. 2555 09:21 น.
“เกาะเกร็ด เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมชาวมอญ ชาวไทย ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจในความเป็นชาติพันธุ์ของกันและกันมาโดยตลอด”

“การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” เป็นแนวคิดที่ถูกใช้ในแวดวงการท่องเที่ยวอย่างหลากหลายความหมาย บ้างก็หมายถึงโฮมสเตย์ บ้างก็หมายถึงการชมการแสดงแสงสีเสียงอลังการในโบราณสถานแห่งชาติ บ้างก็หมายถึงการชมการแสดงทางวัฒนธรรม บ้างก็หมายถึงการไปตลาดน้ำ บ้างก็หมายถึงการไปเที่ยวหมู่บ้านชาวไทยภูเขาฯลฯ ไม่ว่าจะในความหมายใดก็ตาม การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกำลังได้รับความสนใจจากจากนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ องค์กรภาครัฐหลายองค์กรได้หันมาให้ความสำคัญในการใช้ทุนทางวัฒนธรรมของแต่ละ ชุมชน มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้น
“เกาะเกร็ด” เกาะกลางลำน้ำเจ้าพระยาย่าน อ. ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอกจากจะมีบรรยากาศสดชื่นด้วยละอองน้ำที่พัดผ่านจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังมีเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมของชาวมอญ ชาวไทย ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจและเคารพในความเป็นชาติพันธุ์ ของกันและกันมาโดยตลอด เสน่ห์ของพื้นที่และผู้คนทำให้ในแต่ละวันมีผู้มาเยือนเกาะเกร็ดเป็นหลักร้อย ในวันหยุดสุดสัปดาห์มีถึงหลักพัน (วันเสาร์โดยเฉลี่ยประมาณ 5,000 คน วันอาทิตย์เฉลี่ยประมาณ 60,000 คน) ทั้งนี้ทางอบต.เกาะเกร็ดได้รวบรวมจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยของปี 2552 ไว้ว่าสูงถึง 700,000 คน
ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตลอดสองฝั่งทางเดินที่ลัดเลาะในชุมชนชาวมอญรอบเกาะจะคราคร่ำด้วยนักท่อง เที่ยวที่เข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมมอญในหลากหลายศาสตร์ ทั้งเครื่องปั้นดินเผา เครื่องดนตรีมอญเดิม อาหารการกิน ที่ล้วนบ่งบอกความเป็นมอญขนานแท้อย่างข้าวแช่ หรือจะเป็นของกินขึ้นชื่ออย่าง ทอดมันหน่อกะลา
จากมุมมองของอบต.เกาะเกร็ดเกี่ยวกับจำนวนของนักท่องเที่ยว และปัญหาหรือผลกระทบจากการท่องเที่ยวนั้น ทางอบต.ไม่ถือว่ามีปัญหารุนแรงอะไร เพราะแม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะมากก็จริง แต่จะทยอยมาตลอดทั้งวัน อาจมีปัญหาบ้างเรื่องการจัดการขยะภายในเกาะ เรื่องมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามา แต่ก็ถือเป็นปัญหาสากลของการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี ผู้เขียนเห็นว่า เมื่อชุมชนทั้งชุมชนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้ว สิ่งที่น่าใส่ใจไม่น้อยไปกว่าปัญหาเชิงกายภาพของพื้นที่และการจัดการ คือเรื่องมิติทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยว คำถามคือคนหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว น่าจะหรือควรจะมีท่าทีอย่างไร เพื่อเอื้อให้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เกาะเกร็ดดำเนินไปอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความเข้าอกเข้าใจและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อ. พิศาล บุญผูก ผู้ทรงคุณวุฒิชาวมอญเกาะเกร็ด ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ชาวมอญมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบัน มอญจะไม่มีประเทศ ต้องมาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทย และถือเป็นพลเมืองไทย แต่ในด้านการสืบสานวัฒนธรรมชาติพันธุ์มอญนั้น จะมีความเข้มแข็งมาก โดยผ่านสถาบันพระสงฆ์ของชาวมอญที่ถือเป็นปูชนียบุคคล ที่ชาวมอญเคารพทั้งเรื่องพระพุทธศาสนาและถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมอญ
ด้านแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สุขใจทั้งคนในชุมชน และนักท่องเที่ยวนั้น อ.พิศาลเสนอว่า ควรจะเกิดจากความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ คนในชุมชนและนักท่องเที่ยว ทั้ง3 ส่วนนี้ต้องมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมในการเรียนรู้ มากกว่าจะให้ค่ากับการท่องเที่ยวมากกว่าการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างแท้จริง

การวางตัวของหน่วยงานรัฐ
อ. พิศาล เห็นว่า การส่งเสริมการเรียนรู้อัตลักษณ์วัฒนธรรมมอญเกาะเกร็ดเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แต่สิ่งที่ยังขาดคือความเข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีของชาวมอญเกาะเกร็ด
“เดิมทีชาวมอญเกาะเกร็ดมีเจตนาที่จะสืบสานและเผยแพร่วัฒนธรรมมอญให้คงอยู่ พร้อมทั้งต้องการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมมอญผ่านเครื่องปั้นดินเผาเกาะ เกร็ด และวัฒนธรรมที่น่าสนใจอื่นๆ เมื่อทางจังหวัดเห็นว่าเกาะเกร็ดน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ก็มีการส่งเสริมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ภาครัฐจำเป็นต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรมมอญด้วย เพื่อส่งเสริมได้อย่างถูกทิศทาง เช่น การส่งเสริมให้ทุนในการฟื้นฟูวัฒนธรรม โดยให้โอกาสคนมอญในชุมชนเป็นผู้ดำเนินการ เพราะประเพณีทางวัฒนธรรมมีความหมายต่อชาวมอญ สร้างสำนึกในความเป็นมอญ จวบจนการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมชาติพันธุ์ของตนเอง
นอกจากนี้ ต้องทำความเข้าใจในรหัสทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย พึงระวังมิให้การท่องเที่ยวมาบิดเบือนวัฒนธรรม เช่น แต่เดิมกิจกรรมทางวัฒนธรรมของมอญจะจัดงานตามวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งอาจไม่ตรงกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ก็พยายามโน้มน้าวให้มีการจัดงานให้ตรงกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่อหวังให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการบิดเบือนวัตุประสงค์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น ดังนั้น ภาครัฐจึงควรทำความเข้าใจในรหัสของวัฒนธรรมมอญก่อนว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไร มีความเป็นมา และมีความสำคัญอย่างไร ทั้งนี้เพื่อจะได้สนับสนุนได้อย่างถูกทิศทาง”
การวางตัวของเจ้าของวัฒนธรรม
อ.พิศาล เห็นว่า สิ่งหนึ่งที่คนในชุมชนพึงระมัดระวังในยุคของการไหล่บ่าของการท่องเที่ยวใน เกาะเกร็ด คือ ต้องไม่ให้การท่องเที่ยว และระบบธุรกิจเข้ามามีบทบาทเหนือการสืบสานวัฒนธรรมมอญ การจำหน่ายของที่ระลึกถือเป็นเผยแพร่วัฒนธรรมมอญเกาะเกร็ดให้เป็นที่รู้จัก แพร่หลาย จึงควรสะท้อนความคิด ความเป็นอยู่ของคนมอญเกาะเกร็ดแบบดั้งเดิม ต้องมีคุณภาพ และไม่ค้ากำไรเกินควร

การวางตัวของนักท่องเที่ยว
ด้านการวางตัวของนักท่องเที่ยว อ. พิศาล ก็ให้แง่คิดแก่ว่านักท่องเที่ยวว่าควรมีท่าทีของการเป็นผู้สังเกตการณ์ทาง วัฒนธรรม คือ เป็นผู้เรียนรู้วัฒนธรรมของกลุ่มชน เพื่อสร้างความเข้าใจอันมีจุดมุ่งหมายเพื่อตระหนักในคุณค่าและความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม เคารพในวิถีของชุมชน
“ มอญให้ความสำคัญกับการทำบุญเป็นอย่างมาก รายละเอียดในประเพณีพิธีกรรมทุกขั้นตอนมีความหมาย มีรหัสทางวัฒนธรรมต่อชาวมอญ ในส่วนของนักท่องเที่ยวก็ควรท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ คือ เข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรม และต้องเข้าใจว่างานบุญงานประเพณีทางวัฒนธรรมไม่ใช่การแสดง แต่เป็นงานบุญที่เกิดจากความศรัทธา เมื่อนักท่องเที่ยวต้องการเรียนรู้วัฒนธรรม ก็ต้องทำความเข้าใจและเคารพในวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นด้วย”
เข้าถึงรหัสวัฒนธรรม เข้าถึงหัวใจของวัฒนธรรม
นอกจากการเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีในแต่ละท้องถิ่นแล้ว การทำความเข้าใจรหัสวัฒนธรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวตระหนัก ถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ
อ. พิศาลเสนอว่า หัวใจของการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม คือ การสืบค้นรหัสทางวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ว่ามีความหมายในด้าน การอบรมจริยธรรมอย่างไรบ้าง แฝงข้อคิดที่เป็นแนวทางดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง เป็นภูมิปัญญาที่แทรกในวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่มชนอย่างไร ทุกอย่างล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การหล่อหลอมให้คนมีความประพฤติที่ดีงาม
ในวันนี้ เกาะเกร็ดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมใกล้กรุงที่ได้รับความนิยมจากนัก ท่องเที่ยวจำนวนมาก และลูกหลานมอญในสมัยดิจิตัลครองเมือง ยังไม่ลืมรากแก้วแห่งบรรพชน จนทำให้มอญเกาะเกร็ดเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่สืบสานวัฒนธรรมมอญได้อย่างน่าชื่น ชม
และหากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเกาะเกร็ดจะท่องเที่ยวด้วยความ เข้าใจ เห็นคุณค่าและเคารพในวัฒนธรรมมอญเสมือนเป็นวัฒนธรรมของตนเอง ก็จะยิ่งส่งเสริมบรรยากาศแห่งการเรียนรู้อัตลักษณ์ และเห็นคุณค่าในมิติทางวัฒนธรรมที่หลากหลายไปพร้อมๆ กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
*****************************
รุ้งตะวัน อ่วมอินทร์
นักวิชาการ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
|